รู้จัก Law of Attraction หรือ กฎแรงดึงดูด แนวคิดที่เชื่อว่าคิดอะไรก็จะได้สิ่งนั้นเข้ามาในชีวิต | Techsauce
รู้จัก Law of Attraction หรือ กฎแรงดึงดูด แนวคิดที่เชื่อว่าคิดอะไรก็จะได้สิ่งนั้นเข้ามาในชีวิต

ธันวาคม 18, 2023 | By Connext Team

กฎแรงดึงดูดว่ากันว่าหากคิดบวกชีวิตก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา แต่ถ้าคิดลบชีวิตก็จะเจอแต่เรื่องไม่ดี เพราะมีหลาย ๆ คนเชื่อว่าความคิดก็คือพลังงานรูปแบบหนึ่งที่จะส่งผลต่อชีวิตของเรา 

ซึ่งการที่เรามีพลังงานดี ๆ มีพลังงานเชิงบวกอยู่รอบ ๆ ตัว ก็จะยิ่งช่วยดึงดูดสิ่งดี ๆ หรือความสำเร็จต่าง ๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์

จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เกิดคำถามว่า กฎแรงดึงดูดแท้จริงแล้วมีจริงไหม? แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กฎแรงดึงดูดจากหนังสือ "The Secret" จะได้รับความสนใจ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้แน่ชัด และทั่วไปก็มักจะมองว่ากฎแรงดึงดูดนี้เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น

กฎแรงดึงดูด

กฎแรงดึงดูด คืออะไร?

กฎแรงดึงดูด คือแนวคิดที่มีความเชื่อว่าจิตของเรามีพลังมากพอที่จะดึงดูดสิ่งต่าง ๆ ทั้งดี และ ไม่ดี เข้ามาในชีวิตได้ หากจิตของเราคิดดี ชีวิตก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ แต่ถ้าจิตของเราคิดลบ ชีวิตก็จะมีแต่เรื่องที่ไม่เป็นไปดั่งใจ แต่อย่างไรก็ดีเหมือนที่บอกไปข้างต้น กฎแรงดึงดูดก็ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างแน่ชัด เป็นเพียงความเชื่อที่เหมือนกุศโลบายที่ช่วยนำทางให้เราใช้ชีวิตได้ดีและประสบความสำเร็จมากขึ้น 

กฎแรงดึงดูดทำงานอย่างไร ? 

สิ่งที่คล้ายกันจะดึงดูดกัน หมายความว่าคนที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน มักจะดึงดูดเข้าหากัน และความคิดของคนก็มีแนวโน้มที่จะดึงดูดเข้าหากันด้วย เหมือนกับความเชื่อที่ว่าหากเราคิดลบชีวิตก็จะดึงดูดแต่สิ่งไม่ดีเข้ามา แต่ถ้าหากคิดบวก ชีวิตก็จะเจอแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา 

ในข้อนี้จะสื่อให้เห็นว่า มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถทำให้ดีในช่วงเวลาปัจจุบัน แม้อาจจะดูเหมือนว่า ปัจจุบันจะยังดูไม่ดีพอ แต่แทนที่จะมัวแต่กังวลหรือเสียใจ เราควรจะตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุดจะดีกว่า

จะนำกฎแรงดึงดูดไปใช้ได้อย่างไร ? 

สมมติว่าเรากำลังให้ความสนใจกับอะไรมาก ๆ อยากให้คิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราคู่ควรและเราสามารถทำได้ เพราะถ้าหากเราคิดแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สิ่งที่เราคิดมักจะเกิดขึ้นกับเราได้จริง ๆ 

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้าเราเชื่อแบบไหน เราก็จะกระทำทุกอย่างที่ส่งผลให้สุดท้ายเราได้สิ่งนั้น และสิ่งที่จะทำให้ กฎแรงดึงดูด เข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้น ได้แก่ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการงาน หรือแม้แต่เรื่องเงิน

กฎแรงดึงดูดยังช่วยให้เราประสบความสำเร็จในอาชีพ แม้ว่าบางครั้งผู้คนจะมีความเชื่อผิด ๆ ว่า แค่การคิดบวกและมีแรงบันดาลใจในการทำงาน จะทำให้หน้าที่การงานดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว การที่เราจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้นั้นจะต้องมี การตั้งเป้าหมายในระยะยาว เพื่อช่วยให้เห็นภาพความสำเร็จที่ชัดเจนขึ้น การกระทำในปัจจุปันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและเราก็จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

ตัวอย่างเช่น เพื่อน ๆ มีความหวังว่าอยากให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแต่มัวนั่งคิดเฉย ๆ รอแต่กฎดึงดูดอย่างเดียวก็อาจไม่พอนะ เราต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นด้วย ให้หัวหน้าเห็นว่าเราเหมาะกับการที่จะได้รับเงินเดือนเพิ่มจริง ๆ 

