เรียนรู้ เข้าใจ และเพิ่มทักษะ เพื่อออกแบบ Careerpath ที่ใช่ด้วยตัวคุณ | Techsauce
เรียนรู้ เข้าใจ และเพิ่มทักษะ เพื่อออกแบบ Careerpath ที่ใช่ด้วยตัวคุณ

กรกฎาคม 25, 2023 | By Connext Team

เมื่อชีวิตคือการเดินทาง และเส้นทางอาชีพก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำงานอย่างเราต้องเลือก แต่เราจะเลือกเดินไปในเส้นทางไหนดี? มาร่วมค้นหาและสร้างเส้นทางสู่งานที่ใช่ไปด้วยกันใน Tech ConNEXT Talk ที่งาน Tech ConNEXT Job Fair 2023 ผ่านหัวข้อ “เรียนรู้ เข้าใจและเพิ่มทักษะ เพื่อออกแบบ Careeath ที่ใช่ด้วยตัวคุณ” นำโดย

เรียนรู้ เข้าใจ และเพิ่มทักษะ เพื่อออกแบบ Careerpath ที่ใช่ด้วยตัวคุณ

สำหรับใครที่พลาดมางานในปีนี้ ทาง ConNEXT ได้รวบรวมใจความสำคัญไว้ที่บทความนี้แล้ว

ทำความรู้จักกับ 4 บริษัทแห่งเทคโนโลยี ดิจิทัลและนวัตกรรมที่ตรงใจคนรุ่นใหม่

Bedrock Analytics เป็นหนึ่งในธุรกิจ Startup ภายใต้ AI & Robotics Ventures (ARV) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์เรื่อง Smart City ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทุกหน่วยงานและทุกประเทศต้องทำ และเน้นเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมี ARV ที่สนับสนุนในฐานะ Deep Tech Ventures Builder คุณธนากรกล่าว

Job Passcard คือ Startup ที่สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้สมัครและบริษัท เพื่อทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงโอกาสได้มากขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์การคัดสรร ทดสอบทักษะผู้สมัคร และยังช่วยลด Turnover Rate ให้กับองค์กรต่าง ๆ ได้

Bitazza คือแพลตฟอร์มคริปโตที่เปิดให้ผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลก สามารถใช้บริการแพลตฟอร์ม Global -ที่ได้รับการกำกับดูแลจาก กลต. นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Web3 Integration, Wallet และการสร้าง Community ต่าง ๆ เพิ่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงคริปโตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

G-Able Public Company Limited หนึ่งในบริษัทที่ให้บริการด้าน Tech Enablers ตั้งแต่โซลูชัน Cybersecurity, Cloud and Data Center Modernization, Data and Analytics, Digital Business and Application ไปจนถึงบริการ Managed Tech Services โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเป็นทางการ

ยุค Digital Age คืออะไร? จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อรูปแบบการทำงาน (Nature of work) ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

Digital Age เป็นยุคที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินชีวิตของเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลงหรือแม้กระทั่งการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากมองผิวเผินอาจจะไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงาน แต่แท้จริงแล้วกลับส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยตรง หลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะบริษัทเทคฯ หรือ บริษัท Startup ในปัจจุบันเริ่มมีนโยบายในการ Work from home หรือ Remote working มากยิ่งขึ้น เพราะมีการใช้แอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาช่วยเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อการทำงานร่วมกับทีมได้สะดวกขึ้น ทำให้พนักงานหลาย ๆ คนมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น โดยสามารถเลือกสถานที่หรือเวลาในการทำงานได้ และจัดสรรตารางชีวิตด้วยตนเอง 

นอกจากนี้ พอมีการทำงานแบบ Hybrid, Work from home หรือ Work form Anywhere  เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในรูปแบบการทำงานแล้ว สิ่งนี้อาจทำให้องค์กรต่าง ๆ มองหาพนักงานจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรตระหนักและปรับตัวคือการตั้ง Standard การทำงานของตัวเองให้อยู่ในจุดที่เป็นระดับ Global มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของ ภาษา Skill set รวมไปถึงการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมตาม Work Force ของประเทศต่าง ๆ อีกด้วย คุณวุฒิกรกล่าว

ส่วนตัวเชื่อว่าการเข้างานแบบ 8 โมงเช้าและออก 5 โมงเย็นในอนาคตน่าจะหายไปอย่างแน่นอน เพราะทุกบริษัทเริ่มปรับตัวตามกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรม เพราะวิถีการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลาย ๆ บริษัทจึงปรับ Mindset มองที่ผลลัพธ์ของงานมากกว่ารูปแบบในการทำงานของพนักงาน โดยการทำงานแบบ Hybrid, Work from home หรือ Work form Anywhere นั่นเอง

อีกรูปแบบการทำงานหนึ่งที่คิดว่าเปลี่ยนไปจากอดีต คือจากที่เมื่อก่อนจะเป็นการสั่งงาน คุยงาน ประชุมงานโดยเห็นหน้ากัน แต่ในปัจจุบันเรามักจะคุ้นเคยกับการสั่งงานหรือคุยงานผ่านแชท และประชุมกันผ่านการออนไลน์กันมากขึ้น  และในอนาคตเชื่อว่า Chat GPT ก็จะเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานต่อไปในอนาคตอีกด้วย คุณธนากร กล่าวเสริม

