Safe City เมืองปลอดภัยสร้างได้ ผ่านการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วย Smart Security | Techsauce

Safe City เมืองปลอดภัยสร้างได้ ผ่านการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วย Smart Security

Smart Security หนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก จากการพัฒนาของเทคโนโลยี  IOT (Internet of Things) ที่เข้ามามีบทบาทในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการนำไปใช้ในด้านความมั่นคง และความปลอดภัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ ดังนั้นจึงต้องมีการวางให้เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ที่เข้าถึงสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างครอบคลุม เพื่อที่จะสามารถพัฒนาประเทศไปสู่การเป็น Safe City เมืองปลอดภัย ที่ประชาชนอาศัยอยู่อย่างไร้ความกังวล

บมจ. สกาย ไอซีที  (SKY ICT) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาจากบมจ. ซีซีเอ็น-เทค ที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้เช่าคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป และได้มีการเห็น Growing Demand ในธุรกิจด้าน Security ที่มีอยู่มาก ภายใต้การบริหารงานของหัวเรือใหญ่อย่าง ‘สิทธิเดช มัยลาภ’ กำลังหลักที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดและก้าวขึ้นสู่การเป็นธุรกิจไอซีทีชั้นนำของประเทศภายในระยะเวลาไม่กี่ปี

Smart security-SKY ICT

SKY ICT ปรับโฉมธุรกิจ สอดรับการเติบโตของยุค Digital 

สิทธิเดช เล่าว่า หลังจากได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ บริษัทก็ได้มีการลงทุนในด้าน Human Capital เพื่อที่จะสามารถพัฒนาบุคคลกรของบริษัทให้ตอบรับกับโมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในอุตสาหกรรมนี้ พร้อมกันนี้บริษัทได้มีการขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการ (Merger and Acquisition) ที่เกี่ยวข้องและสามารถต่อยอดธุรกิจได้ 

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปถือหุ้นจำนวน 34% ในบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเทเลคอม พร้อมกันนี้ยังมีการเข้าลงทุนซื้อหุ้น 40% ในบริษัท จีฟินน์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะ 

นอกจากการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาภายใน และความร่วมมือกับองค์กรภายนอกผ่านการเข้าซื้อกิจการแล้ว สกาย ไอซีที ยังได้สนใจที่จะลงทุนใน Start Up ที่มีศักยภาพเพื่อเสริมความแข็งแกร่งไปด้วย  โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาหลากหลายด้าน ได้แก่ Digital Platform AI (Artificial Intelligence) ML (Machine Learning) Big Data และ Cloud ซึ่งแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่มีความสอดคล้องเป็น Ecosystem ซึ่งกันและกันโดยสิ้นเชิง 

ทั้งนี้ภายในระยะเวลา 2-3 ปี สกาย ไอซีที เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความไว้วางใจให้ดูแลงานขนาดใหญ่ระดับประเทศทั้งของภาครัฐ และภาคเอกชน  โดยปัจจุบันบริษัทได้มีการมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ Smart Security การให้บริการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีระบบจดจำใบหน้า (Face RecognitionDigital Platform โดย สกาย ไอซีที เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดูแลระบบของ AOT Application ที่กำลังจะเปิดตัว Digital Trunked Radio วิทยุสื่อสารระบบดิจิทัล 

Smart security-SKY ICTFace Recognition

สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ปัจจุบันสกาย ไอซีที ได้ให้บริการติดตั้งในพื้นที่ของท่าอากาศยานไทย ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ รวมถึงมีการติดตั้งบริเวรพื้นที่ของกรมศุลกากรทั่วประเทศ ซึ่งก็จะมีการใส่ระบบจดจำใบหน้าเฉพาะจุดที่มีความสำคัญ เช่น บริเวณทางเข้า ทางออก และบริเวณที่มีประชากรหนาแน่น 

นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้สกาย ไอซีที จะมีการความร่วมมือกับ บริษัทที่ได้ชื่อว่ามีระบบจดจำใบหน้าที่ดี และแม่นยำที่สุดในโลกของจีน โดยเหตุผลที่ได้เลือกจีน เนื่องจากเราได้มีการทดสอบประสิทธิภาพแล้ว พบว่ามีความแม่นยำมากที่สุด ซึ่ง AI มีรากฐานคือ ความแม่นยำ โดยความแม่นยำเกิดจากการเรียนรู้ ซ้ำไปซ้ำมา หรือที่เรียกว่า ML ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก 

