green tea vs coffee เครื่องดื่มไหนช่วยให้เรามีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่ากัน | Techsauce
green tea vs coffee เครื่องดื่มไหนช่วยให้เรามีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่ากัน

กุมภาพันธ์ 5, 2024 | By Suchanan Songkhor

ในการทำงานของมนุษย์ออฟฟิศไอเทมที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือเครื่องดื่มคู่ใจ ซึ่งหลายคนก็คงมีเครื่องดื่มที่ชอบต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ชาไทย ชาเขียว โกโก้ เป๊ปซี่ หรือกาแฟต่าง ๆ     

ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกตื่นตัว อยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น เพราะเราจะมาง่วงกลางคันไม่ได้หนา เดี๋ยวหัวหน้าจะเครซี่! เอาได้

green tea vs coffee เครื่องดื่มไหนช่วยให้เรามีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่ากัน

แต่ทั้งนี้ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่ครองใจชาวออฟฟิศมายาวนานก็คงหนี้ไม่พ้น ‘กาแฟ’ ถ้าเราสังเกตดี ๆ ก่อนเข้าออฟฟิศหลายคนมักจะมีกาแฟถือมาคนละแก้ว บางคนก็ต้องแวะซื้อมาก่อนเข้าที่ทำงานก็มี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟจะเป็นชาวออฟฟิศ 

แต่รู้ไหมว่าเครื่องดื่มคาเฟอีนที่ดีต่อกายและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเรากลับไม่ใช่กาแฟเสมอไป แต่เป็น “ชาเขียว” ต่างหาก ฟังมาถึงตรงนี้ใครที่เป็นสายกาแฟอย่าพึ่งตกใจไป อ่านบทความนี้ให้จบ แล้วจะรู้คำตอบ

จริงไหม? เครื่องดื่มที่ดีต่อกายและสมองคือชาเขียว ไม่ใช่กาแฟ

อย่างที่ทุกคนรู้กาแฟและชาเขียวเป็นเครื่องดื่มทีมีคาเฟอีน 

คาเฟอีน คือสารอัลคาลอยด์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ พบมากในเมล็ดกาแฟ ใบชา โกโก้ และถั่วโคล่า สารนี้จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วและเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของสารอะดีโนซีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกง่วง สรุปได้ว่าคาเฟอีนอีนคือสารแก้ง่วง ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า มีแรงในการทำงาน 

จริงอยู่ที่ว่ากาแฟช่วยกระตุ้นเราให้สดชื่นพร้อมทำงาน ทำงานไหลลื่นขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราได้รับคาเฟอีนที่มากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า จึงทำให้เรารู้สึกตื่นตัวทันทีหลังจากที่ดื่มกาแฟ

แต่พอหลังจากที่เราทำงานไปแล้วสัก 1-2 ชั่วโมงล่ะ เป็นไหมที่รู้สึกว่าร่างกายของเราเริ่มไม่ไหวแล้ว ง่วงเหมือนตาจะปิด จนกลายเป็นว่าเราต้องมีแก้วที่ 2 3 4 ตามมา เพื่อบูสต์เอนเนอร์จี้ของตัวเองให้ไม่อ่อม แล้วกลับมาทำงานได้ปกติ ซึ่งจะต่างจากชาเขียวที่เราสามารถดื่มแก้วเดียวแล้วอยู่ได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น 

คำถามคือแล้วทำไมชาเขียวที่มีปริมาณเคเฟอีนน้อยกว่ากาแฟถึงกลับทำให้เราไม่ง่วงเลยล่ะ? 

ผลงานวิจัยระบุว่าในชาเขียวมีสารที่เรียกว่า L-theanine หรือ แอล-ธีอะนีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเครียด ให้สมองรู้สึกปลอดโปร่ง จิตใจสงบ และยังมีสาร Gamma-Aminobutyric Acid หรือ GABA (กาบา) เป็นสารสื่อประสาทที่ทำงานเป็นตัวต้านกระแสประสาท ลดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง ช่วยให้สมองของเราผ่อนคลาย ซึ่งตรงกันข้ามกับสารคาเฟอีน 

เป็นผลให้เวลาที่เราดื่มชาเขียว ร่างกายของเราจะค่อย ๆ ซึมซับคาเฟอีนเข้าไปอย่างช้า ๆ ซึ่งผู้ดื่มอย่างเรา ๆ จะไม่รู้ตื่นตัวทันทีเหมือนกาแฟ แต่เราจะค่อย ๆ รู้สึกตื่นตัวและมีเอนเนอร์จี้ขึ้นเรื่อย ๆ 

ถ้าพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือหลังจากที่เราดื่มกาแฟร่างกายของเราจะตื่นตัวทันที มีแรงสู้งาน แต่จะสู้ได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายก็จะเริ่มล้าและเริ่มรู้สึกง่วง เพราะร่างกายของเราดูดซับสารคาเฟอีนมาใช้ในร่างกายเร็ว ต่างจากชาเขียวที่หลังจากดื่มร่างกายจะค่อย ๆ รู้สึกสดชื่นและตื่นตัวอยู่ได้เรื่อย ๆ เลยเกือบทั้งวัน

ซึ่งทาง ConNEXT สรุปได้ว่าสำหรับใครที่ต้องการบูสต์เอนเนอร์จี้ตัวเองแบบเร็ว ๆ ต้องการมีแรงทำงานแบบทันทีให้ไปทางกาแฟ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าอยากนั่งทำงานได้นาน ๆ ทำได้เรื่อย ๆ เอนเนอร์จี้ไม่มีตก มีพลังงานในการทำงานอยู่ตลอดแนะนำให้มาทางชาเขียว 

อ้างอิง : bangoshi, officelibations

No comment