ทำงานแบบ Hybrid คืออะไร? ทำไมบริษัทชั้นแนวหน้าถึงนิยม | Techsauce
ทำงานแบบ Hybrid คืออะไร? ทำไมบริษัทชั้นแนวหน้าถึงนิยม

พฤษภาคม 26, 2022 | By Connext Team

หลังจากเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 มาเป็นเวลานาน ส่งผลให้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในโลกการทำงาน หนึ่งในนั้นคือการที่บริษัทต่างๆ หันมาใช้รูปแบบการทำงานแบบ Hybrid มากขึ้น 

การทำงานแบบ Hybrid คือ การที่บริษัทอนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานทางไกลได้บางวันผสมกับการทำงานที่ออฟฟิศ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทว่าจะให้พนักงานเข้าออฟฟิศกี่วันและทำงานทางไกลกี่วันต่อสัปดาห์ โดยปกติแล้วการทำงานแบบ Hybrid จะเป็นที่นิยมมากกว่าการทำงานทางไกล 100% เพราะสามารถนำมาปรับใช้ได้ง่ายกว่าและไม่ต้องลงทุนในการเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานใหม่เท่าการทำงานทางไกลเต็มรูปแบบ

Hybrid work

5 บริษัทชั้นนำที่ใช้การทำงานแบบ Hybrid

1. Apple

Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บริการออนไลน์ และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดโลก เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประกาศให้พนักงานทำงานในออฟฟิศแค่ 3 วัน/สัปดาห์ และสามารถเลือกวันทำงานที่บ้านได้ 2 วัน/สัปดาห์

2. Microsoft

Microsoft เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่นำรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid เข้ามาใช้ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทางบริษัทอนุญาตให้พนักงานจากที่ไหนก็ได้ 50% ของเวลาทำงานหนึ่งสัปดาห์

3. Shopify

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ซีอีโอของ Shopify ได้ทวีตว่า “Digital by default” เป็นการสื่อให้เห็นว่าทางบริษัทจะเริ่มทำงานแบบ Remote-first หรือทำงานทางไกลแบบเต็มรูปแบบ ส่วนใครที่อยากเข้าออฟฟิศก็สามารถทำได้เช่นกัน

4. Slack

ในปี 2020 Slack ได้เสนอทางเลือกให้พนักงานว่าจะทำงานจากที่บ้านแบบถาวรหรือจะเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศก็ได้ นอกจากนี้ ตำแหน่งใหม่ๆ ก็เปิดรับสมัครผู้ที่ทำงานทางไกลมากขึ้น และจะนำการทำงานแบบ Asynchronous หรือการทำงานที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เข้ามาใช้กับการทำงาน เพื่อสนับสนุนให้พนักงานมีเวลาการทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง

5. Spotify

Spotify ได้นำรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid เข้ามาใช้ ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังมีการจัดพื้นที่ไว้ทำงานร่วมกันหากพนักงานอยากทำงานในออฟฟิศแต่ไม่ได้อยู่ใกล้ออฟฟิศ 

ข้อดี/ข้อเสียของการทำงานแบบ Hybrid

ข้อดีสำหรับบริษัทอย่างหนึ่งเมื่อให้พนักงานทำงานแบบ Hybrid คือ จะสามารถดึงดูดคนให้เข้ามาสมัครงานกับทางบริษัทได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถค้นหาคนที่ตรงกับความต้องการได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทด้วย

นอกจากนี้ จากรายงานโดย Global Workplace Analytics ได้เผยว่า การมีทางเลือกให้พนักงานสามารถทำงานทางไกลได้ยังช่วยลดการลางานแบบกระชั้นชิดด้วย เพราะพนักงานมีเวลาจัดการธุระที่เกิดขึ้นแบบกะทันหันได้มากขึ้นโดยไม่ต้องลางาน

แต่การนำรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid เข้ามาใช้ก็เพิ่มความท้าทายหลายอย่างให้กับฝั่งนายจ้างเช่นกัน เช่น ปัญหาการขาดความมีส่วนร่วมของพนักงาน เพราะการทำงานทางไกลทำให้ต้องมีการสื่อสารกันแบบออนไลน์ ซึ่งหมายความว่าทางบริษัทจะต้องมีการตั้งเป้าหมายการทำงานให้ชัดเจนและโปรแอคทีฟขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ทำให้หลายบริษัทเริ่มให้พนักงานกลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพนักงานก็ยังคงอยากทำงานทางไกลมากกว่า เพราะช่วยประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน อีกทั้งการทำงานที่บ้านยังทำให้มีสมาธิในการทำงานมากกว่าด้วย

อ้างอิง hcamag 

No comment