คนที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตจะต้องมี ‘Mindset’ อย่างไร? | Techsauce
คนที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตจะต้องมี ‘Mindset’ อย่างไร?

มกราคม 19, 2021 | By Nabhatara Sinthuvanich

ในยุคโลกาภิวัตน์ นวัตกรรม และการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้เราก้าวทันโลกและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน 

อย่างไรก็ตาม โลกที่หมุนรอบตัวเร็วเกินไป อาจทำให้ใครหลายคนปรับตัวไม่ทัน และประสบกับความล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น Mindset ที่ดี จะช่วยให้คุณก้าวข้ามความล้มเหลวเหล่านั้น และพัฒนาตนเองจนประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด

และ Mindset ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในอนาคตนั้น คือ ‘Growth Mindset’ 

‘Growth Mindset’ คืออะไร แตกต่างจาก Mindset รูปแบบอื่น อย่างไร?

Carol Dweck นักจิตวิทยา ผู้เขียนหนังสือ Mindset: The New Psychology of Success ได้จำกัดความและอธิบายว่า

‘Growth Mindset’ คือ กระบวนการทางความคิดที่เชื่อว่า ทักษะและความสามารถ พัฒนาได้ด้วยการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและความล้มเหลวในอดีต คนที่มีความคิดลักษณะนี้ มักจะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ กล้าคิดกล้าทำ และมองความผิดพลาด เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง

ในทางตรงกันข้าม ‘Fixed Mindset’ คือ กระบวนการทางความคิดที่เชื่อว่า ทักษะและความสามารถของแต่ละคนมีขีดจำกัด ไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไป ทำให้คนที่มีความคิดลักษณะนี้ ไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ กลัวความผิดพลาด และเชื่อว่า มีเพียงพรสวรรค์เท่านั้น ที่จะช่วยให้งานประสบความสำเร็จ

หากคุณ ยังมองไม่เห็นภาพความแตกต่างระหว่าง Growth Mindset และ Fixed Mindset ได้ชัดเจนนัก ลองสมมติว่า

คุณกำลังจะเปิดธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ และมีผู้ช่วย 2 คน ที่มีความคิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ผู้ช่วยที่มี Fixed Mindset มีแนวโน้มที่จะจมปลักอยู่กับ กลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ที่เขาคุ้นเคยและทำมาตั้งแต่อดีต และปฏิเสธ ที่จะทดลองกลยุทธ์รูปแบบใหม่ เพราะ กลัวต่อความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และเชื่อว่า ทักษะและความสามารถที่เขามีอยู่แล้วนั้น เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ 

ในขณะที่ ผู้ช่วยที่มี Growth Mindset เชื่อว่า ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยการลองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขาจึงมีแนวโน้มที่จะมองหาโอกาส ในการทดลองและเรียนรู้กลยุทธ์รูปแบบใหม่ ที่จะทำให้ธุรกิจโดดเด่นเหนือคู่แข่งทางการตลาด และแม้ว่ากลยุทธ์รูปแบบนั้น อาจจะไม่ประสบความสำเร็จดั่งที่หวัง แต่เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น และพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต

จะเห็นได้ว่า นอกจาก ‘Growth Mindset’ จะช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากการเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น มันยังเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาตนเองให้สูงขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ปรับ Mindset ของคุณ ให้พร้อมเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายตรงหน้า แล้วคุณจะได้พบกับอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน

เราจะพัฒนา‘Growth Mindset’ ได้อย่างไร?

1. เมื่อเจอกับความล้มเหลว ท่องไว้เสมอว่า ‘ยังไม่ถึงเวลา’

หากคุณรู้สึกว่า ชีวิตการงานของคุณวนเวียนอยู่กับความล้มเหลวจนเป็นวัฏจักร นั่นหมายความว่า คุณกำลังมี Fixed Mindset ที่คอยขัดขวางคุณจากความสำเร็จที่รออยู่ตรงหน้า ทางเดียว ที่จะทำให้คุณหลุดออกจากความรู้สึกเหล่านี้ได้ คือ คิดเสมอว่า วันนี้ คุณยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่วันข้างหน้าจะต้องเป็นวันของคุณอย่างแน่นอน

จากการศึกษา กลุ่มตัวอย่างนักเรียนมัธยมปลาย จากสถาบันแห่งหนึ่ง ใน Chicago พบว่า การเลือกใช้คำว่า ‘ยังไม่ผ่าน’ แทนคำว่าสอบตก’ กระตุ้นให้เด็กนักเรียน พยายามที่จะก้าวข้ามความผิดพลาดและพัฒนาตนเองได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก คำว่า ‘ยังไม่ผ่าน’ เปรียบเสมือนกับ Growth Mindset ที่แฝงไปด้วยความหมายของ ความหวัง ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ในอนาคต ในขณะที่ คำว่า ‘สอบตก’ เปรียบเสมือนจุดจบแห่งความล้มเหลว ที่ไม่สามารถแก้ไขได้

