Photo: H E N G S T R E A M, Unsplash

Marsh & McLennan Companies บริษัทที่ทำงานด้านการให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยง, กลยุทธ์ และทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงให้บริการด้านการประกันภัย เผยรายงานที่ชื่อว่า “The Twin Threats of Aging and Automation” (ภัยคุกคามของผู้สูงวัยและการทำงานแบบอัตโนมัติ) โดยศึกษาความเสี่ยงจากเกิดจากระบบทำงานอัตโนมัติที่จะเข้ามาแทนที่แรงงานสูงวัยใน 15 ประเทศทั่วเอเชียยุโรปและอเมริกา

รายงานเผยข้อมูลการศึกษาค้นคว้า โดยพบว่าประชากรสูงวัยที่มีมากขึ้น รวมถึงการเกิดขึ้นของระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation Workplace) จะส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศหลัก ๆ ของเอเชียซึ่งแรงงานที่มีทักษะต่ำระหว่างอายุ 50 ถึง 64 ปี ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้กำลังมีสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

"ธุรกิจในปัจจุบันมีการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากขึ้น แต่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อแรงงานที่มีอายุมากขึ้น ทำให้มีผลต่ออัตราการว่างงาน การขยายความเสมอภาค และความปลอดภัยมากขึ้น" Axel Miller, หุ้นส่วนของ Oliver Wyman และผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าว "แม้ในขณะที่แรงงานสูงวัยที่มีอายุมากขึ้นมีความเต็มใจและสามารถทำงานได้ดี แต่คนที่มีฝีมือในสภาพแวดล้อมการทำงานสำหรับอดีต อาจเสี่ยงต่อการถูกกีดกันออกจากเศรษฐกิจในอนาคตได้เช่นกัน"

10 ประเทศที่มีความเสี่ยงว่าแรงงานสูงวัย (อายุ 50-64 ปี) จะถูกแทนที่ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ได้แก่

• จีน - 76 เปอร์เซ็นต์
• เวียดนาม - 69 เปอร์เซ็นต์
• ไทย - 69 เปอร์เซ็นต์
• เกาหลีใต้ - 63 เปอร์เซ็นต์
• ชิลิ - 63 เปอร์เซ็นต์
• ญี่ปุ่น - 59 เปอร์เซ็นต์
• อิตาลี - 58 เปอร์เซ็นต์
• เยอรมนี - 57 เปอร์เซ็นต์
• สิงคโปร์ - 54 เปอร์เซ็นต์
• สหรัฐอเมริกา - 52 เปอร์เซ็นต์
• สวิตเซอร์แลนด์ - 49 เปอร์เซ็นต์
• สหราชอาณาจักร - 47 เปอร์เซ็นต์
• สวีเดน - 47 เปอร์เซ็นต์
• แคนาดา - 47 เปอร์เซ็นต์
• ออสเตรเรีย - 42 เปอร์เซ็นต์

โดยข้อมูลดังกล่าวจะพบว่า 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จีน, เวียดนาม, ไทย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยเห็นว่าไทยติดอันดับ 3 การรายงานครั้งนี้อีกด้วย

ซึ่งแม้แต่ในประเทศที่แรงงานมีทักษะสูงที่หลายคนคงคิดว่าไม่น่าจะถูกระบบทำงานอัตโนมัติเข้ามาแทนที่ได้ อย่าง สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เยอรมนี และอิตาลี ก็ติดโผในการสำรวจด้วย

แต่ในรายงานก็ระบุว่างานหรืออาชีพของผู้สูงอายุในกลุ่มประเทศดังกล่าวก็ยังเสี่ยงต่อการถูกแทนที่ด้วยระบบทำงานอัตโนมัติอยู่ดี นอกจากนี้ระบบทำงานอัตโนมัติอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนอาชีพและตำแหน่งในคนทำงานกลุ่มอายุอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยได้อีกด้วย

"ระบบทำงานแบบอัตโนมัติทำให้ผลการผลิตมากขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถลงในสายการลงทุนใหม่ ๆ และพนักงานที่อายุน้อยกว่าได้" Patty Sung หัวหน้าของ Mercer และผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าว "อย่างไรก็ตามการลงทุนในแรงงานที่อายุน้อยกว่าจะกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากประชากรวัยหนุ่มสาวมีจำนวนลดน้อยลง รัฐบาลและบริษัทต่างๆ ไม่ควรละเลยกับแรงงานสูงวัยและต้องมีแผนงานที่จะรองรับแรงงานสูงวัยภายใต้ธุรกิจดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน"