Pomelo ระดมทุนครั้งใหม่สำเร็จมูลค่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | Techsauce

Pomelo ระดมทุนครั้งใหม่สำเร็จมูลค่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

pomelo

เป็นอีกความเคลื่อนไหวของ Startup ในไทยเมื่อ Pomelo ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ที่โดดเด่นด้านการสร้างแบรนด์ของตนเอง ประกาศระดมทุนครั้งใหม่สำเร็จเสริมจากรอบเดิม (Sereis A) มูลค่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ครั้งนี้นักลงทุนหลักคือ Jungle Ventures โดยมีนักลงทุนรายอื่นตามร่วมด้วยอย่าง Andre Hoffmann, 500 Tuk Tuks และ Jonathan Price ด้วยการระดมทุนรอบนี้ Pomelo จะนำไปขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค โดยมีการดึงคนในวงการอย่าง Meg Mistry อดีต Craetive Director แห่ง Zalora มาเป็น Brand President และ James Lamrock อดีต Cheif Logistics Officer จาก Luxola มาเป็น Regional VP ดูแลด้าน Operation และได้มือดีอีกคนอย่าง Jonathan Price อดีต MD จาก The Body Shop Asia และ Global COO แห่ง Targus มานั่งเป็นที่ปรึกษาใน Pomelo อีกด้วย

Processed with VSCOcam with hb2 preset

อ้างอิงจาก : DealStreetAsia

techsauce ได้มีโอกาสเยี่ยมเยียนออฟฟิสของ Pomelo แถวพระราม 4 ที่นั่นนอกจากมีออฟฟิสสไตล์เก๋ๆ เหมาะสำหรับสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานแล้ว ยังมีทีมนักออกแบบและทีมผลิตพร้อม Warehouse ในตัว ซึ่งทำให้ตัดคนกลาง สามารถนำเสนอสินค้าราคาย่อมเยา นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างของ Pomelo คือการสร้างแบรนด์ขึ้นมาด้วยตนเอง และมีโฟกัสที่ชัดเจน David Jou Co-founder และ CEO แห่ง Pomelo แชร์มุมมองกับเราว่า

"ผมคิดว่าเรื่องแรกที่ผมเรียนรู้จาก General e-commerce ก็คือว่า เหตุผลหลักที่คนจะซื้อของจากเรา นั่นคือเรื่องราคา เช่น ถ้าคุณจะซื้อสมาร์ทโฟนทั่วไปซักเครื่องจากอินเทอร์เน็ต วิธีตัดสินใจได้เร็วๆ ก็คือการเข้าเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา หรือไม่ก็เซิร์จเองใน Google เปรียบเทียบราคาในมาบุญครอง ใน Lazada หรือในเว็บอื่นๆ ใช่ไหมครับ? แต่สำหรับ Vertical e-commerce นั้นจะแตกต่างกัน สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนเลยคือการสร้างแบรนด์ คุณต้องสื่อสารข้อความของแบรนด์ออกไป ต้องแอคทีฟบน Social media และพยายามพูดคุยและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณ และสามคือ คุณต้องใช้เวลามากๆ กับการพัฒนาสินค้าของคุณอยู่เสมอ เราใช้เวลาไปกับการออกแบบ วิจัยเทรนด์ เข้าใจผู้บริโภค สรรหาวัตถุดิบ  ทั้งหมดนี้ใช้เวลามาก e-commerce เป็นอะไรที่ตรงไปตรงมาครับ มีคนให้บริการมากมาย มีการตลาดที่ตรงไปตรงมา ใครๆ ก็ทราบ ดังนั้นคุณต้องสร้างความแตกต่างที่ตัวสินค้า ดังนั้นคำถามที่เราคุยกันจึงไม่ใช่คำถามว่าคุณขายของออนไลน์หรือเปล่า แต่คำถามคือคุณขายอะไรต่างหาก นั่นคือคำถามสำคัญที่พวกเราควรถามตัวเอง" ปัจจุบัน Pomelo มีสำนักงานใหญ่ในไทย และมีสาขาที่อินโดนีเซียและสิงคโปร์ มีลูกค้ากระจายตัวอยู่ทั่วโลกกว่า 44 ประเทศ

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จัก Pomelo มากกว่านี้ พบกับบทความสัมภาษณ์ของ David Jou แบบเต็มๆ ได้ที่นี่ และ การแชร์ประสบการณ์การทำตลาดโดยคุณเบลล์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดในไทย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...