คุณเคยฝันไหมว่า สักวันหนึ่งคุณจะต้องเป็นประสบความสำเร็จและกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน?
แล้วคุณเคยสงสัยไหมว่า คนจะเป็นเศรษฐีเค้าต้องมีแนวคิดในการใช้ชีวิตแบบไหน? และทำไมพวกเขาถึงประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น?
เพื่อไขกุญแจสู่ความสำเร็จตามแบบฉบับมหาเศรษฐีทั่วโลก Connext จึงจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Millionaire Mindset ที่เจาะลึกเกี่ยวกับแนวคิดในการใช้ชีวิต และคุณลักษณะที่จำเป็นต้องมี ถ้าหากอยากเป็นเศรษฐีคนต่อไปกัน ส่วนจะมีอะไรกันบ้างนั้น ลองตามไปดูกันได้เลย
Millionaire Mindset คือ อะไร?
Millionaire Mindset คือ ทัศนคติที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงชีวิตและบรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการได้ แต่นั้นหมายความว่าคุณจะต้องตั้งสมาธิใหม่ และเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับตัวเอง การเงิน และโลกรอบตัวคุณ เพราะถ้าคุณคิดแต่เรื่องเดิมๆ คุณก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม การเปลี่ยนแปลงในโลกรอบตัวคุณจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเอง
เราจะพัฒนา ‘Millionaire Mindset’ ได้อย่างไร?
การที่จะพัฒนา ‘Millionaire Mindset’ นั้น คุณต้องขยายความคิดของคุณ โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาคุณลักษณะ 5 ประการดังต่อไปนี้:
มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
หากคุณปรารถนาที่จะเป็นเศรษฐี หรือคุณปรารถนาที่จะมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่าเหตุผลใดคุณจึงต้องการมัน
ทำไมคุณถึงอยากจะเป็นเศรษฐี? คุณต้องเข้าใจ ‘เหตุผล’ ของคุณอย่างชัดเจน เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาที่ยากลำบากหรือเมื่อคุณรู้สึกท้อ คุณจะมีแรงผลักดันให้ทำมันต่อไป
คุณหวังจะได้อะไรจากการบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้? ถ้าเราบรรลุเป้าหมายเราจะได้อะไรกลับมา และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น แล้วถ้าเราไม่บรรลุเป้าหมาย เราจะต้องสูญเสียอะไรไป เมื่อคุณสร้างวิสัยทัศน์และ "เหตุผล" ของคุณ คุณจะได้รับแรงผลักดันเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย
ผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกส่วนใหญ่ล้วนมีวิสัยทัศน์อันกว้างใหญ่ พวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะมุ่งไปทางไหนและทำไมพวกเขาถึงมุ่งไปทางนั้น พวกเขามีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบและชื่อเสียงที่พวกเขากำลังได้รับ
นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจหรือเศรษฐีส่วนใหญ่ยังมีความคิดแบบ “ปัจจุบัน” พวกเขาทำในสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่ามันจะยากหรือเป็นไปไม่ได้แค่ไหนก็ตาม การรู้ว่าทำไมคุณถึงทำในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่และเป็นคนประเภท "คิดแบบปัจจุบัน" จะทำให้คุณได้รับสิ่งที่คุณต้องการ
รักในสิ่งที่คุณทำ
เมื่อคุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณจะไม่รู้สึกเหมือนกำลังทำงานอยู่เลย และเมื่อคุณรักในสิ่งที่คุณทำ เงินทองจะไหลเข้ามายังกระเป๋าตังค์ของคุณอย่างไม่ขาดสาย แม้ว่าในขณะนี้ คุณกำลังทำงานในอาชีพหรืองานที่คุณไม่ได้รัก แต่เพียงแค่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่องานก็สามารถเปลี่ยนความคิดทั้งหมดของคุณได้
เพราะฉะนั้น แทนที่จะเอาแต่คิดเสียใจที่ไม่ได้ทำงานที่เรารัก ให้คุณคิดเสียว่ามันเป็นนายธนาคารที่คอยสนับสนุนคุณในขณะที่คุณทำงานเพื่อต่อยอดไปยังเป้าหมายที่คุณต้องการ
มุ่งเน้นการแก้ปัญหา
จริงๆ การแก้ปัญหาก็เปรียบเสมือนการเดินทางนะ เมื่อถึงจุดที่เริ่มยากลำบาก คนส่วนใหญ่มักจะเก็บสัมภาระและกลับบ้านไป แต่ในความคิดของเศรษฐี ทุกปัญหามักจะมีทางแก้เสมอ และไม่ว่าปัญหาหรือความท้าทายจะใหญ่สักแค่ไหน มันก็มักจะเป็นเรื่องเรื่องดีๆที่แฝงมากับเรื่องร้ายๆ เพราะแม้แต่ความล้มเหลวก็ยังถือเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณในอนาคต
นอกจากนั้น การมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหามากกว่าตัวปัญหา จะช่วยให้คุณรักษาทัศนคติเชิงบวกและไม่ถูกรบกวนจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ ยิ่งคุณเติบโตในฐานะผู้ประกอบการ แรงกดดัน ความรับผิดชอบ และปัญหาก็จะยิ่งมากขึ้น
ฝึกฝนทักษะความเป็นผู้นำของคุณอย่างต่อเนื่อง
การมุ่งมั่นฝึกฝนทักษะความเป็นผู้นำของคุณอย่างต่อเนื่อง จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตรวมถึงธุรกิจของคุณเป็นอย่างมาก ยิ่งคุณพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งดึงดูดผู้นำที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันเข้ามาในธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้น
หนึ่งในกฎแห่งความเป็นผู้นำชื่อ ‘Law of the lid’ คือการที่ให้เปรียบตัวคุณเป็นฝาบนภาชนะ หรืออีกนัยหนึ่ง คุณคือผู้จำกัดการเติบโตของธุรกิจ การเพิ่มทักษะความเป็นผู้นำจะทำให้ฝาบนภาชนะถลายลง และจะทำให้ธุรกิจของคุณขยายใหญ่ไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่
มุ่งเน้นการเติบโต
เจ้าของธุรกิจหรือเศรษฐีมักจะแสวงหาการเติบโตและการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่คุณต้องทำ คือ คุณต้องหาโค้ช เพื่อชี้ทางไปสู่ความสำเร็จที่ถูกต้อง และคุณจะต้องกลายเป็นคนที่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นได้ด้วย เพราะ หากคุณไม่สามารถยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้อื่นได้ คำแนะนำของโค้ชที่คุณปรึกษาก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร
ดังนั้นให้คุณคิดไว้เสมอว่าโค้ชของคุณมองธุรกิจและชีวิตของคุณจากมุมมองภายนอกที่คุณทำเองไม่ได้ และให้คุณเชื่อว่าโค้ชของคุณมีสติปัญญาและมุมมองภาพที่สมบูรณ์ที่คุณไม่มี ยิ่งคุณรับฟังความคิดเห็นและซึมซับคำติชมมากเท่าใด ธุรกิจของคุณก็จะยิ่งเติบโตเร็วและไกลขึ้นเท่านั้น
อ้างอิง: Entrepreneur