'แกรมมี่' จับมือ 'LINE TV' เตรียมป้อน Content รายการและเพลงแบบ Exclusive | Techsauce

'แกรมมี่' จับมือ 'LINE TV' เตรียมป้อน Content รายการและเพลงแบบ Exclusive

ก่อนหน้านี้ช่อง 3 ก็จับมือกับ LINE TV เพื่อลง Content ไปแล้ว ล่าสุด GMM GRAMMY ประกาศเดินหน้ารุกตลาด Online Content เพื่อขยายฐานสู่ผู้ชมทั่วประเทศ โดยวางกลยุทธ์ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรอย่าง LINE TV ชู Artist Content และ Premium Music Content ส่งตรงถึงผู้บริโภคก่อนแพลตฟอร์มอื่น

GMM GRAMMY x LINE TV

คุณภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป มีการเสพข่าวสาร ความบันเทิง ผ่านโลกออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่าง ๆ จึงช่วยทำให้เรื่องของเพลงและตัวศิลปินสามารถเข้าถึงผู้ฟัง ผู้ชมได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการสร้าง Community ของแฟน ๆ ที่เติบโตอย่างชัดเจนและตอบสนองในเรื่องของความสนใจของคนได้เต็มรูปแบบ ที่สำคัญยังช่วยทำให้มิติของศิลปินมีความกว้างขึ้นอีกด้วย ซึ่งหมายถึงความสามารถที่จะเข้าถึง DNA ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของศิลปินได้เลยทีเดียว เพราะวันนี้เพลงเป็นมากกว่าเพลง

GMM GRAMMY (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ยังระบุว่า LINE TV เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเพราะเรามุ่งหวังที่จะนำเสนอประสบการณ์ทางดนตรีรูปแบบใหม่ให้กับผู้ชม และจะมีการพัฒนาความร่วมมือ-การนำเสนอ Content ในอนาคต

นอกจากนี้ LINE TV และ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยังร่วมกันทำคอนเทนต์แบบใหม่ ใน 2 รูปแบบ ได้แก่

  1. Artist Content ซึ่งเป็นโปรเจคที่รวม 12 รายการจาก 12 ศิลปินที่จะมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงโดยสามารถรับชมบน LINE TV ได้ก่อน Online Platform อื่นๆ 45 วัน
  2. Premium Music Content ที่สามารถรับชมความพิเศษต่างๆ ทั้งเบื้องหลังการถ่ายทำการถ่ายทอดสด Event ต่างๆ รวมไปถึง Music Video ที่สามารถรับชมได้ก่อน Online Platform อื่น ๆ 30 วัน

ซึ่งการทำ 2 คอนเทนต์ Artist Content และ Premium Music Content ในครั้งนี้ทำให้เกิด 3 โอกาสด้วยกันคือ

  • โอกาสที่ 1 สำหรับศิลปิน - เป็นการสร้างและส่งเสริมภาพลักษณ์ หรือ DNA ใหม่ ๆ ของศิลปินให้กว้างขึ้น มากกว่าการเป็นนักร้องหรือวงดนตรี แถมยังช่วยให้ศิลปินสร้างรายได้จากช่องทางใหม่อีกด้วย
  • โอกาสที่ 2 สำหรับแพลตฟอร์ม - ได้ Broadcast คอนเทนต์ที่ Exclusive และ Unique กว่ามิวสิคโปรดักส์ทั่วไป สามารถขยายกลุ่มเป้าหมาย โดยการ Cross Fan ของศิลปินไปยังแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับแพลตฟอร์มได้ด้วยเช่นกัน
  • โอกาสที่ 3 สำหรับผู้ชม - สามารถรับชมคอนเทนต์ที่มีมิติหลากหลายได้มากขึ้นแบบไม่ได้ยึดติดกับ Format เดิมบวกกับการนำเสนอคอนเทนต์ของศิลปินในมุมที่น่าสนใจมากกว่าการเป็นศิลปิน จึงเห็นโอกาสที่จะส่งเสริมให้คนรักศิลปินในมิติที่กว้างขึ้น รวมถึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาช่วงสั้นๆ หรือที่จบในตอน

คุณภาวิต กล่าวว่า

เทรนด์ตลาดโลกตอนนี้ คือ การร่วมมือระหว่าง Platform และ Content Provider จับมือกัน เพราะ Content กับ Platform เป็นของคู่กัน การเข้าใจ Localized และ Audience เป็นเรื่องสำคัญ

(จากซ้ายไปขวา) คุณภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย

ส่วนคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลว่า ในปีที่ผ่านมาคนไทยใช้เวลากับมือถือเฉลี่ย 216 นาทีต่อวัน (เกือบ 4 ชั่วโมงต่อวัน) โดยร้อยละ 94 ของผู้ใช้งานนี้ใช้เวลาไปกับการฟังเพลง และร้อยละ 70 ของผู้ที่ฟังเพลงนี้ เป็นการฟังแบบ Online Streaming และ LINE TV ก็ได้เป็นที่ 1 ด้านแพลตฟอร์มด้านการ Broadcast TV ทั้ง Live Stream & Re-run (ผลสำรวจจาก Nielsen) ประกอบกับก่อนหน้านี้ LINE TV ได้วางตัวเองเป็น

โดยเพลง 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่คนไทยบริโภคคือเพลงไทย ซึ่งตอนนี้ LINE TV ก็กำลังพยายามเข้าใจคนไทย พยายามปรับเนื้อหาให้เข้ากับคนไทย จึงมุ่งเน้นไปทาง Music Content มากขึ้น โดยคาดหวังว่า Music Content ที่กล่าวมาอย่าง Artist Content และ Premium Music Content เป็น 1 ใน 3 ของ Content ทั้งหมดบน LINE TV ให้ได้ในอนาคต

คุณอริยะ กล่าวว่า

จุดแข็งของเราคือความเป็น Platform แต่สิ่งที่ Partner เราเก่งก็คือเรื่องเนื้อหาและการผลิต ผมว่าเราต้องรู้จุดที่เราแข็ง และเราควรจะหา Partner มาเสริมในสิ่งที่เราอาจไม่ได้ถนัด ซึ่งอันนี้เป็นกลยุทธ์ที่เราดูแล้วเชื่อว่า Original Content ที่ลงบน LINE TV มาจากการที่เราวางว่าเราถนัดเรื่องอะไร และ Partner ของเราถนัดเรื่องอะไร

 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...