ทักษะทางเทคนิค (Technical Skills) ใดที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดที่องค์กรกำลังมองหาในตลาดงานด้านไอทีและดิจิทัล

คุณมนทกานต์ กล่าวว่า การนำ Data ในองค์กรมาใช้ให้มากที่สุดเพื่อสร้าง Solutions ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าเป็นสิ่งที่หลายองค์กรกำลังมองหาและ Technical Skills ที่เป็นที่ต้องการในตลาด ได้แก่ Data Engineer, Data Science, DataQuery, SQL, Python เป็นต้น

ส่วน Non-Technical Skills ที่เป็นที่ต้องการ ได้แก่ Business Mindset รู้ว่าลูกค้าคือใคร ต้องการอะไร และป้อนสิ่งที่ลูกค้าต้องการในทางที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสกิลที่ควรมีและพัฒนาให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานเพื่อต่อยอดไปสู่ Career path ที่ใช่ในอนาคต

คุณเปรมชัย กล่าวเสริม นอกจากนี้สิ่งที่ First jobber ควรคำนึงถึงอีกอย่าง โดยเฉพาะคนสายเทคฯ คือทักษะพื้นฐาน ถ้าเรามี Core Skills ที่แข็งแรง เราก็จะสามารถต่อยอดหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่องและไม่ Suffer

Soft Skills ที่เหล่า Talent ต้องมีเพื่อให้ประสบความสำเร็จในอาชีพโดยเฉพาะในสายงานด้านไอทีและดิจิทัล

จริง ๆ แล้ว Soft Skills เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เราเจริญเติบโตในหน้าที่การงานได้และนี่คือ Soft Skills ที่คัดเลือกมาแล้วว่าไม่ว่าคุณจะเป็น First jobber คนที่ทำงานในระดับบริหาร หรือไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม สามารถฝึก Soft Skills เหล่านี้ได้

1. Communication Skill: ทักษะของการสื่อสาร หากคุณมีทักษะการสื่อสารที่ดีก็จะทำให้งานหรือทิศทางของการทำงานประสบความสำเร็จได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น 

2. Time Management: การบริหารจัดการเวลา เพราะหากบริหารหรือจัดการเวลาได้ไม่ดีอาจทำให้กระทบทั้งเรื่องงาน และเวลาส่วนตัวได้ 

3. Flexibility: ความยืดหยุ่นในการปรับตัว เพราะทุกวันนี้ทั้งเทคโนโลยีและรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนที่ปรับตัวได้เท่าทันกับยุคสมัยจะสามารถสร้างข้อได้เปรียบได้มากกว่า 

4. Problem-solving: ทักษะในการแก้ปัญหา โดยการมองภาพรวม คิดวิเคราะห์และคิด Solution ในการแก้ปัญหา 

5. Collaboration: ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น 

และนี่คือ 5 Soft Skills ที่คนรุ่นใหม่ควรมี เพราะการใช้ทักษะเหล่านี้ควบคู่กับการทำงานจะทำให้คุณไปถึง Careerpath ที่ใช่ได้ไวขึ้น คุณธนากรกล่าว

Talent ควรจะปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับทิศทางของการทำงานในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

G-Able ได้ปรับการทำงานเป็นรูปแบบของการ Hybrid หลังจาก Work from home ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพราะฉะนั้นคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานควรจะมีทักษะทาง Time Management เพื่อปรับตัวให้ทันต่อรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ให้สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้ คุณมนทกานต์ กล่าว

คุณวุฒิกรเสริม จากมุมมองของ Bitazza ที่มีนโยบายการทำงานแบบ Work from home และ Work for Anywhere คิดว่า Time Management และ Self Management Skill ก็เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถส่งผลกระทบต่อ Mental Health ได้ 

และยังมีเรื่อง Collaboration กับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างเป็น Challenge สำหรับการทำงานแบบ Work from home เพราะฉะนั้นที่ Bitazza จึงมีแนวทางในการรับมือโดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนในองค์กรด้วยโปรแกรมที่มีชื่อว่า Gather เพื่อสร้างพื้นที่ให้พนักงานได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น หรือบางครั้งในทีมก็จะมีการนัดกันเพื่อไปทำงานแบบ Face to Face กันที่ Co- working Space 

นอกจากนี้คุณวุฒิกรและคุณมนทกานต์ยังได้ทิ้งท้าย เคล็ด(ไม่) ดี ๆ ฝากถึงน้อง ๆ รุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การทำงานว่า สำหรับเด็กจบใหม่ที่กังวลเรื่องการเข้าทำงานในบริษัทที่ต้องทำงานในรูปแบบ Remote Work หรือไม่เคยเข้าออฟฟิศมาก่อน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการปรับตัว ต้องลองเข้าหาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้ามากขึ้น ถ้าหากไม่มีคนเข้ามาดูแลเราเลย เราก็ต้องเข้าหาหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานให้มากขึ้น

