Ikigai ศิลปะการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น ที่ค้นหาคำตอบว่า เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
Ikigai ศิลปะการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น ที่ค้นหาคำตอบว่า เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน
By Connext Team สิงหาคม 23, 2021
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

‘เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน?’

คำถามสุดคลาสสิคที่ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็จะต้องเป็นที่พูดถึงในสังคมอยู่เสมอ แม้กระทั่งคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า จุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตของตัวเอง คือ อะไร?

ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนมากมายต่างรู้สึกว่า ชีวิตของพวกเขามันช่างไร้จุดหมาย ได้แต่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวัน ๆ และมันช่างยากเหลือเกินที่จะค้นพบกับความสุขในการใช้ชีวิตแบบนี้

อย่างไรก็ตามสำหรับชาวญี่ปุ่น การค้นหาความสุขและคุณค่าของการมีชีวิตอยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ด้วยเคล็ดลับศิลปะการใช้ชีวิตแบบ ikigai ที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน ทำให้ชาวญี่ปุ่นสามารถมองเห็นความสุขในการใช้ชีวิตในแบบที่ต่างออกไป 

คำถาม คือ แล้วเราจะสามารถมองเห็นความสุขในการใช้ชีวิตแบบที่ชาวญี่ปุ่นมองเห็นได้ไหมนะ?    

แท้จริงแล้ว ‘Ikigai’ คือ อะไรกันแน่?

‘Ikigai’ เกิดจากการรวมกันระหว่างสองคำในภาษาญี่ปุ่น คือ ‘iki’ ที่แปลว่า ชีวิต และ ‘gai’ ที่แปลว่า คุณค่า ดังนั้น เมื่อรวมกันจึงหมายถึง การค้นหาความสุขและคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ผ่านจุดหมายแห่งชีวิต

หรือจะพูดง่าย ๆ Ikigai คือ สิ่งที่ทำให้เราตื่นมาในทุก ๆ เช้า และใช้ชีวิตในทุกวันอย่างมีจุดมุ่งหมายนั่นเอง

สำหรับต้นกำเนิดของคำที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกนั้น Akihiro Hasegawa นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการของศิลปะการใช้ชีวิตแบบ Ikigai กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว คำว่า gai แผลงมาจากคำว่า kai ที่แปลว่า หอยเชลล์ ในภาษาญี่ปุ่น

แล้วคำว่า kai ที่แปลว่า หอยเชลล์ กลายมาเป็น gai ที่แปลว่า คุณค่า ได้อย่างไร?

หากย้อนกลับไปยังสมัยเฮอัน หอยเชลล์นั้นถือเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นของหายากและมีราคาแพง ดังนั้น ความเชื่อมโยงในแง่ของคุณค่าระหว่างคำว่า kai และ gai จึงกลายเป็นรากเหง้าที่ปรากฎให้เห็นมาจวบจนปัจจุบัน

‘Gai’ นับเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญสำหรับการค้นหาจุดหมายแห่งชีวิต วิธีที่ดีที่สุดที่จะเข้าถึงแก่นของแนวคิดนี้ได้ คือ การเพ่งมองไปยัง ikigai Venn diagram ที่ประกอบไปด้วยการทับซ้อนกันของวงกลมทั้ง 4 ได้แก่ สิ่งที่คุณทำได้ดี (what you are good at) สิ่งที่โลกนี้ต้องการ (What the world needs) สิ่งที่คุณทำแล้วได้ผลตอบแทนกลับมา (What you can be paid for) และสิ่งที่คุณรัก (What you love)

จากนั้น ค้นหาจุดกึ่งกลางที่วงกลมทั้ง 4 แง่มุมของชีวิตทับซ้อนกันให้เจอ เมื่อเราค้นพบจุดกึ่งกลางนั้นแล้ว นั่นหมายความว่า เราได้พบกับ ikigai หรือ จุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตที่เราตามหามาตลอดในท้ายที่สุด 

มาค้นหากันว่า อะไร คือ ikigai สำหรับเรา?

