Hygge ศิลปะการใช้ชีวิตของชาวเดนิชที่ค้นหาความสุขรอบตัวจากชีวิตประจำวันที่แสนเรียบง่าย | Techsauce
Hygge ศิลปะการใช้ชีวิตของชาวเดนิชที่ค้นหาความสุขรอบตัวจากชีวิตประจำวันที่แสนเรียบง่าย

มิถุนายน 7, 2021 | By Connext Team

‘เมื่อคนเราจะค้นหาความสุขให้กับชีวิต เรามักจะมองหาในสิ่งที่ไกลตัวออกไป โดยลืมไปว่าจริงๆแล้ว เราก็สามารถค้นหาความสุขรอบตัวจากชีวิตที่แสนเรียบง่ายของเราได้เช่นกัน’

ในฤดูหนาวของเดนมาร์ก วันทั้งวันผู้คนแทบจะไม่ได้พบกับแสงตะวัน ชาวเดนิชจำต้องทนอยู่กับความมืดมนแสนยาวนานที่พรากเอาความสุขและความสดใสในชีวิตไป จริงๆพวกเขาอาจจะไม่ได้อยากทนอยู่กับสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนั้นก็ได้นะ แต่ในเมื่อวิถีชีวิตของพวกเขาเป็นแบบนั้น สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ คือ พยายามค้นหาความสุขรอบตัวจากสิ่งที่พวกเขามีให้ได้มากที่สุด

หากมองอย่างผิวเผิน วิถีชีวิตของชาวเดนิชที่กล่าวมานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยแม้แต่น้อย จริงๆมันออกจะเป็นเรื่องไกลตัวจากพวกเราด้วยซ้ำไป แต่ถ้ามองดูสถานการณ์ตอนนี้ดีๆ การที่เราต้อง Work From Home และทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเดิมๆทุกวันจนหมดไฟ ก็คงจะไม่ต่างอะไรกับการที่ชาวเดนิชจะต้องอยู่แต่ในบ้านตลอดเวลา เพราะ สภาพอากาศที่เลวร้ายนักหรอก      

เพราะฉะนั้น ในเมื่อเราคงจะไม่มีโอกาสได้ออกไปหาความสุขให้กับชีวิตเหมือนที่เคยเป็นเร็วๆนี้ ลองเปิดใจเรียนรู้ศิลปะการใช้ชีวิตแบบ ‘Hygge’ เพื่อค้นหาความสุขเล็กๆจากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันดีไหม? อย่างน้อยที่สุด ไม่ว่าชีวิตเราจะเจอเรื่องอะไรต่อจากนี้ เราก็ยังสามารถมองหาความสุขจากเศษเสี้ยวเล็กๆของชีวิตได้เสมอ

‘Hygge’ ศิลปะการใช้ชีวิตที่อยู่เบื้องหลังความสุขของชาวเดนิช

เดิมที ‘Hygge’ ที่อ่านออกเสียงว่า ฮู-ก้า มีรากศัพท์มาจากภาษานอร์เวย์ดั้งเดิมที่แปลว่า การค้นหาที่พักพิง เพื่อหลีกหนีจากความสับสนวุ่นวายภายนอก แต่ต่อมาเมื่อชาวเดนิชนำมาใช้ ความหมายของคำที่มีอยู่เดิมจึงเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ความหมายใหม่ในมุมมองของชาวเดนิชก็ยังแอบซ่อนความหมายแบบดั้งเดิมอยู่ 

โดยในปัจจุบันนั้น Hygge คือ การค้นหาความสุขรอบตัวที่เรียบง่ายจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้านที่เราอาศัยอยู่จริงๆ หรือภายในจิตใจของเราเองก็ตาม

สำหรับชาวเดนิชนั้น ศิลปะการใช้ชีวิตแบบนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อเดนมาร์กกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ผู้คนมากมายต่างเผชิญกับปัญหาความยากจนและสภาวะข้าวยากหมากแพง  Hygge จึงกลายเป็นศิลปะการใช้ชีวิตที่หลอมรวมจิตใจของผู้คนเข้าไว้ด้วยกันในยามลำบาก เพื่อค้นหาความสุขเล็กน้อยจากสิ่งที่มีและฝ่าฟันอุปสรรคของชีวิตด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง

แม้ว่าในวันนี้ เดนมาร์กจะกลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งและมีพร้อมทุกอย่างแล้ว แต่ศิลปะการใช้ชีวิตและจิตวิญญาณแห่งความสุขแบบดั้งเดิมยังคงอยู่เสมอ ชาวเดนิชยังคงให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัว และค้นหาความสุขเล็กน้อยๆจากชีวิตที่แสนเรียบง่ายไม่ต่างจากเมื่อ 200 ปีก่อน และนี่ จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม? เดนมาร์กจึงกลายเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกได้

