Microsoft เผยสองสิ่งที่จะลดอัตราการลาออกจากงานของ Gen Z และ Millennials | Techsauce
Microsoft เผยสองสิ่งที่จะลดอัตราการลาออกจากงานของ Gen Z และ Millennials

ธันวาคม 9, 2022 | By Chanapa Siricheevakesorn

สองปีที่ผ่านมาโลกได้เผชิญทั้งเศรษฐกิจถดถอย และโรคระบาดส่งผลให้ผู้คนมีมุมมองเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปรวมไปถึงเรื่องการทำงานโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เช่น Gen Z และ Millennials  

ตามรายงานของ Microsoft's 2022 Work Trend Index เผยว่าหลายคนให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขามากขึ้น ผู้คนทั่วโลกกว่า 53% กล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย และจิตใจ และ 47% กล่าวว่าพวกเขาใช้เวลากับครอบครัว และเพื่อนฝูงมากกว่าชีวิตการทำงาน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนลาออกจากงานในปีที่แล้วกว่า 18% และกว่า 15% ลาออกเพื่อไปร่วมงานกับบริษัทใหม่ที่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่น Gen Z (อายุระหว่าง 18-26 ปี) และ Millennials (อายุ 27-41 ปี) กว่า 52% ระบุว่ากำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเอง และมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานภายในปีนี้

Microsoft กล่าวว่านี่คือสัญญาณความต่อเนื่องจากสิ่งที่เรียกว่า Great Reshuffle กล่าวคือการที่พนักงานให้ความสำคัญกับ Work life balance และการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นพร้อมทั้งมีแนวโน้มที่จะพาตัวเองไปสู่สภาพแวดล้อมที่ดีกว่าได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตาม Microsoft ได้เผยรายงานล่าสุดซึ่งสำรวจพนักงาน 20,000 คนจาก 11 ประเทศ สรุปได้ว่า “โอกาสในการเติบโตภายในองค์กร” และ “อิสระในการทำงานเสริมนอกเวลางาน” สองสิ่งนี้จะสามารถลดอัตราการลาออกจากงานของ Gen Z และ Millennials ได้

นอกจากนี้พบว่า 73% ของคน Gen Z และ Millennials กล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะอยู่ในองค์กรเดิม หากสามารถเปลี่ยนบทบาทหน้าที่การทำงานแบบภายในได้ และมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อหากองค์กรของพวกเขาให้ความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจหรืองานเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มเติมนอกเหนือเวลางานได้

‘การเรียนรู้ = การลาออก’

รายงานของ Microsoft ได้เผยให้เห็นถึงเหตุผลที่น่าสนใจที่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกจากงานโดยการสำรวจ 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าการลาออก และเปลี่ยนงานเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะของตนเอง

นอกจากนี้ Microsoft ยังเสริมว่ากลุ่มตัวอย่างกว่า 73% ของคน Gen Z และ Millennials กล่าวว่าพร้อมจะทำงานต่อในองค์กรเดิม หากมีการเปิดโอกาสให้สามารถโยกย้ายตำแหน่งภายในเพื่อให้พวกเขาได้มีการพัฒนาทักษะใหม่ๆ และสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้

ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจาก LinkedIn ที่โอกาสในการเรียนรู้ และเติบโตถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมการทำงานที่ยอดเยี่ยมในปี 2022 ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความสำคัญมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2019 ที่อยู่ในอันดับที่ 9 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ องค์กรจำเป็นที่จะต้องเริ่มคิดใหม่เกี่ยวกับการนำเอาการเรียนรู้เข้ามาในองค์กรเพื่อดึงดูด และรักษากลุ่มพนักงานอายุน้อยที่มีความสามารถเอาไว้

องค์กรควรเปิดทางให้กับคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน

รายงานของ Microsoft พบว่าคนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีเป้าหมายที่จะเป็นนายตัวเองมากที่สุดถึง 76% เมื่อเทียบกับ 63% ของคนรุ่น Gen X ขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับเหตุผลที่ความยืดหยุ่นยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับพนักงานคนรุ่นใหม่หลังจากการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และโรคระบาด

จากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างทั้ง Gen Z และ Millennials กว่า 77% กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะทำงานปัจจุบันต่อไปหากได้รับความยืดหยุ่นในการทำงานนอกเวลาเพื่อหารายได้เสริม

นี่ถือเป็นกุญแจ 2 ดอกที่สำคัญที่จะสามารถนำพาองค์กรไขไปสู่ประตูใจของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ได้ เพื่อให้องค์กร และคนรุ่นใหม่สามารถพัฒนา เติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืนพร้อมทั้งลดอัตราการลาออกจากงานของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

อ้างอิง CNBC, Financialpost, Microsoft 

No comment