ดังนั้นในการทดสอบระบบก็จะสามารถมีชั่วโมงบินในการฝึกฝนให้เกิดความแม่นยำมากกว่าประเทศอื่นๆ อีกทั้งเนื่องด้วยปัจจัยทางด้านชาติพันธ์ของการเป็นคนเอเชีย ดังนั้นการพัฒนาระบบของจีน ที่ให้ AI ได้จดจำก็มีความใกล้เคียงกับคนไทยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างหน้า ผิวพรรณ สีผม สีคิ้ว 

Digital Trunked Radio 

Digital Trunked Radio เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการสร้างความปลอดภัยให้กับเรา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีฟังก์ชั่นที่ทันสมัย ทำให้เขาสามารถที่นำมาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลประชาชนได้ในทุกวัน สามารถจับผู้ร้ายได้เร็วขึ้น และมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงสถานที่ที่เสี่ยงภัย ทำให้ Safe ชีวิตของคนไทยได้มากขึ้น และมันจะสามารถช่วยลดอัตราการตายจากอาชญากรรมได้ 

โดยสิ่งที่สกาย ไอซีทีได้ทำ คือ การปรับเปลี่ยนระบบวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จากเดิมเป็นแบบ Push to Talk ระบบ 2G สื่อสารผ่านเสียงเพียงอย่างเดียว เปลี่ยนมาเป็นวิทยุสื่อสารที่มีฟังก์ชั่นเหมือนสมาร์ทโฟน สามารถที่จะ Live เห็นการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วส่งให้หน่วยงานส่วนกลางได้อย่างรวดเร็ว และทุกฝ่ายเห็นภาพเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือ การทำงานได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว และสามารถ Safe ชีวิตคนได้ ก็จะทำให้ประชาชนรู้สึกมีความปลอดภัยมากขึ้น 

Smart security-SKY ICTDigital Platform 

การให้บริการด้าน Digital Platform สกาย ไอซีที ได้เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอพพลิเคชั่น  AOT Digital Platform ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลงสนามบินนานาชาติในไทยให้กลายเป็น Digital Airport โดยเป็นการเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ ในสนามบินให้สามารถพูดคุยกับผู้โดยสารได้ โดยภายใน แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะทำหน้าที่ให้บริการด้านข้อมูลเที่ยวบิน ระบบนำทาง ระบบสะสมคะแนน และมีบริการที่จะอำนวยความสะดวกในหลาย ๆ ด้าน 

เช่น สามารถจองที่จอดรถล่วงหน้าได้ มีระบบแจ้งเตือนการรับกระเป๋าตอน Landing สามารถจองเลาจน์เซอร์วิส หรือจองได้แม้กระทั่งแท็กซี่ นอกจากนี้ยังมีการใช้ AOT coin ซึ่งจะเป็นบริการที่ Senergy กับบัตรเครดิตของทุกธนาคาร ให้ผู้ใช้บริการสามารถนำแต้ม ที่อยู่ในบัตรเครดิตมาแลกเป็นบริการจาก AOT ได้ 

Mission หลักของสกาย ไอซีที คือ การพัฒนาระบบเพื่อยกระดับมาตรฐานทางด้านความปลอดภัย และนำมาซึ่งความสะดวกสบายให้กับประชาชน

ความมั่นคงปลอดภัย รากฐานสำคัญต่อการดำรงชีวิต

ตามหลักปรัชญาแล้วความมั่นคง ความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์ เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์มีความรู้สึกว่าตัวเองมีความปลอดภัย เขาก็จะสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงาน สร้างสรรค์ความคิดดี ๆ และสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ แต่ในทางกลับกันเมื่อไหร่ที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ว่าด้วยกรณีอะไรก็ตามแต่ จำส่งผลให้คนเราไม่สามารถที่จะโฟกัสกับอะไรได้เลย 

ดังนั้นสิ่งที่ สกาย ไอซีที กำลังพยายามทำ คือ การเข้ามา Tap กับ Human Sense โดยการทำให้ตัวบุคคล รู้สึกปลอดภัย และสามารถที่จะ Perform หน้าที่ของเขาได้ดีที่สุด โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร ซึ่งจากการที่เราได้มุ่งเน้นธุรกิจไปทางด้าน Security เนื่องจากตลาดดังกล่าว ถ้ามองในแง่อุตสาหกรรมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

โดยปัจจุบันหลายองค์กรต้องการที่จะสร้างธุรกิจที่เขาสามารถใช้ความสามารถในสิ่งที่เขาถนัดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นในบางอย่างที่เขาไม่ถนัด เขาก็ต้องการที่จะให้ผู้ที่ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญมาคอยดูแลให้ โดยเฉพาะ ด้านความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดจำนวนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ ตรงนี้จึงเป็นโอกาสที่เราจะเข้าไปมีบทบาทได้มากขึ้น