Hector Garcia นักเขียนและเจ้าของหนังสือ Ikigai: The Secret to a Long and Happy Life กล่าวว่า การศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะการใช้ชีวิตแบบ ikigai ได้เปลี่ยนภาพที่เขามองชีวิตของตัวเองในแต่ละวันไปโดยสิ้นเชิง 

จากแต่เดิมที่การตื่นนอนตอนเช้าเป็นเพียงแค่การทำสิ่งต่าง ๆ ให้ผ่านไปวัน ๆ เขาเริ่มตื่นเช้าขึ้นมาด้วยการทำสิ่งที่เขาคิดว่าสำคัญและมีความหมายกับชีวิตของเขาเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงค่อยไปทำสิ่งอื่นที่สำคัญรองลงมา หรือในอีกแง่ก็คือ เขาโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้เขามีจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตแต่ละวันของเขาก่อนนั่นเอง

“สำหรับผมนั้น เมื่อตื่นนอนตอนเช้าแล้ว ผมจะเริ่มจิบชาเขียวแก้วเล็ก ๆ ออกกำลังกายด้วยโยคะเบา ๆ สัก 15 นาที และเขียนอะไรสักอย่างเป็นเวลา 1 ชม. ก่อนออกจากบ้าน ผมตัดสินใจที่จะใช้เวลาในช่วงเช้าไปกับการดูแลรักษาสุขภาพ และกิจกรรมที่ทำให้ผมใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย นั่นก็คือ การเขียนหนังสือ” 

แม้ว่าในกรณีของ Hector Garcia กิจกรรมที่ถือว่าเป็น ikigai สำหรับเขา อาจจะดูเหมือนโฟกัสไปยังหน้าที่การงานเป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้ว ikigai ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการหารายได้เลี้ยงชีพ หรือผลตอบแทนในรูปของเงินเสมอไป เพราะ การได้ทำงานอดิเรกที่เราชอบ การดูแลครอบครัวที่เรารัก หรือการแค่ได้ทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุข ล้วนแล้วแต่เป็น ikigai ด้วยกันทั้งนั้น

Hector Garcia แนะนำว่า หากเรายังสับสนและไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมายในแต่ละวัน คือ อะไร ลองค่อย ๆ ค้นหาคำตอบจากการลองทำสิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก สังคมเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนงานที่ทำอยู่ สักวันเราจะพบกับคำตอบที่ใช่    

และถ้าหากเรารู้สึกว่าเหนื่อยล้าจากการค้นหา ikigai ลองหยุดวิ่งตามหาคำตอบแบบไร้ทิศทาง แล้วกลับมาพิจารณาการใช้ชีวิตของตัวเอง ณ ปัจจุบัน โดยเริ่มจากลิสต์กิจกรรม 10 อย่าง ที่เราใช้เวลากับมันมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วลองแบ่งทุกรายการที่ลิสต์ไว้ตาม 4 แง่มุมของชีวิตตามแบบฉบับ ikigai

  • สิ่งที่คุณทำได้ดี (what you are good at) 
  • สิ่งที่โลกนี้ต้องการ (What the world needs) 
  • สิ่งที่คุณทำแล้วได้ผลตอบแทนกลับมา (What you can be paid for) 
  • สิ่งที่คุณรัก (What you love)

หากพบว่า ไม่มีสิ่งไหนเลยที่สามารถตอบโจทย์ทั้ง 4 ข้อนี้ได้ เราก็แค่ต้องเปลี่ยนไปทำสิ่งที่ต่างออกไปแค่นั้นเอง และไม่ต้องเป็นกังวลว่า เราจะเจอสิ่งที่เรียกว่า ikigai ที่เป็นของเราหรือไม่ เพราะ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับอายุและประสบการณ์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงชีวิตของคน 

เพราะฉะนั้น หากเราไม่สามารถค้นพบสิ่งที่ทำให้เราตื่นมาในทุก ๆ เช้า และใช้ชีวิตในทุกวันอย่างมีจุดมุ่งหมายได้เร็ว ๆ นี้ ลองค้นหาคำตอบต่อไปเรื่อย ๆ ตามวิถีชีวิตที่ดำเนินไป เพราะ สุดท้ายแล้ว ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่เราจะค้นพบสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้หรอก 

อ้างอิง: savvytokyo  

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/life-hacks/ikigai-the-japanese-art-of-living-to-find-the-purpose-of-life