ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดตัว Citi Mobile Application Global Platform โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more” เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งานบัตรเครดิตซิตี้ให้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น สามารถใช้งานได้ทุกที่ทั่วโลก มีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก พร้อมบริการ Digital Banking ครบวงจร อาทิ การสแกนและจ่ายด้วยบัตรเครดิต (Scan and Pay) ผ่านโทรศัพท์มือถือแม้ไม่พกบัตร หรือเงินสด การทำรายการเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตให้เป็นเงินก้อนโอนเข้าบัญชีได้อย่างง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว หรือเปลี่ยนยอดใช้บัตรโดยทำการแบ่งชำระยอดเป็นรายเดือน การระงับการใช้บัตรชั่วคราว และเปิดใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ การเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตยังมีช่องทางหลากหลายมากขึ้น ในการแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิต ผ่านระบบดิจิทัล ด้วยระบบเอพีไอ (API) หรือทางซิตี้ ไลน์ คอนเนค รวมถึงบริการที่ให้ผู้ถือบัตรสามารถค้นหาสิทธิประโยชน์ ไร้พรมแดน Citi World Privileges มากกว่า 11,000 แห่งจากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ผ่านเทคโนโลยี Geolocation เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

คุณวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

คุณวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า "ธนาคารซิตี้แบงก์ ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยมายาวกว่า 50 ปี และเป็นผู้นำด้านบัตรเครดิต เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่คำนึงถึงความสะดวกและรวดเร็วในการได้รับบริการ ธนาคารจึงมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้ง  เพื่อให้ลูกค้าบัตรเครดิตสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ และรับบริการด้านต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถทำรายการต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือด้วยตนเอง"

“ธนาคารได้ทำการพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และในปีนี้ ธนาคารได้นำเสนอบริการดิจิตอล แบงก์กิ้งใหม่ๆ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต เพื่อให้บริการได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น โดยล่าสุดได้ทำการเปิดตัว “Citi Mobile Application”  ที่ใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม มีฟังก์ชันการใช้งานสำหรับบัตรเครดิตที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ๆ อีกมากมายที่ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถทำได้ผ่านทางช่องทางดิจิทัล” คุณวีระอนงค์ กล่าวสรุป

ด้านคุณประทีป คามัคค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า “Citi Mobile Application ได้รับการพัฒนาและปรับโฉม ภายใต้แนวคิด  “Freedom to do more” มีจุดประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานและให้ลูกค้าสามารถจัดการด้านการใช้บัตรเครดิตซิตี้ได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้ระบบ Global Platform ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก”

คุณประทีป คามัคค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

Citi Mobile Application โฉมใหม่ มีการออกแบบการใช้งานบนมือถือ (User Interface) ให้ใช้งานง่าย และทำงานได้รวดเร็วขึ้น มีฟีเจอร์สำหรับการใช้บริการบัตรเครดิตที่หลากหลาย และครอบคลุมบริการสำคัญๆ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญต่างๆ ดังนี้

