JustCo จับมือแสนสิริ ท้าชิงธุรกิจ Co-Working Space ปักธงเปิดสาขาแรกใหญ่ที่สุดไทย | Techsauce

JustCo จับมือแสนสิริ ท้าชิงธุรกิจ Co-Working Space ปักธงเปิดสาขาแรกใหญ่ที่สุดไทย

หลังจากแสนสิริเทเงินลงทุน 80 ล้านดอลลาร์ไปในหลายธุรกิจเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดหนึ่งในธุรกิจที่แสนสิริลงทุนอย่าง JustCo ก็ได้ก่อตัวเป็นรูปร่างแล้วในไทย พร้อมชูการเป็น Co-Working Space ที่ใหญ่ที่สุดในไทยเวลานี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ Everyday Visionaries มีจุดมุ่งหมายในการสร้างไลฟ์สไตล์ สร้างเครือข่ายเชื่อมโยง เพราะเทรนด์การสร้างบ้านแล้วจบไม่มีอีกแล้ว

JustCo เป็นผู้ให้บริการ Co-Working Space จากสิงคโปร์ โดยเดินหน้าสานต่อความเป็นพันธมิตรกับแสนสิริ เปิด JustCo สาขาแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ โดยการเปิดตัวที่กรุงเทพฯ คือก้าวแรกในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดอื่นๆ ในเอเชีย โดยมีเป้าหมายเปิด 100 สาขาในเอเชียปี 2020

 

Kong Wan Sing ผู้ก่อตั้งและประธานอำนวยการ JustCo กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีมานี้ Co-Working Space ถือเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่คนรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ ไปจนถึงบริษัทใหญ่ๆ โดย Co-Working Spaceไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำนักงานให้เช่าเท่านั้น แต่เป็น Community ที่สมาชิกสามารถมาพูดคุยสร้างปฎิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนวิธีการทำงานและแนวความคิดเพื่อต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลไปกว่าเดิมได้ ซึ่งปัจจุบัน JustCo ถือเป็นผู้ให้บริการพื้นที่ในลักษณะ Co-Working Space ระดับพรีเมี่ยมที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจาก Co-Working Space อื่นๆ คือ เราไม่ได้เป็นแค่ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ แต่เราสร้าง Community ขนาดใหญ่ที่ช่วยให้สมาชิกของ JustCo สามารถสร้าง Connection ใหม่ ๆ พร้อมทั้งมองหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ JustCo ยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรระยะยาวที่จะเชื่อมต่อสมาชิก JustCo ไปสู่ตลาดในระดับภูมิภาคและพวกเขายังสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่น่าสนใจได้อีกด้วย”

“การร่วมเป็นพันธมิตรกับแสนสิริซึ่งเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยคือแรงผลักดันสำคัญที่เบิกทางให้เราสามารถสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานของแสนสิริในตลาดเอเชียและยังเป็นการเชื่อมโยง JustCo สู่ลูกบ้านแสนสิริที่มีอยู่จำนวนมากอีกด้วย"

"ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่โดดเด่นของภูมิภาค ด้วยยุทธศาสตร์ด้านทำเลที่ตั้งที่ดี และความพร้อมในด้านระบบสาธารณูปโภค เราจึงเห็นว่าไทยคือตลาดที่สำคัญของ JustCo และเป็นประตูเชื่อมโยงให้เราขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นของ JustCo คือการสร้างระบบนิเวศใหม่ในการทำงานซึ่งเอื้อให้คนทำงานและธุรกิจทุกขนาดได้รับประโยชน์จากพลังของเครือข่าย ผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันการมีส่วนร่วม และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างสมาชิก ซึ่งนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ และความสำเร็จที่ดีเยี่ยมทางธุรกิจ”

คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดตัว  JustCo แห่งแรกในประเทศไทยคือความสำเร็จก้าวแรกของการดำเนินกลยุทธ์ Everyday Visionaries เพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่ซึ่งเราริเริ่มเมื่อปี 2560 โดยการร่วมลงทุนใน 6 ธุรกิจเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ระดับโลก ซึ่งต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการร่วมกันสรรสร้างวิถีแห่งการใช้ชีวิต การทำงาน การเรียนรู้ และการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อวันข้างหน้าที่ดีขึ้น เป็นทื่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันรูปแบบการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่ในออฟฟิศแบบเดิมๆ อีกแล้ว กระแสการเติบโตอย่างสูงของธุรกิจ  ขนาดเล็กและสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ทำให้เกิดความต้องการสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง และส่งเสริมให้ทำงานร่วมกัน  นอกจากนั้น องค์กรธุรกิจใหญ่ๆ หลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจกับโคเวิร์คกิ้งสเปซเพื่อสร้างพลังและประสิทธิภาพในการทำงานให้พนักงานด้วยบรรยากาศการทำงานที่สร้างสรรค์และร่วมมือกัน JustCo จึงเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่ลงตัวเพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างมีศักยภาพของปรากฏการณ์ Co-Working Space ในประเทศไทย”

“แสนสิริเล็งเห็นว่า JustCo คือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทั้งในฐานะผู้ให้บริการ Co-Working Space และผู้สร้างพื้นที่ การใช้ชีวิตใหม่ๆ ให้กับโครงการแสนสิริและพันธมิตรอื่นๆ ของเราในอนาคต ซึ่งภายใต้การจับมือกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถแบ่งปันทรัพยากร ความรู้ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และฐานลูกค้าร่วมกัน นอกจากนั้น ลูกค้าและลูกบ้านของแสนสิริจะได้รับสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ในการเข้าถึงเครือข่าย"

Co-Working Space ของ JustCo โดยลูกบ้านแสนสิริสามารถเข้าใช้บริการ Hot-desking ได้ฟรีถึงสิ้นปี รวมถึงในปีหน้าจะได้รับส่วนลด 20% เมื่อสมัครแพ็คเกจสมาชิกอีกด้วย ” คุณอภิชาติกล่าว

Co-Working ที่มีพื้นที่มากสุดในไทย

JustCo ที่เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ มีพื้นที่ 2 ชั้น รวมกว่า 3,200 ตารางเมตรนับเป็น co-working space ที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีธีมการตกแต่งที่เน้นความสดใส มีชีวิตชีวา ด้วยองค์ประกอบที่สนุกสนาน มีพื้นที่ทำงานแบบฮ็อตเดสก์ พื้นที่ทำงานส่วนตัวที่เงียบสงบ  ห้องประชุม พื้นที่จัดอีเวนท์ คาเฟ่ มุมเตะฟุตบอลและตีกอล์ฟ พร้อมแนวคิดที่ส่งเสริมให้เกิดชุมชนแห่งการทำงานโดยการจัดอีเวนท์และกิจกรรมร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจทุกรูปแบบ

ด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางธุรกิจของสาทร ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางสู่ JustCo เซ็นเตอร์ที่เอไอเอ สาทรทาวเวอร์ ได้ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ และจะเชื่อมต่อผ่านสกายวอล์คสู่สถานีศึกษาวิทยา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2562 JustCo มีแผนจะเปิดสาขาที่สองที่แคปิตอลทาวเวอร์ ออลซีซั่นเพลส ในเดือนกรกฎาคม 2561

JustCo ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น J App ซึ่งสามารถเข้าใช้ได้ผ่านทั้งสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์ ทำให้สมาชิกเข้าถึง Co-Working Space ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถจองห้องประชุมล่วงหน้าได้จากทุกที่ทั่วโลก แลกเปลี่ยนไอเดียกับสมาชิกคนอื่นทั้งในฐานะบุคคลหรือบริษัทและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจภายในเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยสมาชิกระดับคุณภาพกว่า 12,000 คน ปัจจุบันสมาชิกสามารถเข้าใช้ J App ผ่านเว็บไซต์ได้แล้วและภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะพร้อมเปิดให้ใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟน

“วันนี้ JustCo กำลังก้าวสู่มิติใหม่ในการขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เราเชื่อว่าด้วยการประสานพลังระหว่างพันธมิตรกับแสนสิริ จะสามารถเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต (Complete Your Living Experience) ให้แก่ลูกบ้านของเราอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนั้น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ยังเสริมความแกร่งให้แบรนด์แสนสิริบนเวทีระดับโลก เช่นเดียวกับสร้างแหล่งรายได้ใหม่ซึ่งจะเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับลูกบ้านแสนสิริและธุรกิจหลักของเรา” คุณอภิชาติกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...