ความหลากหลายเป็นหัวข้อที่กลายมาเป็นหนึ่งในสภาพแวดล้อมของการทำงาน ในขณะที่เรามักจะให้ความสำคัญกับเพศและเชื้อชาติเมื่อพูดถึงเรื่องของความหลากหลาย แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือ อายุ ซึ่งปัจจุบันภายในที่ทำงานความหลากหลายทางอายุโดยเฉลี่ยจะมีอย่างน้อย 4 ช่วงอายุด้วยกัน โดยบริษัทส่วนใหญ่ที่รองรับความหลากหลายทางอายุของพนักงานจะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากกว่า อาจเป็นเพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลายและเหตุผลอื่นๆ ซึ่งวันนี้ ConNEXT จะพาไปรู้จักกับนิสัยของ Gen ต่างๆ ภายในที่ทำงานพร้อมกับ 5 เหตุผลที่ทำไมความหลากหลายทางอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญในที่ทำงาน

ลักษณะนิสัยของ Generation ต่างๆ ในที่ทำงาน

1. Gen B (55-73 ปี)

คนในช่วงอายุนี้จะอยู่ในวัยเกษียณ ระดับผู้บริหาร หรือที่ปรึกษา จะเป็นวัยที่ไม่ถูกกับเทคโนโลยีอย่างมาก เพราะไม่สามารถปรับตัวได้ ส่วนใหญ่ถนัดในงานด้านเอกสารหรือการพูดคุยมากกว่าและถนัดในด้านของการให้คำปรึกษามาก เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานสูง นอกจากนั้นยังเห็นการทำงานหนักเป็นเรื่องปกติอีกด้วย เนื่องจากเกิดในยุคที่ยากลำบาก ทำให้ผู้คนภายในยุคนั้นจะต้องทำงานหนัก

2. Gen X (40-54 ปี)

คนในช่วงอายุนี้จะทำงานในระดับผู้บริหาร หัวหน้าทีม ชอบความเป็นระเบียบ ทำงานเป็นขั้นตอน ชอบทำงานเป็นทีม แต่ถ้าหากมีปัญหาไม่ว่าจะในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวของคุณ พวกเขาพร้อมที่จะรับฟังและให้คำปรึกษากับคุณได้เสมอ

3. Gen Y (22-39 ปี)

คนในช่วงอายุนี้จะทำงานในระดับหัวหน้าทีม รุ่นพี่ภายในที่ทำงานรวมไปถึงเด็กจบใหม่ คนใน Gen นี้เกิดมาพร้อมยุคพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่าย มีความยืดหยุ่น ทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน แต่จะไม่ชอบทำงานที่มีเงื่อนไขและข้อบังคับมากมายและหมดความอดทนได้ง่าย ถ้ารู้สึกว่างานนั้นไม่ท้าทายพอสำหรับพวกเขา ถ้าหากร่วมงานกับคน Gen นี้จะต้องให้ความอิสระในการทำงานกับพวกเขาและให้พื้นที่ในการแสดงความคิดหรือไอเดียใหม่ๆ เสมอ

4. Gen Z (อายุ 21 ปีลงไป)

ช่วงอายุที่กำลังจะเข้ามาเป็นพนักงานในอนาคตหรือกำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน พวกเขาเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีและความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขามองหาความชอบเป็นอันดับแรก ให้ความสำคัญกับคุณค่าของงานมากกว่าความมั่นคง มีความเป็นตัวเองสูง หากมองเห็นปัญหาหรือไม่พอใจในส่วนไหนก็ไม่ลังเลที่จะพูดออกมา พวกเขาจึงต้องการหัวหน้าหรือพี่เลี้ยงที่พร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและพร้อมที่จะผลักดันพวกเขากับการลงมือทำในสิ่งที่พวกเขาชอบ

5 เหตุผลที่ความหลากหลายทางอายุถึงสำคัญในที่ทำงาน

1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

จากงานวิจัยพบว่าองค์กรที่มีความหลากหลายทางอายุจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรได้ ถ้าหากคุณอยากเพิ่มความ Productive ให้กับองค์กรลองจัดตั้งทีมที่ปรึกษาที่มีความหลากหลายทางอายุ เมื่อทีมอื่นๆ ประสบปัญหาหรือเผชิบกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ทีมที่ปรึกษานี้อาจจะเสนอวิธีช่วยเหลืออันหลากหลายที่สามารถทำให้คุณพึงพอใจได้

2. นวัตกรรมที่หลากหลาย

องค์กรที่มีความหลากหลายทางอายุอาจหมายถึงประสบการณ์และมุมมองที่หลากหลายได้อีกด้วย ซึ่งนำมาสู่แหล่งที่มาของนวัตกรรมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น 

3. มีทักษะที่หลากหลาย

คนในแต่ละช่วงอายุจะชุดทักษะที่แตกต่างกันออกไปที่นำมาใช้ในการทำงาน เช่น พนักงานใน Gen Y หรือ Z มีความรู้หรือทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยี ส่วนพนักงาน Gen B หรือ X มีทักษะมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ถ้าหากได้ทำงานหรือมีโปรเจคร่วมกัน ผลงานที่ออกมาก็จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรของคุณได้อีกด้วย

4. เทคนิคทางธุรกิจ

การจ้างงานพนักงานที่มีอายุเยอะทำให้องค์กรมีทักษะทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าหลากหลายประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขามีประสบการณ์ในการติดต่อธุรกิจมากกว่า

5. มีแพลตฟอร์มให้คำปรึกษา

พนักงานที่มีอายุมากกว่าสามารถใช้ประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมาหลายปีในการสอนงานหรือให้คำปรึกษากับพนักงานที่มีอายุน้อยกว่าได้ และในทางกลับกันพนักงานที่มีอายุน้อยกว่าก็สามารถสอนเทคโนโลยีหรือทักษะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมให้กับพนักงานที่มีอายุมากกว่าได้

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางอายุ เพศหรือเชื้อชาติ ก็มีประสบการณ์การทำงานหรือความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากในการหาจุดร่วมในการทำงานร่วมกันที่ลงตัวและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

เขียนโดย : Nichaphat Srijumpa 

อ้างอิง : mangozero, vantageaging