ในชีวิตการทำงานก็เช่นกัน หากคุณประสบกับความล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง แล้วจำกัดความมันว่า เป็นจุดจบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ คุณจะไม่มีทางพัฒนาตัวเองขึ้นได้เลย ดังนั้น มองทุกความล้มเหลวให้เป็นโอกาสในการพัฒนา และเมื่อถึงเวลา คุณจะประสบความสำเร็จดั่งที่คุณหวัง

2. Learning Goals VS Performance Goals

การกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงาน ส่งผลต่อ Mindset ที่คุณมีต่องานเป็นอย่างมาก เนื่องจาก มันสะท้อนให้เห็นว่า คุณมองชีวิตการทำงานของคุณอย่างไร? ด้วย Fixed Mindset หรือ Growth Mindset  

จากงานวิจัย พบว่า คนที่มี Fixed Mindset มีแนวโน้มที่จะกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานแบบ Performance Goals ที่เน้นทำงานให้ครบตาม KPI มากกว่า Learning Goals ที่มองหาโอกาสการพัฒนาทักษะและความสามารถให้ดีขึ้น แม้ว่า การกำหนดจุดมุ่งหมายการทำงานลักษณะนี้ จะเป็นผลดีในระยะสั้น แต่ทว่า ในระยะยาว ทักษะและความสามารถของคุณ จะไม่ได้รับการพัฒนา และถูกจำกัดอยู่เฉพาะ KPI เท่านั้น ดังนั้น ควรกำหนดจุดมุ่งหมายการทำงานแบบ Learning Goals แม้ว่า คุณอาจจะทำงานพลาดไปบ้าง แต่ในระยะยาว คุณจะพัฒนาจนกลายเป็นคนสำคัญ ที่องค์กรขาดไม่ได้แน่นอน

3. ท้าทายขีดจำกัดความสามารถของตนเอง ทุกครั้งที่มีโอกาส

การท้าทายขีดจำกัดความสามารถ เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่คุณจะสามารถพัฒนา Growth Mindset ได้ด้วยตัวคุณเอง ผ่านการกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้น และเรียนรู้ที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น ด้วยการทดลองและหาวิธีใหม่ๆในการทำงาน

ในขณะที่ คนที่มี Fixed Mindset จะไม่กล้าออกจาก Comfort Zone เพื่อค้นหาแนวทางและวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ คนที่มี Growth Mindset จะกำหนดเป้าหมายในการทำงานที่สูงขึ้น เพื่อพัฒนาขีดจำกัดความสามารถของตนเอง ผ่านการเรียนรู้นับครั้งไม่ถ้วน และแม้ว่า จะต้องลองผิดลองถูกเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ในท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จากการท้าทายตนเองนี้ จะช่วยคุณกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในที่สุด

4. หมั่นถามคนรอบข้างว่า ‘พัฒนาการด้านทักษะและความสามารถของคุณ ดีขึ้นบ้างไหม?’

เป็นเรื่องธรรมชาติที่ ทุกคนจะรู้สึกยินดีกับคำชื่นชม ที่ได้รับจากคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกที่จะรับฟังแต่คำชื่นชมจนมากเกินไป อาจทำให้คุณคิดว่า ทักษะและความสามารถที่มี ณ ขณะนี้ เพียงพอต่อการทำงานให้ประสบความสำเร็จ จนหลงลืมที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเอง 

ดังนั้น เมื่อคุณทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ สอบถามคนรอบข้าง หรือเจ้านายของคุณว่า มีอะไรที่คุณต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนา เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ เพื่อรักษา Growth Mindset ให้คงอยู่ และค้นหาแนวทางที่คุณจะสามารถพัฒนาตนเองในอนาคตต่อไป

5. ทบทวนจุดมุ่งหมายการทำงานในระยะยาวอยู่เสมอ

การพัฒนา Growth Mindset ให้ดียิ่งขึ้น จำเป็นต้องควบคู่ไปกับ การกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานที่ท้าทายมากขึ้นเสมอ และเพื่อให้การกำหนดจุดมุ่งหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การทบทวนและวางแผนจุดมุ่งหมายในการทำงานระยะยาว จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้น มองภาพชีวิตการทำงานให้กว้าง กำหนดเป้าหมายที่จะทำในแต่ละช่วงชีวิต และไปให้ถึงฝั่งฝัน 

อ้างอิง: RescueTime

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก Techsauce Thailand ได้ ที่นี่

No comment