หนึ่งในเทคโนโลยีมาแรงในเวลานี้และถูกพูดถึงกันอย่างมากคือ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมให้ความสำคัญและมุ่งพัฒนาให้ AI เข้ามาพลิกโฉม โดยเทคโนโลยี AI เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามายาวนานโดยถือเป็นหนึ่งในเทรนด์นวัตกรรมใหม่ที่จะเปลี่ยนแทบทุกกิจกรรมของมนุษย์ในอนาคต โดยคุณสมบัติสำคัญคือการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนได้ ความสามารถเหล่านี้เราเอามาใช้ประโยชน์อะไรบ้าง?

ถึงแม้การพูดถึงเรื่อง AI ในเวลานี้จะดูเป็นเรื่องทางเทคโนโลยีที่ล้ำและอาจจะยังไกลตัวเรา แต่อันที่จริงแล้ว AI กำลังผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของเราอย่างไม่รู้ตัว ใกล้ตัวที่สุดในเวลานี้คือเรื่องของสมาร์ทโฟน ที่มีการเอา AI มาช่วยพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น และหนึ่งในผู้ที่นำ AI เข้ามาปฏิวัติการใช้งานสมาร์ทโฟนก็คือ Huawei เจ้าแรกที่นำ AI เข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน

Huawei เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของ R&D หรือการวิจัยด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใน 10 ปีที่ผ่านมีการลงทุนด้าน R&D ไปแล้ว 62500 ล้านดอลลาร์

ดังนั้นในแต่ละก้าวของสมาร์ทโฟนของ Huawei จึงมีแง่มุมด้านพัฒนาการของเทคโนโลยีที่น่าสนใจ นับตั้งแต่การเริ่มต้นจากระดับกลางจนมุ่งสู่ระดับ Highend ในปัจจุบัน ทำให้ Huawei มีตัวเลขการเติบโตที่มีนัยยะสำคัญ โดยในปีทีที่แล้วตัวเลขการสั่งซื้อสมาร์ทโฟนของ Huawei เติบโตขึ้น 10% ในแง่จำนวนเครื่อง และโตขึ้นถึง 30% ในแง่ของรายได้

ปีที่ผ่านมา Huawei ได้เปิดตัวชิป Kirin 970 พร้อมสมาร์ทโฟนที่มีระบบประมวลผล AI ตัวแรกของโลกอย่าง HUAWEI Mate 10 Series  ล่าสุด Huawei ได้มีการเปิดตัวชิป Kirin 980  (รุ่นต่อจาก Kirin 970) เป็นชิปเซ็ท AI ใหม่ล่าสุดที่มีสองสมอง เป็น Dual NPU ตัวแรกของโลก และใช้สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7nm เป็นครั้งแรกของโลก จึงทำให้สามารถบรรจุกว่า 6,500 ล้านทรานซิสเตอร์ในชิปเซ็ต ซึ่งจะมาอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไปของ Huawei โดยชิปตัวนี้จะเข้าไปอยู่ใน HUAWEI Mate 20 Series มาดูกันคร่าวๆก่อนว่า AI ชิ้นนี้จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้สมาร์ทโฟนอย่างไรบ้าง

Kirin 980 พลิกโฉมสมาร์ทโฟนอย่างไร

1. ประสิทธิภาพที่มากขึ้น มาพร้อมกับการใช้พลังงานอย่างประหยัดและชาญฉลาด

ความฉลาดของ AI ที่มากับชิป Kirin 980 คือการประมวลผลที่ละเอียดแม่นยำที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า 20% ในขณะที่ลดการใช้พลังงานลง 40% เช่น หากเป็นการประมวลผลที่มีข้อมูลมากและต้องการความเร็วมากก็จะโยกไปที่แกนสมองสำหรับการประมวลผลความเร็วสูง และใช้แกนสมองที่ประมวลผลช้ากว่าเพื่อรองรับการประมวลผลที่ไม่ได้ต้องการการตอบรับทันที นี่จึงแสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดของ AI ที่ช่วยให้การใช้งานแอปฯ ต่างๆ ไหลลื่นมากขึ้นและการจัดการบริหารพลังงานได้อย่างคุ้มค่า

2. อีกขั้นของเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอ

จุดเด่นที่แปลกใหม่ที่สุดคือเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอที่สามารถเปลี่ยนพื้นหลังได้ ซึ่งเหมือนเป็นการจำลองเทคนิคในการทำถ่ายภาพยนตร์ที่เนรมิตฉากหลังล้ำๆ ได้ทั้งที่ถ่ายทำกันในห้องสตูดิโอ ถือเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจและน่าจะทำให้เกิดการต่อยอดทางความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย รวมถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพนิ่งที่ใช้ AI ในการประมวลผลค่าแสงเพื่อเพิ่มความคมชัดและความสวยงามให้กับไฟล์ภาพ และตัวช่วยในการจับภาพโมเมนต์สำคัญอย่างการตรวจจับความเร็วสูงเพื่อบันทึกภาพคนหรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยในการพัฒนาให้การถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูงซึ่งถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มช่างภาพมือโปรเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

3. การประมวลผลกราฟฟิกขั้นสูง ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและความบันเทิง

อีกสิ่งหนึ่งที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นไปค่อนข้างสูงคือการประมวลผลกราาฟฟิกที่ดีขึ้นกว่าเดิม 46% ในขณะที่ใช้พลังงานลดลดมากถึง 178% ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญในการทำงานในส่วนของการแสดงผลกราฟฟิก รวมถึงประสบการณ์บันเทิงอย่างการเล่นเกมที่ดีขึ้น และการใช้งานก็ทำได้อย่างต่อเนื่องด้วยตัวเลขการใช้พลังงานที่ลดลงไปไม่น้อย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสามารถที่ Kirin 980 จะแสดงให้เห็น ทั้งนี้ต้องติดตามต่อสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟน HUAWEIMate 20 Series ว่าก้าวที่สำคัญต่อจากที่ AI จะเข้ามาช่วยพลิกโฉมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างไรบ้าง

สำหรับ Huawei นั้นได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้านโทรคมนาคม สิ่งที่สะท้อนวิสัยทัศน์นี้คือเบื้องหลังของการลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ การเติบโตของยอดขายรวมถึงพัฒนาการด้านความเป็นสินค้าพรีเมียมที่เน้นมูลค่าด้านนวัตกรรมทำให้ Huawei น่าจะเป็นหนึ่งส่วนสำคัญในการนำเอานวัตกรรมมาพลิกโฉมชีวิตผู้คนในอนาคต อย่างที่ได้เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนาการนำเอา AI มาเป็นผู้ช่วยอยู่ในมือเราได้อย่างทุกวันนี้ โดย HUAWEI Mate 20 จะเปิดตัวที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ วันที่ 16 ตุลาคมนี้

บทความนี้เป็น Advertorial