TDFA และ TRA ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอทบทวนการให้สัมปทานดิวตี้ฟรี - การลดภาษีขาเข้า | Techsauce

TDFA และ TRA ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอทบทวนการให้สัมปทานดิวตี้ฟรี - การลดภาษีขาเข้า

สมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอทบทวนให้ปรับปรุงการให้สัมปทานดิวตี้ฟรี  การลดอากรขาเข้าการจัดตั้งจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะในสนามบิน และการลดอัตราอากรขาเข้า

คุณรวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย และ นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์           จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกครั้ง หลังจากได้เคยยื่นข้อเสนอแนะไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา          ให้ทบทวนหลักเกณฑ์การให้สัมปทานธุรกิจร้านค้าปลอดอากร การจัดตั้งจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ          ในสนามบิน และการลดอัตราอากรขาเข้า ย้ำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ           เป็นที่ตั้ง

สมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ร่วมศึกษาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการให้สัมปทานธุรกิจร้านค้าปลอดอากร ในประเทศไทย เพื่อให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและประชาชน หากประเทศไทย ยกเลิกการผูกขาดธุรกิจร้านค้าปลอดอากร ทั้งภายในสนามบินและในตัวเมือง, เปิดเสรีจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะในสนามบิน  รวมถึง ปรับอัตราภาษีนำเข้าให้แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ประเทศไทยมีโอกาสมหาศาลที่จะเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมค้าปลีกท่องเที่ยว คิดเป็นจำนวนเงินถึง 270,000 ล้านบาทต่อปี เทียบเป็นการเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสามของรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันทั้งนี้จะส่งผลให้ภาครัฐได้รับผลประโยชน์สุทธิรวมกว่า 32,000 ล้านบาทต่อปี

เนื้อหาในหนังสือ ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก

  1. ยกเลิกระบบผูกขาด

ปัจจุบัน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ดำเนินการให้สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ใช้ระบบสัมปทานรายเดียว (Master Concession) อันถือเป็นการผูกขาดและไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ส่งผลให้ความหลากหลายของสินค้า และคุณภาพของการบริการมีจำกัด

จึงขอเสนอแนะให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์และเงื่อนไข (ทีโออาร์) สำหรับการเปิดประมูลสัมปทานฯที่สนามบินสุวรรณภูมิที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้  โดยให้เปลี่ยนจากระบบสัมปทาน รายเดียว มาใช้ระบบสัมปทานหลายรายตามหมวดหมู่สินค้า (Concession by Category) แทน เช่น หมวดเครื่องสำอาง หมวดสุราและบุหรี่ หมวดสินค้าแฟชั่น เป็นต้น

ระบบสัมปทานประเภทนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประเทศชั้นนำทั่วโลก เช่น สนามบินอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ สนามบินฮ่องกง เป็นต้น ได้ใช้ระบบสัมปทานฯ ตามหมวดหมู่สินค้าซึ่งมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ให้สัมปทานและผู้ใช้บริการสนามบิน

  1. จัดให้มีจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะในสนามบิน

ในปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองมีจุดส่งมอบสินค้าในสนามบินสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) เพียงรายเดียว ถือเป็นการผูกขาดเช่นกันจึงขอเสนอแนะว่า จุดส่งมอบสินค้าสาธารณะในสนามบินนานาชาติทุกแห่งที่อยู่ในกำกับดูแลของ ทอท. ต้องจัดให้มีขึ้นตามกฎหมายศุลกากร โดยไม่เปิดให้มีสัมปทาน แต่ให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรในเมืองที่ได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากรสามารถเช่าพื้นที่พร้อมระบบตรงกับ ทอท.

  1. พิจารณาลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับสินค้านำเข้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันอากรขาเข้าของประเทศไทยสำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย เช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า อยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิ จีน มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งได้มีการปรับยกเว้นหรือลดอากรขาเข้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาค้าปลีกลดลง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการยกเว้นหรือลดอากรยังส่งผลให้คนในประเทศลดการใช้จ่ายในต่างประเทศ อีกทั้งยังลดการซื้อขายในตลาดของหิ้ว (grey market) ให้น้อยลงอีกด้วย

จึงขอเสนอแนะว่า ควรพิจารณาลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับสินค้าประเภทที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและประเภทที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมซื้อจากต่างประเทศ เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นในระดับภูมิภาค และสร้างผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ทั้งทางภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย

ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องพิจารณาและทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...

Responsive image

Apple ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 55% ตั้งเป้าสู่ Net Zero ในปี 2030

Apple เผยรายงานความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม และประกาศปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2024...

Responsive image

สร้างวิดีโอสมจริง ใช้แค่รูปนิ่งกับคลิปเสียง รู้จักโมเดล VASA-1 ที่ Microsoft กำลังวิจัย

แค่ใช้รูปถ่ายกับคลิปเสียง ก็สามารถสร้างวิดีโอของเราได้แบบสมจริง ด้วยโมเดล VASA-1 ตัวใหม่จาก Microsoft ที่ต้องบอกว่าทั้งน่าทึ่ง น่าประทับใจ และน่ากลัวด้วย...