มุมมองจากแคนาดาสู่ไทย 'กัญชา' โอกาสใหม่ทางธุรกิจ | Techsauce

มุมมองจากแคนาดาสู่ไทย 'กัญชา' โอกาสใหม่ทางธุรกิจ

  • จากการผลักดันกฎหมายกัญชาทำให้กัญชากลายมาเป็นอีกหนึ่งตลาดใหม่ที่จะขยายตัวขึ้นในอนาคต
  • กฎข้อบังคับที่เข้มงดส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกัญชา ภาครัฐจึงมีส่วนในการที่จะช่วยสนับสนุนและสร้างระบบที่มีความยุติธรรมต่อผู้ซื้อขาย
  • ผู้ประกอบการและ Startup ควรเตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง เมื่อกัญชาจะกลายเป็นสิ่งถูกกฏหมาย

ที่ผ่านมาการครอบครองหรือเสพกัญชาในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกถือว่ามีโทษทางกฎหมาย แต่ในวันนี้เราได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่นการผลักดันให้มีการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ถึงอย่างไรก็ตามยังมีการถกเถียงอยู่อย่างมากมายถึงประเด็นนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ผู้คนเคยมีต่อผู้เสพกัญชาและคดีความต่างๆ ที่ทำให้การกัญชายังเป็นเรื่องที่ผู้คนกังวล ซึ่งนั่นได้ปิดกั้นโอกาสมากมายที่กัญชาจะสามารถมอบให้กับเราได้

Understanding the Emerging Cannabis Industry: From Medical to Recreational Usage หนึ่งใน Session น่าสนใจของงาน Techsauce Global Summit 2019 ที่จะมาพูดถึงวงการกัญชา จากการใช้เพื่อรักษาสู่การใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น และเชิญชวนให้เราทุกคนมาเข้าใจและเตรียมตัวเปิดรับกับโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่จะมาถึงกับ Clint Younge ประธานบริษัทจาก Company X จากสวิตเซอร์แลนด์ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชในตระกูลกัญชาและ Moderator คุณ ช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา, ผู้บริหารฝ่ายการตลาด และกรรมการผู้จัดการ Highland Network

ภาพรวมของตลาดกัญชาในปัจจุบัน

ปัจจุบันนี้เราค้นพบว่ากัญชามีคุณประโยชน์มากมายผ่านการวิจัย ไม่ว่าจะเป็นด้านการรักษาอาการของโรคต่างๆ อาทิ การลดอาการปวด คลายความเครียด และมีส่วนในการช่วยรักษามะเร็ง รวมถึงโรคอื่นๆ นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว กัญชายังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลายทั้งในอาหาร เครื่องสำอางค์ เครื่องนุ่งห่ม และสารพัดผลิตภัณฑ์ อีกหนึ่งความน่าสนใจคือกัญชามีผลเสียต่อสุขภาพน้อยกว่าหากเทียบกับสารเสพติดประเภทอื่นๆ เช่น เหล้า และบุหรี่ ทำให้หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ของกัญชา และเริ่มมีการผลักดันให้มีการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย องค์กรในไทยเองก็มีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมให้คนเข้าใจถึงการใช้งานของกัญชาเช่นกัน

Clint เผยว่า ในตอนนี้ตลาดกัญชามีขนาดใหญ่และกำลังจะขยายขึ้น โดยในแคนาดาเองคาดว่าภายในปี 2021 โครงการกัญชาจะมีมูลค่าสูงถึง 35 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และหากมองกลับมาที่ประเทศไทยซึ่งมีประชากรจำนวนมาก นี่คือโอกาสในการสร้างรายได้สำหรับผู้ปลูกกัญชาและผู้ที่อยู่ในวงจรการผลิต และยังส่งเสริมการจ้างงานอีกด้วย

ข้อบังคับที่เข้มงวดกำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกัญชา

กัญชาจัดเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวในหลายประเทศทั่วโลก แต่เราก็ได้เห็นว่าประเทศไทยได้เริ่มมีการผลักดันประเด็นนี้มากขึ้น ในช่วงที่ผ่านมา 9 ปีนี้ กว่า 50 องค์กรพยายามที่จะผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมายในแคนาดา ด้วยความเชื่อว่าวงการกัญชานั้นไม่ใช่เพียงแค่โอกาสในระยะสั้น แต่ธุรกิจนี้จะเติบโตไปได้อีก 20-25 ปี และจะมีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ถึงแม้จะเป็นโอกาสใหม่ที่น่าจับตามอง แต่หลายประเทศก็ยังติดขัดอยู่กับกระบวนการมากมายและขั้นตอนที่ยุงยาก ซึ่งข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไปอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกัญชา และนี่ยังเป็นการเปิดช่องทางให้แค่บริษัทใหญ่ๆ เท่านั้นที่สามารถจะทำตามข้อบังคับได้อย่างถูกต้อง