1. มุมมองบัญชีบัตรเครดิตแบบใหม่ ที่รวมทุกบัตรเครดิตที่ลูกค้ามีอยู่ไว้ด้วยกัน ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลบัตรเครดิตแต่ละใบที่มี อาทิ ยอดใช้จ่าย วงเงินบัตรเครดิตคงเหลือ คะแนนสะสม ยอดเงินที่ต้องชำระ ฯลฯ ลูกค้าสามารถเห็นรายการใช้จ่ายล่าสุด พร้อมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับบัญชีบัตรเครดิตทั้งหมดภายในหน้าเดียว สามารถค้นหารายการใช้จ่ายย้อนหลังโดยพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา (Transaction search) ดูใบแจ้งยอดบัญชี (View statements) ย้อนหลังได้ถึง 12 เดือน สำหรับลูกค้าใหม่ ก็สามารถเปิดใช้งานบัตรใหม่ผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที
2. ชำระเงินค่าบัตรเครดิตของลูกค้าง่ายขึ้นด้วย QR Code ซึ่งลูกค้าสามารถทำรายการได้ทุกที่ และไม่จำเป็นต้องพกใบแจ้งยอดบัญชีอีกต่อไป โดยลูกค้าสามารถสร้าง QR Code ในซิตี้โมบายล์แอป และใช้ QR Code นี้ทำรายการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์จาก Mobile App ของธนาคารที่เข้าร่วม ทั้งยังใช้ QR Code หรือ Barcode ชำระเงินที่จุดรับชำระบัตรเครดิตต่างๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการในการช่วยบริหารจัดการการใช้จ่ายบัตรเครดิตของลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถแบ่งชำระยอดใช้จ่าย ทั้งยอดรวมตามใบแจ้งยอดหรือยอดซื้อที่มีมูลค่าสูง ให้เป็นรายการแบ่งชำระรายเดือน ทั้งยังสามารถทำรายการเงินสดสั่งออนไลน์ (Citi Quick Cash) ที่เปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตเป็นเงินสด พร้อมโอนเข้าบัญชีธนาคารใดก็ได้ตามที่ลูกค้าระบุ ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาในการแบ่งชำระได้ตามสะดวกและทำรายการได้จบผ่านทางซิตี้โมบายล์แอปฯ โดยไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก
3. ความปลอดภัยในการใช้บริการ แอปพลิเคชันโฉมใหม่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการด้านการใช้บัตรได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยลูกค้าสามารถระงับการใช้บัตรชั่วคราวได้เมื่อบัตรหาย และสามารถเปิดใช้งานได้เองทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มได้ง่ายๆ ผ่านทางซิตี้โมบายล์แอปฯ โดยไม่ต้องหาตู้เอทีเอ็ม หรือติดต่อ call center เพื่อทำรายการ

“Citibank ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยในการใช้บริการของลูกค้า โดยธนาคารมีระบบแจ้งเตือนรายการใช้บัตรที่น่าสงสัยผ่านทาง SMS ซึ่งจะส่งไปที่เบอร์มือถือที่ลูกค้าได้ให้ไว้กับธนาคารทันทีเมื่อพบว่ามีรายการที่น่าสงสัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถยืนยันรายการที่เกิดขึ้น” นายประทีป กล่าวทิ้งท้าย

คุณวรท หงุ่ยตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ซิตี้แบงก์ มีแนวคิดในการอำนวยความสะดวกและเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภค เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือบัตรเครดิตของเรา โดยล่าสุดธนาคารได้เปิดตัว “บริการสแกนและจ่ายด้วยบัตรเครดิต (Scan and Pay)”  สำหรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิตซิตี้ ซึ่งธนาคารซิตี้แบงก์เป็นธนาคารแรกในประเทศไทย ที่ผ่านการทดสอบ และพัฒนานวัตกรรมทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ Regulatory Sandbox บริการดังกล่าวทำให้ลูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิตได้ผ่านทางซิตี้โมบายล์ แอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องพกบัตรเครดิต”

คุณวรท หงุ่ยตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

คุณวรท กล่าวเพิ่มว่า ในด้านบริการแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิตผ่านระบบดิจิทัล ด้วยระบบเอพีไอ (API) ให้ลูกค้าสามารถแลกคะแนนสะสมจากพันธมิตรของ Citibank ได้ด้วยตัวเองทันทีผ่านมือถือ ทำให้การแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิตเป็นเรื่องง่าย สะดวก และหลากหลายขึ้นกว่าเดิม โดยที่ลูกค้าสามารถแลกรับสิทธิพิเศษและประโยชน์มากมายได้ด้วยตัวเองผ่านทาง Line Official Account และแอปพลิเคชั่นจาก Major Cineplex และ Airasia

Citibank ตั้งเป้าหมายให้สัดส่วนผู้ใช้บริการธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิตทุกกลุ่ม พร้อมทั้งพัฒนา Digital Banking อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้ารายย่อย สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ต่อไป โดยมีแผนจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าธนาคารภายในปี 2019