Facebook เผยถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เพื่อให้เป็นสังคมที่ได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการสร้างความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่คนไทยมากขึ้น พร้อมมาตรการปกป้องความโปร่งใสด้านการนำเสนอข้อมูลและข่าวสารในช่วงเลือกตั้ง

โดย Facebook ได้ดำเนินงานหลากหลายด้านเพื่อปกป้องและรักษาความโปร่งใสด้านการนำเสนอข้อมูลและข่าวสารสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก และป้องกันการขัดขวางขั้นตอนการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม รวมถึงการเพิ่มจำนวนพนักงานทั่วโลกเป็นสองเท่า  รวมจำนวน 30,000 คน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบด้าน ‘ความปลอดภัยและความมั่นคง’

ทั้งนี้ Facebook ยังมีทีมงานเฉพาะที่ทำหน้าที่ตรวจจับและป้องกันผู้ประสงค์ร้ายและการใช้งานแพลตฟอร์มในทางที่ผิดบน Facebook ระหว่างการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีพนักงานที่พูดภาษาไทยเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานนั้นด้วย นอกจากนี้ ในปี 2561 ยังได้ตีพิมพ์นโยบายมาตรฐานชุมชนของเราอย่างละเอียด โดยนโยบายมาตรฐานชุมชนของ Facebook ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นด้วยความรอบคอบเป็นระยะเวลาหลายปีนั้น ถูกออกแบบขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัย ให้ผู้คนทุกวัยและทุกความเชื่อด้านการเมืองสามารถแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ ส่งเสริมการพูดคุยและการแลกเปลี่ยนแนวคิดกันอย่างเหมาะสม และเพื่อให้แน่ใจว่านโยบายของเราจะถูกนำไปใช้ในชุมชนทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน

เคธี ฮาร์บาธ ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองระดับโลกและการประสานงานภาครัฐของ Facebook กล่าวว่า “เราดำเนินงานหลากหลายด้านอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่คนไทยรู้สึกเป็นอิสระและปลอดภัยในการแสดงตัวตนของพวกเขาซึ่งรวมถึงการปกป้องความโปร่งใสด้านการนำเสนอข้อมูลและข่าวสารของการเลือกตั้งในปี 2562 นี้ การสนับสนุนให้เป็นสังคมที่รับรู้ข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้องมากขึ้น และการส่งเสริมให้คนไทยมีทักษะและความรู้ที่จะช่วยให้พวกเขาได้รับรู้ข้อมูลและรักษาความปลอดภัยของตนเองบนโลกออนไลน์ได้”

เคธีกล่าวเสริมว่า “เรามีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการป้องกันพฤติกรรมหลอกลวงทุกประเภทบนแพลตฟอร์มของเรา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง การบิดเบือนความจริง การหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง การกลั่นแกล้งหรือการรังแก ความรุนแรง การคุกคาม หรือการแทรกแซงการเลือกตั้ง การต่อสู้กับข่าวปลอมมีความสำคัญต่อความโปร่งใสและความปลอดภัยต่อการเลือกตั้งในประเทศไทย แต่เราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ด้วยตัวเอง เราเชื่อว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม ภาคประชาสังคม และรัฐบาลจะเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น สำหรับ Facebook เรามีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานในส่วนที่เรารับผิดชอบและสานต่อโครงการริเริ่มที่เน้นการให้ความรู้ด้านดิจิทัลของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้คนเข้าใจนโยบายและมาตรฐานชุมชนของเราให้ดียิ่งขึ้น และใช้พลังจากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคม

มาตรการป้องกันความโปร่งใสในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและการรักษาความปลอดภัย

ลดการเผยแพร่ข่าวปลอม

มีการดำเนินงานที่ผสมผสานเทคโนโลยีและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ และผ่านการเตรียมความพร้อมชุมชนด้วยความสามารถในการแยกแยะว่าข้อมูลและข่าวสารใดที่อาจไม่เป็นความจริง ในประเทศไทย ยังได้ทำการสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างการรับรู้และนำเสนอเคล็ดลับและความรู้ให้กับผู้คนเกี่ยวกับวิธีการสังเกตข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงด้วย

• การเพิ่มการรับรู้สาธารณะ : Facebook กำลังดำเนินงานเพื่อสร้างการรับรู้และแบ่งปัน ‘เคล็ดลับในการสังเกตข่าวปลอม’ แก่ผู้บริโภคภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ผ่านแคมเปญรณรงค์ทั้งบนแพลตฟอร์มของเราและสื่อสาธารณะ
• Workshop เกี่ยวกับการเลือกตั้งสำหรับสื่อมวลชน : Facebook จะจัดฝึกอบรมให้กับพันธมิตรด้านข่าวสารและองค์กรสื่อมวลชนชั้นนำของเราในประเทศไทย เพื่อแบ่งปันวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับห้องข่าว รวมถึงกรณีศึกษาเกี่ยวกับข่าวการเลือกตั้งและข้อมูลสำคัญต่างๆ

การลบบัญชีปลอม

ในแต่ละวัน Facebook ได้บล็อกบัญชีปลอมตั้งแต่ขณะเริ่มลงทะเบียนเป็นจำนวนหลายล้านบัญชี และเรายังคงพัฒนาและอัพเดทระบบเทคนิคของเราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการตอบสนองต่อการรายงานการใช้งานแพลตฟอร์มในทางที่ผิด การตรวจจับและลบสแปม การระบุและกำจัดบัญชีปลอม และการป้องกันบัญชีจากการถูกละเมิดด้านความปลอดภัย

ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 Facebook ได้ปิดบัญชีปลอมจำนวน 754 ล้านบัญชี ซึ่งบัญชีส่วนใหญ่มาจากการโจมตีแบบสแปมที่มีแรงจูงใจในการแสวงหาผลกำไร และบัญชีเหล่านั้นก็ถูกลบออกไปจากแพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว

การเพิ่มความโปร่งใสของโฆษณาและเพจ

ไม่ว่าใครก็ตามสามารถตรวจสอบโฆษณาที่ถูกแสดงโดยเพจต่างๆ บน Facebook ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยให้ชุมชนของเราในประเทศไทยเห็นโฆษณาทั้งใน Facebook, Instagram, Messenger และเครือข่ายพันธมิตร ถึงแม้ว่าโฆษณาเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกแสดงให้กับคุณก็ตาม นอกจากนี้ ผู้คนยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเพจต่างๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ลงโฆษณา เช่น คุณสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงชื่อเมื่อเร็วๆ นี้ และวันที่เพจถูกก่อตั้งขึ้นได้

เสริมความแข็งแกร่งในการบังคับใช้มาตรการสำหรับโฆษณาที่ไม่เหมาะสม

Facebook กำหนดให้ชุมชนของเราบน Facebook เคารพนโยบายมาตรฐานชุมชน และมีแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับผู้โฆษณา ในปี 2561 เราได้ขยายทีมงานระดับโลกที่ทำหน้าที่ตรวจสอบโฆษณา อีกทั้งเรายังลงทุนกับระบบตรวจจับข้อมูล (Machine Learning) เพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้นว่าควรตรวจสอบและลบโฆษณาเมื่อใด นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา เรายังได้ประกาศว่าเราจะไม่อนุญาตให้เพจต่างๆ นำเสนอข่าวปลอมซ้ำๆ เพื่อการโฆษณาบน Facebook อีกต่อไป