ไม่มีใครต้องการมานั่งปวดหัวเรื่องกล้องวงจรปิด ว่าจะเสียหรือไม่เสีย ต้อง Set ทีมที่ต้องมาดูแล ไม่มีใครที่อยากมาปวดหัวการจ้าง รปภ. แล้วให้ HR มาดูแล เพราะทุกคนมีเรื่องที่ต้องโฟกัส ดังนั้น หลายองค์กรจึงต้องตัดงานที่ตัวเองไม่ถนัด และเอามาให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้น

Smart security-SKY ICTSmart Security โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อเมือง สู่การพัฒนาเป็น Safe City

ปัจจุบันคำว่า Smart City  เป็นสิ่งที่ได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลาย ด้วยการเข้ามามีบทบาทของ IoT (Internet of Thing) ในการพัฒนาเมืองให้พร้อมไปด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อสาธารณะ ประโยชน์ และทำให้เกิดความสะดวกสบายกับประชาชนผู้อยู่อาศัยมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เป็นรากฐานนำไปสู่การพัฒนา คือ ความมั่นคงและความปลอดภัยของผู้ที่อาศัยในเมืองนั้น ๆ 

โดยสิทธิเดช มีมุมมองว่า สำหรับประเทศไทยแล้วก่อนที่จะสามารถพัฒนาไปสู่การเป็น Smart City อย่างเต็มรูปแบบนั้น จะต้องเป็นเมืองที่มีความSmart Security ให้ได้ก่อน หรือที่เรียกว่า Safe City ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า Smart City ประกอบไปด้วยหลากหลายอย่างด้วยกัน security เป็นหนึ่งในนั้น IOT เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นก่อนที่เมืองจะพัฒนาก็ต้อง Make Sure ก่อนว่า เมืองที่เราอยู่มันมีความปลอดภัย 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การมีกล้องวงจรปิดที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ทั่วบริเวณ และต้องมีความเพียงพอที่จะสามารถควบคุมพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ส่งสัญญาณถึงกัน เก็บฐานข้อมูลต่าง ๆ โดยสามารถที่จะนำมา Report ย้อนหลังได้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน ในแง่ของการเกิดอาชญากรรมได้ 

ผมเชื่อว่า Security  มันคือ Backbone  ของทุกอย่าง พอเราไปเรื่อง IOT  ที่สามารถทำให้ทุกอย่างกลายเป็น สิ่งที่ Smart ไม่ว่าจะเป็น Smart Meter Smart Electric หรือจะเป็น Smart Environment สามารถทำได้หมด เพราะมันเป็นรากฐานให้กับทุกอย่าง

Smart Security ต้องการคนที่ Smart มากกว่าเทคโนโลยีที่ฉลาด

เทคโนโลยีมันเปลี่ยนตลอดเวลา จากการที่เราวางรากฐานในปัจจุบัน ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทุกอย่างมันจะมีความพร้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราทำปัจจุบันมันคือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มันจะต้องมีตั้งแต่วันนี้  แล้วในอนาคตไม่ว่าจะโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ถ้าเรามีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง ก็จะสามารถต่อยอดได้  

โดยเฉพาะด้านความมั่นคง และความปลอดภัย เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยให้เป็น Smart Security ได้ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ได้ นอกจากนี้ก็จะส่งผลไปยังบุคคลากรที่อยู่ในการทำงานด้าน Security ด้วย อย่างเช่น เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย ก็จะต้องมีความสมาร์ท โดยสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อมาเสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างคล่องตัว 

ในช่วงนี้เป็นยุคที่โลกของมนุษย์และโลกของเทคโนโลยีมาเจอกัน การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น ดังนั้นเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ผลักดันให้พวกเขาต้องเรียนรู้ เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีได้มากขึ้น 

 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

มรดกแนวคิด Steve Jobs ที่ส่งต่อถึง Tim Cook เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Apple

Tim Cook ยกหนึ่งคำสอนล้ำค่าในการทำงานจาก Steve Job ที่ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร นั่นก็คือ ‘ทุกคนสามารถสร้าง...

Responsive image

ทำไมองค์กรต้องมี ‘Innovation Culture’ พื้นฐานที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากสร้างนวัตกรรม

ในบทความนี้ Techsauce ขอพาผู้อ่านไปรู้จักคำว่า Innovation Culture หรือ วัฒนธรรมนวัตกรรม อีกฟันเฟืองสำคัญของการสร้างนวัตกรรมองค์กรที่ขาดไปไม่ได้...

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...