ในแคนาดาผลิตภัณฑ์จากกัญชาถูกเก็บเป็นเวลานานนับเดือนกว่าจะถูกใช้งาน ด้วยเหตุผลทางกฎหมายและขั้นตอนการตรวจสอบที่ซับซ้อน นี่เป็นปัจจัยทำให้คุณภาพของกัญชาลดลงเป็นอย่างมาก หากเทียบกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ความเข้มงวดของข้อบังคับนั้นน้อยกว่า ทำให้ผู้คนสามารถได้รับกัญชาที่คุณภาพสูงกว่า

การเข้าถึงกัญชาที่มีความยากลำบากทำให้ 80% ของกัญชาตกอยู่ในตลาดมืดแทนที่จะซื้อขายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะแน่นอนว่าผู้บริโภคจะไม่ยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าจากการซื้ออย่างถูกกฎหมาย ในเมื่อคุณสามารถหาซื้อได้จากเพื่อนข้างบ้านในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่า ดังนั้นรัฐบาลจึงควรสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงการซื้อขายอย่างง่ายขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ อีกทั้งการควบคุมที่เข้มงวดนี้ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าเนื่องจากระยะเวลาส่งผลต่อคุณภาพของสินค้า

คุณ คิตตี้ กล่าวว่าในไทยเองผู้ครอบครองกัญชาก็ยังคงมีโทษทางกฎหมายอยู่และไม่ได้รับการปรับลดโทษใดๆ Clint จึงได้เสริมต่อเขาคิดว่าการผลักดันกฎหมายกัญชาควรควบคู่ไปกับการลดหย่อนโทษ เพราะเขาเชื่อว่า "ไม่มีใครสมควรได้รับโทษจากการใช้กัญชา มนุษย์เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราเชื่อว่ามันดีที่สุดสำหรับเรา"

โอกาสของ Tech Startup และ AgriTech เมื่อกระแส 'กัญชา' กำลังมาถึง

คุณคิตตี้ เสริมว่านี่คือโอกาสของหลายคน เพราะยังมีช่องทางอีกมากมายในการจะพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการ หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่จะเข้ามาส่งเสริมการขายกัญชาตั้งแต่เมล็ดจนถึงหน้าร้าน AgriTech จะเข้ามาเสริมให้คุณภาพและการเพาะปลูกกัญชาเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น เช่น เทคโนโลยีในการเก็บเกี่ยว การสกัดน้ำมันจากกัญชา หรือแม้กระทั่งวิธีการใช้งานสำหรับผู้บริโภค

Clint กล่าวว่าประเทศไทยกำลังจะเติบโตในอุตสาหกรรมกัญชาภายใน 2-5 ปีนี้ เอเชียจะเป็นอีกตลาดใหญ่สำหรับกัญชา ด้วยประชากรและความพร้อมที่มี ขอเพียงแค่เกิดการการสนับสนุนของรัฐบาลอย่างถูกต้องและเป็นธรรม เอเชียและไทยเองจะสามารถส่งออกและมีรายได้จำนวนมหาศาลไหลเข้ามาสู่ประเทศ ผู้ประกอบการและ Startup ควรเตรียมตัวให้พร้อมหรือควรเริ่มที่จะลงมือทำและพัฒนาเป็นเจ้าแรกๆ เพราะเมื่อมันถูกกฎหมายเมื่อไหร่ โอกาสมากมายก็จะเกิดขึ้นกับคุณ

 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image
Responsive image

9 ทักษะดิจิทัล ปี 2024 สร้างมูลค่าให้บริษัทด้วย Tech Skills แห่งอนาคต

ทักษะดิจิทัล หรือทักษะด้านเทคโนโลยี (Tech Skills) ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด...

Responsive image

AI ล้ำหน้าหรือภัยอนาคต? แล้วมนุษย์จะเป็นผู้ล่าหรือเหยื่อ | Tech for Biz EP.17

ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีการคาดการณ์ว่ากว่า 300 ล้านตำแหน่งจะหายไป คำถามคือ คุณจะยืนอยู่ฝ่ายไหนระหว่างเหยื่อที่ถูกแทนที่ หรือนักล่าที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ? แล้วต้องปรับต...