อะไรคือความท้าทายสำคัญที่ First Jobber และ Job Seeker ในอุตสาหกรรมไอทีและดิจิทัลต้องเผชิญ และวิธีเอาชนะ

ทุกวันนี้ตลาดแรงงานค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป หลาย ๆ บริษัทมีการปรับลดสเกลลงทำให้มีอัตราการ Lay off ค่อนข้างสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นแปลว่าอัตราการแข่งขันต่อ 1 ตำแหน่งมีแนวโน้มที่สูงขึ้น บริษัทชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เปิดตำแหน่งที่รับ First jobber น้อยลงมาก ทำให้เห็นว่าผู้สมัครงานในปัจจุบันอาจหางานได้ยากขึ้น คำถามคือแล้วคนรุ่นใหม่หรือ First jobber จะสามารถก้าวข้ามผ่านด่านนี้ไปได้อย่างไร 

คุณเปรมชัย กล่าวว่า เราสามารถแบ่งเป็นข้อ ๆ เพื่อให้เห็นภาพได้เป็น 3 Steps คือ

1. Skill:ทักษะ ตรวจสอบตัวเองว่ามีทักษะทั้ง Technical Skills และ Soft Skills ตรงตามที่องค์กรต้องการหรือไม่ หากไม่มีควรเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นผู้สมัครที่โดดเด่นและสามารถทำงานได้จริง

2. Resume เรียนรู้วิธีสื่อสารบนกระดาษให้ชัดเจนและโดดเด่นมากที่สุด 

3. Story telling: ทักษะการเล่าเรื่อง เพราะในการสัมภาษณ์งานมีผู้สมัครหลายคนตกม้าตายเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นใครที่ยังไม่เคยสมัครงานแนะนำว่าให้ไปหาข้อมูลคำถามสัมภาษณ์และแนวทางในการตอบ เพื่อมาฝึกหน้ากระจกหรือสร้างสถานการณ์จำลองร่วมกับเพื่อน เพื่อลดความประหม่าและสร้างความคุ้นเคยกับการตอบคำถามเพื่อให้คุณกลายเป็นผู้สมัครที่โดดเด่นในวันที่การสัมภาษณ์งานจริงมาถึง 

คุณธนากร กล่าวเสริมว่าอยากให้คนรุ่นใหม่ควรอัพเดทความรู้ใหม่ ๆ UpSkill Reskill อยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งเรียนรู้และเข้าใจในความไม่แน่นอน เพราะสิ่งที่เราคาดไม่ถึงอาจมาสร้างผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย นอกจากนี้การมี Growth Mindset ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถไปยังเป้าหมายหรือ Careerpath ที่ต้องการได้

เทคนิคดีๆ ที่ชาว Talent ควรรู้! เพื่อแสดงทักษะและประสบการณ์อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ตัวเองโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

เทคนิคที่ควรมีคือเทคนิค Present ตัวเองให้เป็นโดยหากต้อง Present ตัวเองในเรื่องของ Technical Skills ควรพรีเซนต์ในด้านของพื้นฐานหรือเป็นหลัก Core Skills เป็นหลัก เพราะในปัจจุบัน Tools หรือเครื่องมือในการทำงานต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การที่เรารู้จักถึงแก่นพื้นฐานของเรื่องต่าง ๆ จะทำให้เราสามารถต่อยอดงานไปได้อีกเยอะมาก 

นอกจากนี้ Broad knowledge ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันเพราะการที่พนักงานมี Broad knowledge จะทำให้เขาเหล่านั้นสามารถจับความรู้ตามสายงานต่าง ๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับสายงานหลัก มาสร้างเป็น Solution ใหม่ ๆ ได้ ซึ่งในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงการที่มี Knowledge ผนวกกับการสร้าง Solution ได้อย่างรวดเร็วถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณวุฒิกร กล่าว

คุณเปรมชัย เสริมว่า โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก คุณสามารถเรียนทุกอย่างได้บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นอะไร เรียนแล้วคุณจะเอาความรู้ความสามารถที่ได้เรียนรู้มาแสดงให้บริษัทเห็นได้อย่างไร เพื่อไม่ให้โดนปัดตก ตลาดงานในปัจจุบันเปลี่ยนผู้มีอำนาจอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นจริง ๆ จะหางานได้ยากยิ่งขึ้น

โดยสรุปหากคุณเป็นคนที่กำลังมองหางานหรือกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็น First Jobber หรือ Job Seeker ก็ตาม โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ไม่ว่าอยากเป็นอะไร คุณสามารถเรียนทุกอย่างได้บนโลกออนไลน์ นอกจาก Growth Mindset, Business Mindset, Technical Skills และ Soft Skills ที่ควรมีแล้ว Flexibility หรือการปรับตัวให้เท่าทันกับยุคสมัยก็เป็นอีกหนึ่งสกิลที่ควรมีและควรพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในเส้นทาง Careepath ที่คุณออกแบบด้วยตัวเองได้

No comment