เคยไหมนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือสอบแต่ต้องกินเหน็บของกินมาวางข้างกายเสมอ และแม้จะกินจนอิ่มแล้วแต่ก็หยุดกินไม่ได้ 

จากงานวิจัยพบว่า ประชากรทั่วโลกกว่า 5% กำลังมีอาการที่กินแบบผิดปกติ (Eating disorder) 

ไม่ว่าจะเป็นโรคคลั่งผอม (Anorexia) หรืออาการที่ไม่กินข้าวเพราะกลัวอ้วน หรือโรคโรคล้วงคอ ที่กินแล้วไปอ้วกออก (Bulimia) ที่เราเคยได้ยินว่ามีดารานางแบบทำตามนิตยสาร แต่มีอีกอาการที่คนอาจจะเป็นแต่ไม่รู้ตัวกันนั้นก็คืออาการของ #BingeEating 

Binge Eating Disorder คือ โรคทางประสาทที่ทำให้เรากินเรื่อย ๆ ไม่หยุด ในปริมาณที่มากเกินปกติ และมักจะรู้สึกผิดที่หลังกินเสร็จ เพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ 

จากงานวิจัยพบว่าโรคนี้ยังพบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 20 ตอนต้น 

เช็คตัวเอง เราเป็น Binge Eating Disorder แล้วหรือยัง 

หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ อย่างต่ำ 1 ครั้ง/อาทิตย์ และต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน รวมถึงมีอาการด้านล่างมากกว่า 3 ข้อ คุณอาจเข้าข่ายโรค Binge Eating Disorder 

• กินได้เร็วกว่าปกติ
• กินจนอิ่มเกินไป จนรู้สึกอึดอัด กินจุกจิกเกินมื้ออาหาร
• กินปริมาณเยอะกว่าปกติ แต่ก็ยังไม่อิ่ม
• แอบกินเงียบ ๆ คนเดียวเพราะอายที่ตัวเองกินเยอะ
• รู้สึกแย่กับตัวเองหลังกินเสร็จ

5 สาเหตุของอาการ Binge Eating Disorder

สาเหตุของโรคนี้มาจากสารเคมีในสมองอย่างเลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความหิวที่หลั่งออกมามากผิดปกติ จนส่งผลให้ร่างกายมีความอยากอาหาร และอยากกินตลอดเวลา 

• ความเครียด โกรธ เศร้า เบื่อหน่าย
• การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
• ไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง และความเครียดจากการพยายามลดน้ำหนัก รวมถึงเป็นโรคอ้วนควบคู่ด้วย
• มีภาวะทางจิตร่วมด้วย เช่น โรคซึมเศร้า เครียด
• เคยผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจร้ายแรง  

ซึ่ง 5 สาเหตุดังกล่าวล้วนเป็นสาเหตุทำให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความหิวออกมามากจนกลายเป็นอาการผิดปกตินั้นเอง

โรคนี้ส่งผลกระทบทั้งระบบร่างกาย

• ร่างกายพัง 

เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเกินความจำเป็นทำให้เกิด ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาย โรคกรดไหลย้อน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

• จิตใจแย่ 

พอเจอคำถามอ้วนขึ้นไหม ? ทำให้คนเป็นโรคนี้รู้สึกแย่ เมื่อกินอาหารเยอะเกินก็ทำให้อายที่จะเข้าสังคม รู้สึกแปลกแยก จนอาจจะทำให้เครียดและเริ่มใช้สารเสพติดร่วมด้วยและทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า โรควิตกกังวล จนถึงขั้นเป็นไบโพลาร์

• ชีวิตประจำวันสะดุด 

เพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพและบั่นทอนความมั่นใจลง

How to อยู่ให้ห่าง Binge Eating Disorder 

• กินอาหารที่มีประโยชน์
• ออกกำลังกาย
• หากิจกรรมที่ระบายความเครียดออก  เช่น ฟังเพลง จัดสวน ทำความสะอาดบ้าน
• นอนหลับให้เพียงพอ  

ที่มา : Psychiatry, Pobpad

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก ConNEXT ได้ ที่นี่ https://bit.ly/3xKvJtn 

ติดต่อร่วมงานกับ ConNEXT ได้ที่อีเมล [email protected]