จริงหรือ? ผู้จัดการกว่า 74% ชี้คน Gen Z ทำงานด้วยยากที่สุด | Techsauce
จริงหรือ? ผู้จัดการกว่า 74% ชี้คน Gen Z ทำงานด้วยยากที่สุด

กันยายน 7, 2023 | By Chanapa Siricheevakesorn

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ต่างต้องเผชิญกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตั้งแต่ช่วงเรียนไปจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน จึงอาจทำให้บางทักษะและมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ อาจจะแตกต่างกับคนวัยอื่น ๆ ได้ 

ทำให้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ResumeBuilder.com ที่ให้บริการเว็บไซต์ช่วยทำเรซูเม่ระดับมืออาชีพ ได้ออกมาเผยผลสำรวจของคนในหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ตำแหน่งระดับหัวหน้าหรือผู้จัดการขึ้นไปจำนวน 1,344 คน และพบว่ากว่า 74% ชี้ Gen Z เป็นกลุ่มที่ร่วมงานด้วยได้ยากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ และมีการเลิกจ้างกลุ่มคน Gen Z กว่า 12% ภายในสัปดาห์แรกของการทำงาน แล้วทำไมผลถึงออกมาเป็นเช่นนี้? ในบทความนี้มีคำตอบ! 

จริงหรือ? ผู้จัดการกว่า 74% ชี้คน Gen Z ทำงานด้วยยากที่สุด

เพราะเหตุใด Gen Z จึงกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยยาก

แม้ว่า Generation Gap หรือความแตกต่างระหว่างช่วงวัยในที่ทำงานจะเป็นประเด็นถกเถียงมานานแล้ว แต่ Stacie Haller หัวหน้าที่ปรึกษาด้านอาชีพของ ResumeBuilder.com กล่าวว่า “การเผชิญช่วงวิกฤตโรคระบาดก็ยิ่งทวีความท้าทายในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งการรูปแบบสื่อสารและรูปแบบการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยการเรียนออนไลน์อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อพื้นฐานของการสื่อสารและมุมมองความคิดได้ เพราะการเรียนหรือทำงานทางไกล (Remote Working) อาจส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคมหรือพัฒนาทักษะทางการสื่อสารระหว่างบุคคล นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ทำให้คนรู้สึกอิสระมากขึ้นทั้งทางความคิดและการแสดงออกในการทำงาน ฉะนั้นหัวหน้างานหรือผู้จัดการอาจจำเป็นจะต้องเสริมทักษะเหล่านี้ให้คนรุ่นใหม่เมื่อตัดสินใจรับพวกเขาเข้าทำงานนั่นเอง”

ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ Gen Z กลายเป็นเพื่อนที่ร่วมงานด้วยยาก โดยเหตุผลสามอันดับแรกคือ 39% กล่าวว่า คน Gen Z ขาดทักษะด้านเทคโนโลยี เช่น การใช้คำสั่งพื้นฐานของโปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้ในสำนักงาน และรองลงมา 37% มองว่า คน Gen Z ไม่ค่อยมีความมานะพยายาม และอีก 37% เท่ากันมองว่า คน Gen Z ขาดแรงจูงใจในการทำงาน 

นอกจากน้ียังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น สมาธิสั้น ไม่ค่อยโฟกัส, ขาดทักษะการสื่อสาร, ขาดแรงกระตุ้นในการทำงาน, มีความคิดและเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นต้น

Adam Garfield ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Hairbro ผลิตภัณฑ์ด้านทรงผม กล่าว “เมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่น ๆ พบว่า Gen Z มีความคิดเชิงนวัตกรรมสูงและปรับตัวได้ค่อนข้างดี เพราะพวกเขาไม่กลัวที่จะท้าทายกับสิ่งต่าง ๆ และนำแนวคิดใหม่ ๆ มาสู่ที่ประชุม นอกจากนี้ กลุ่มคน Gen Z ยังให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ความโปร่งใส และคาดหวังให้องค์กรมีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีจริยธรรมอีกด้วย แม้ว่าพวกเขาอาจจะขาดทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์บางอย่างที่จำเป็นสำหรับการสื่อสาร แต่หากหัวหน้าหรือผู้จัดการ สามารถส่งเสริมทักษะนี้ให้พวกเขาได้ก็จะเสริมให้กลุ่มคนรุ่นใหม่นี้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับเพื่อนร่วมงานได้ในที่สุด”

คน Gen Z กว่า 12% ถูกเลิกจ้างภายในสัปดาห์แรก?!

จากผลสำรวจของ ResumeBuilder.com ยังได้กล่าวถึงประเด็นการ “เลิกจ้าง” กลุ่ม Gen Z ว่า 

ในบรรดาหัวหน้าหรือผู้จัดการที่ระบุว่า Gen Z ทำงานด้วยยากกว่า 59% กล่าวว่าพวกเขาได้ทำการเลิกจ้างคนกลุ่มนี้ โดย 20% กล่าวว่าพวกเขาเลิกจ้างพนักงาน Gen Z ออกภายในหนึ่งสัปดาห์นับจากวันที่เริ่มงาน และอีก 27% เลิกจ้างภายในหนึ่งเดือน โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลิกจ้างว่า พวกเขาขาดแรงจูงใจและความพยายามในการทำงาน เป็นต้น

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งผลสำรวจที่ชี้ให้เราได้เห็นถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปและช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่องค์กรรวมถึงคนเจนอื่น ๆ อาจจะต้องปรับคือการเข้าใจและช่วยเสริมทักษะที่คนรุ่นใหม่ควรพัฒนาเพิ่มเติม ส่วนเหล่าคนรุ่นใหม่อาจจะต้องเริ่มจากการเปิดกว้างรับความเห็นและการเรียนรู้จากผู้อื่น พร้อมทั้งพัฒนาทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล เพื่อให้ทั้งคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นอื่น ๆ ในองค์กรสามารถหาจุดสมดุลเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น 


อ้างอิง : businessinsider, resumebuilder

No comment