การเงินของเราจะดีขึ้นได้ต้องเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก่อน แทนที่เราจะหวังว่าอยากได้มากกว่านี้ เราต้องมีมากกว่านั้น แต่รู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่เราควรทำมากที่สุด ? นั่นก็คือ การประเมินสถานภาพทางการเงินของตัวเองก่อนให้เรารู้จักตัวเองจริง ๆ และหลังจากนั้นให้วางแผนและตั้งเป้าหมายให้ดี

กฎแรงดึงดูดยังช่วยทำให้หลายคนได้ปรับเปลี่ยนความคิดจากความเชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก เราไม่เหมาะสมกับสิ่งนี้ ให้เปลี่ยนเป็นการไม่ตัดพ้อกับชีวิต และเริ่มลงมือทำจริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพึ่งแค่กฎแรงดึงดูดอย่างเดียวก็ไม่ได้ ตัวเราเองก็ต้องลงมือทำด้วย 

แม้ว่ากฎแรงดึงดูดจะไม่ได้รับการสนับสนุนในทางวิทยาศาสตร์ แต่ผู้ที่สนับสนุนในกฎนี้บอกว่า กฎแรงดึงดูดสามารถเปลี่ยนชีวิตของคน ๆ นั้น ไปในทางที่บวกได้จริง ๆ 

ประโยชน์จากกฎแรงดึงดูด

กฎแรงดึงดูดจะให้ผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณของเรา เพราะจิตวิญญาณนั้นเชื่อมโยงกับสุขภาพและสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพได้มากมาย เช่น ความเครียดที่ลดลง สุขภาพที่ดีขึ้น อาการซึมเศร้าที่ลดลง และความเป็นอยู่โดยรวมที่ดีขึ้น

การใช้กฎแรงดึงดูดอาจทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น หมายความว่าการที่เราให้ความสนใจไปกับเป้าหมายใหม่ ๆ ที่อยู่บนความเป็นจริง และมีความเชื่อว่าสามารถเป็นไปได้ แต่ถ้าเราไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ เราก็มักจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปในที่สุด

แน่นอนว่าถ้าเรามีความเชื่อว่าเราไม่สมควรได้รับสิ่งดี ๆ เราก็จะมีการกระทำบางอย่างที่เป็นพลังงานลบ ๆ ไปเรื่อย ๆไม่ว่าจะเป็น การพูดลบ ๆ กับตัวเองและรู้สึกแย่ ๆ กับตัวเอง เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะเปลี่ยนจากความคิดลบ ๆ ให้มาเป็นความคิดบวก ๆ ในชีวิต เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

การวิจัยเกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดีแสดงให้เห็นว่าคนที่มองโลกในแง่ดีจะมีสุขภาพที่ดีกว่า มีความสุขมากกว่า และจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น เพราะพวกเขาจะให้ความสนใจไปที่ความสำเร็จมากกว่าความล้มเหลว

เคล็ดลับในการปฏิบัติตามกฎการดึงดูด

การจดบันทึก การเขียนความคิดของตัวเองลงไปในสมุดโน้ต สามารถช่วยให้เราเรียนรู้ที่จะจดจำความคิดที่เป็นนิสัยของเราได้ดีขึ้น เพื่อดูว่าเรามีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้าย พร้อมทั้งเรียนรู้ความคิดเชิงลบของตัวเองไปในตัว

สร้าง Mood Board การสร้างภาพเตือนความจำที่ช่วยให้เราคิดบวกอยู่เสมอ จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจ และมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมาย ฝึกการยอมรับ แทนที่จะมุ่งเน้นไปในสิ่งที่ผิดพลาด ให้เราลองพยายามยอมรับสิ่งต่างๆ ตามที่เป็นอยู่ ฝึกพูดเชิงบวกกับตัวเอง หากเรารู้สึกว่าเราพูดลบกับตัวเองมากเกินไป ให้ลองตั้งเป้าหมายว่า วันนี้ฉันจะฝึกพูดบวกกับตัวเองดู เมื่อเวลาผ่านไปเราจะค้นพบว่าการพูดบวกกับตัวเองเป็นเรื่องที่ง่ายมากและความคิดลบ ๆ ก็จะลดน้อยลงไปเองโดยอัตโนมัติ

สุดท้ายนักวิจารณ์ที่วิจารณ์ เรื่อง "The Secret" และหนังสืออื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎแรงดึงดูด ได้แสดงความคิดเห็นว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีกับตัวเอง เช่น อุบัติเหตุและการบาดเจ็บ การเลิกจ้างหรือโรคร้ายแรง สิ่งแรกที่ผู้คนคิด คือ การโทษตัวเอง เราจะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้และเราก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตลอดเวลาด้วย แต่เราสามารถควบคุมความคิดของเราได้ เพราะฉะนั้นกฎแรงดึงดูด จะช่วยให้เรามองโลกในแง่ดีและทัศนคติบวกในแต่ละสถานการณ์ได้ แต่จะต้องไม่ใช้เป็นเครื่องมือในการตำหนิตนเอง

เขียนโดย : Monnapha Wangchanakul

อ้างอิง : Verywellmind.com

No comment