กุมภาพันธ์ 22, 2024 | By Chanapa Siricheevakesorn
เคยไหมที่ขนมปังไหม้เพียงชิ้นเดียว กลายเป็นสาเหตุให้เราไปทำงานสาย หรือพลาดนัดสำคัญ? จริง ๆ อาจดูเหมือนเป็นการเริ่มต้นของวันที่โชคไม่ดี แต่แทนที่จะปล่อยให้ขนมปังไหม้ชิ้นเดียวกลายเป็นวันมหกรรมดราม่า ลองมองผ่านเลนส์ "Burnt Toast Theory หรือ ทฤษฎีขนมปังไหม้" กันดีไหม?
Burnt Toast Theory คืออะไร?
ทฤษฎี Burnt Toast Theory คือการเปรียบเปรยชีวิตกับการปิ้งขนมปัง โดยชวนให้คิดว่าความผิดพลาดและอุปสรรคในชีวิต เปรียบเสมือนขนมปังที่ไหม้ ซึ่งแม้จะดูเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีนัก แต่กลับนำมาซึ่งบทเรียนและโอกาสในการเรียนรู้
ถ้าเล่าให้เห็นภาพคือ วันที่เรากำลังจะสายแล้ว ‘ขนมปังดันเลยไหม้’ เลยทำให้ต้องเสียเวลา 5 นาทีเพื่อปิ้งขนมปังชิ้นใหม่ แต่กลายเป็นว่าอุปสรรคเล็ก ๆ นี้ช่วยให้เรารอดจากอุบัติเหตุหรือเปิดประตูสู่โอกาสที่ดีกว่าเดิม ซึ่งทฤษฎีนี้จะชวนให้เราเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผลเสมอและอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แม้จุดเริ่มต้นจะเป็นแค่ขนมปังไหม้ก็ตาม
ทฤษฎีนี้ได้รับความนิยมใน TikTok โดย Ingrid (@offthe__grid) ผู้ทำให้แนวคิดนี้ไวรัล โดยอธิบายว่า “การปิ้งขนมปังไหม้ในตอนเช้า อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุ หรือการเจอกับบุคคลที่ไม่พึงประสงค์”
Cameron Williams นักจิตวิทยา อธิบายเพิ่มเติมว่า มนุษย์มักแสวงหาความหมายจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และพยายามหาเหตุผลอธิบายความสับสนวุ่นวายที่เจอในชีวิต ‘Burnt Toast Theory’ จึงตอบโจทย์ความต้องการนี้ โดยเสนอมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
นอกจากนี้ ทฤษฎีนี้ยังสอนให้เรายอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้ เปรียบเสมือนการปิ้งขนมปังใหม่ โดยปรับลดไฟและระยะเวลา โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจดีกว่าเดิม
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต Courtney Morgan จาก Counseling Unconditionally ได้อธิบายว่า "Burnt Toast Theory ช่วยให้เรากลับมาตั้งหลักได้หลังจากเจอปัญหา" และเสริมว่า "ทฤษฎีนี้เป็นวิธีปรับ Mindset ช่วยให้เรารู้ว่าอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่กลับช่วยให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งดี ๆ ในชีวิต"
Burnt Toast Theory = Manifestation?
ทฤษฎีขนมปังไหม้มีความคล้ายคลึงกับทฤษฎีแรงดึงดูดของโลก แมนิเฟสต์ (Manifestation) และแนวคิดด้านจิตวิทยาที่ว่า ‘ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ’ ทำให้การยอมรับความผิดพลาดจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ด้วยความเรียบง่ายและเข้าใจง่ายของทฤษฎีนี้ ทำให้กลายเป็นไวรัล ผู้คนต่างนำไปปรับใช้
ประโยชน์ของการนำทฤษฎี Burnt Toast Theory ไปใช้
- ลดความเครียด: ทฤษฎีนี้ช่วยให้เราไม่จมปลักกับเรื่องเล็กน้อยในภาพรวมของชีวิต
- มีสติ: การคิดแบบนี้ช่วยให้เรามีสติและคิดบวกมากขึ้น "เวลาเจอปัญหา มันง่ายที่จะมัวแต่โมโห แต่ทฤษฎีนี้ช่วยให้เราปล่อยวางจากความคิดลบ ๆ ได้
- ไม่กลัวต่ออุปสรรค: ทฤษฎีนี้ช่วยให้เราสามารถ "ผ่านพ้น" และ "มีทัศนคติที่ดี" ได้แม้เจอปัญหา และจะส่งผลให้เราเข้มแข็งขึ้นพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต
วิธีนำ Burnt Toast Theory ไปใช้
- ปรับเปลี่ยนความคิด: เมื่อเจออุปสรรค ลองคิดถึงข้อดีของมัน เช่น "ดีนะที่ขนมปังไหม้ จะได้ทำช้าลง ไม่ต้องรีบเกินไป"
- ฝึกพูดกับตัวเอง: พูดกับตัวเองในแง่บวก เช่น "ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็แก้ไขได้"
- เขียนบันทึก: บันทึกความคิดและความรู้สึก เพื่อติดตามการปรับเปลี่ยนมุมมอง
จำไว้ว่า การฝึกคิดแบบนี้ ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน อย่ากดดันตัวเองหากทำไม่ได้ในตอนแรก สุดท้ายแล้ว แค่เปลี่ยนมุมมองจากขนมปังไหม้ เป็นบทเรียน ก็สามารถเปลี่ยนวันแย่ ๆ ให้กลายเป็นวันดี ๆ ได้
สรุป ‘Burnt Toast Theory’ ทฤษฎีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องขนมปังไหม้ แต่คือ Mindset เชิงบวกต่อความผิดพลาดและอุปสรรคในชีวิต เปรียบเสมือนบทเรียนและโอกาสในการเรียนรู้ สอนให้เรายอมรับความจริง ปรับตัว และพัฒนาต่อไป
อ้างอิง popsugar, refinery29