เลือกตั้งด้วย Blockchain ครั้งแรกในไทย! 'กรมพลศึกษา' นำร่องใช้ Ethereum ในการโหวตเลือกกรรมการฯ | Techsauce

เลือกตั้งด้วย Blockchain ครั้งแรกในไทย! 'กรมพลศึกษา' นำร่องใช้ Ethereum ในการโหวตเลือกกรรมการฯ

การเลือกตั้งคณะกรรมการส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา ของกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี Blockchain อย่าง Ethereum ในการเลือกตั้ง ชี้ทำให้เกิดความสะดวก โปร่งใส รวดเร็ว และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ได้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาช่วยในการพัฒนาระบบ

เมื่อวันพุธที่ 4 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา คุณดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบออกใบอนุญาต และการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการจัดทำระบบเลือกตั้งคณะกรรมการส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา

ในการประชุมมีผู้แทนทั้งจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด, สถาบันการพลศึกษา, โรงเรียนกีฬา, สถาบันการศึกษา และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุม

คุณดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา

คุณดารณี กล่าวว่า กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังจัดทำ "ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา พ.ศ..." โดยกำหนดให้มีการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา จึงจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา

อีกทั้งกฎหมายในปัจจุบันหลายฉบับยังเอื้อให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 จึงนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ แต่ยังไม่มีการพูดถึงระบบการเลือกตั้งที่โปร่งใส มั่นคง และมีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้ยังเป็นปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมายอยู่

ทาง 'กรมพลศึกษา' มองว่าการจึงนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนกระบวนการทำงานในการขอใบอนุญาตเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา และการเลือกตั้งคณะกรรมการส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา จะช่วยให้เกิดความสะดวก ถูกต้อง โปร่งใส และรวดเร็ว และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งการใช้ระบบเลือกตั้งแบบกระจายบน Blockchain จะสามารถเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์การเลือกตั้งได้

โดยได้ที่ปรึกษาจากสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ ลีมัคเดช อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเป็นผู้พัฒนาระบบออกใบอนุญาตผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา และระบบเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำจุดเด่นของเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ในระบบการเลือกตั้ง

กรมพลศึกษาให้ 4 เหตุผลที่ระบุระบบเลือกตั้งบน Blockchain สามารถแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งแบบดั้งเดิมและระบบการเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์แบบรวมศูนย์ได้ ดังนี้

  1. ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยประเมินว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ 15 บาท
  2. สะดวกและปลอดภัย โดยผู้เลือกตั้งสามารถใช้โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตลงคะแนนได้
  3. โปร่งใส โดยผู้เลือกตั้งสามารถตรวจสอบการใช้สิทธิของตนเองบนฐานข้อมูล Blockchain ได้ โดยยังคงความเป็นส่วนตัว เนื่องจากการระบุตัวตนจะผ่านหมายเลขของผู้เลือิกตั้งซึ่งเป็นความลับ
  4. ปลอดภัย ระบบฐานข้อมูลแบบ Blockchain สาธารณะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเกือบ 1 ล้านเครื่อง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะ Hack ระบบ หรือแม้แต่คนที่เป็นผู้ดูแลระบบก็ไม่สามารถทุจริตได้ เพราะสามารถตรวจสอบความถูกต้องของฐานข้อมูลและโปรแกรมการลงคะแนนที่เรียกว่า Smart Contract ซึ่งทั้งสองอย่างถูกเก็บอยู่บนฐานข้อมูล Blockchain ไม่ใช่เครื่องแม่ข่ายของหน่วยงานที่จัดการเลือกตั้งแต่อย่างใด

“นอกจากนี้ประเด็นสำคัญของการเลือกตั้งคือการสร้างความสะดวกให้แก่ประชาชนจะทำให้สัดส่วนผู้มาใช้สิทธิมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการเมืองระยะยาวของประเทศที่จะพัฒนาไปสู่การเมือง 4.0 ยุคประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” คุณดารณีกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...