มันจะเวิร์คหรอเหรอ? ที่เราจะนำ ‘Hygge’ มาปรับใช้กับวิถีชีวิตของเรา เพราะ เราไม่มีอะไรที่เหมือนกับชาวเดนิชเลยแม้แต่น้อย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศของเราและเดนมาร์กไม่มีอะไรที่เหมือนกันหรือเกี่ยวข้องกันเลยสักอย่าง ทั้งในแง่ของภูมิศาสตร์ สังคมวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วไป ทำให้การเรียนรู้ศิลปะการใช้ชีวิตจากแดนไกลเหล่านี้ มักจะจบลงด้วยความคิดที่ว่า ‘อ่านไปก็เท่านั้นแหละ มันไกลตัวเกินไป ยังไงเราก็ไม่มีทางได้เอามาใช้หรอก’

Hygge ก็เช่นกัน เมื่อเราอ่านไปเรื่อยๆ เราก็มักจะนึกถึงภาพของอากาศหนาวๆหิมะตก ทุกคนในครอบครัวกำลังนั่งอยู่หน้าเตาผิงและล้อมวงเล่นเกมด้วยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเราคงไม่มีทางได้เห็นภาพเหล่านั้นในชีวิตประจำวันของเราแน่ๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองลึกลงไปถึงแก่นแท้ของแนวคิดในการใช้ชีวิตจริงๆ จะพบว่า มนุษย์ทุกคนล้วนสามารถนำ Hygge ไปปรับใช้กับวิถีชีวิตของตัวเองได้ทั้งนั้น

จริงๆแล้ว ศิลปะการใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่าย แทรกซึมอยู่ในสังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิตแบบ Zen ของเอเชียตะวันออกไกล Hygge ก็คงจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะ ทั้งสองแนวคิดต่างโฟกัสไปที่การใช้ชีิวิตอยู่กับปัจจุบัน 

เพียงแต่ Zen จะมุ่งเน้นไปที่การทำสมาธิและปล่อยวางสิ่งต่างๆ เพื่อหันไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ขณะที่ Hygge ไม่ได้ต้องการจะละทิ้งสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่โฟกัสไปที่ความรู้สึกและเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัวมากกว่า

เมื่อพูดถึงการค้นหาความสุขจากสิ่งเล็กๆรอบตัว แต่ละคนย่อมมีสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขแตกต่างกัน สำหรับชาวเดนิชอาจจะเป็นการได้ใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัว และนั่งหน้าเตาผิงที่แสนอบอุ่นในฤดูหนาว แต่สำหรับพวกเรา อาจจะเป็นการได้กินไอศครีมในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หรือการได้ไปเดินเล่นสวนสาธารณะแถวบ้านก็ได้ แล้วแต่ความสุขส่วนตัวของแต่ละคน ขอเพียงแค่เรา ‘ตักตวงความสุขทุกวินาทีที่เราได้จากสิ่งรอบตัวในการใช้ชีวิตธรรมดาๆแต่ละวัน’ ก็เท่ากับว่าเราได้ใช้ชีวิตแบบ Hygge แล้ว

เคล็ดลับการใช้ชีวิตตามแบบ ‘Hygge’ อย่างมีความสุขในแบบของเรา

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Hygge มุ่งเน้นไปที่การค้นหาความสุขรอบตัวจากชีวิตประจำวันที่แสนเรียบง่าย เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นใช้ชีวิตตามแบบ Hygge ไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกจากจิตใจที่พร้อมจะค้นหาและเปิดรับความสุขทุกรูปแบบ

การนั่งอยู่ในห้องสงบๆและใช้เวลาคิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา อาจทำให้เราตระหนักถึงความสุขเล็กน้อยๆจากสิ่งที่เราทำในอดีต และเห็นคุณค่าของการได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในปัจจุบัน หรือบางทีเราอาจจะใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและคนรอบข้าง เพื่อแลกเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกและขอบคุณซึ่งกันละกันในสิ่งต่างๆที่ทำร่วมกันมา

นอกจากนี้ สำหรับใครที่ชอบใช้ชีวิตในโลกส่วนตัว ก็สามารถใช้ชีวิตแบบ Hygge อย่างมีความสุขได้ด้วยการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก หรืออาจจะอยู่ในห้องของเราที่จัดตกแต่งด้วยความสวยงามและสะดวกสบายในแบบที่เราชอบ เพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกแบบ Hygge Feeling ที่จะทำให้เรามองสิ่งรอบตัวด้วยความสุขได้ในท้ายที่สุด 

อ้างอิง: Inkspire 

No comment