คนแบกทีม บ่าหนักจนทรุด อยากหลุดพ้นเสียที! | Techsauce
คนแบกทีม บ่าหนักจนทรุด อยากหลุดพ้นเสียที!

ธันวาคม 4, 2023 | By Chanapa Siricheevakesorn

ลาก็เหมือนไม่ได้ลา เพราะต้องคอยเข้าประชุมที่ถูกยิงมาโดยไม่รู้ตัว

ป่วยก็พักไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีเรา งานก็เดินต่อไปไม่ได้

มีทีมแต่ก็เหมือนทำงานอยู่คนเดียวต้องคอยรับจบทุกจ็อบตลอด

ถ้าเพื่อน ๆ ประสบปัญหาแบบด้านบนอยู่ ConNEXT เข้าใจ! ในบทความนี้เราจะมาให้เพื่อน ๆ ลองเช็กตัวเองว่ากำลังประสบปัญหาเดอะแบกอยู่หรือเปล่า? พร้อมวิธีแก้ไขให้บ่าของเราเบาลง พร้อมแล้วไปต่อกันเลย

คนแบกทีม บ่าหนักจนทรุด อยากหลุดพ้นเสียที!

เดอะแบกคืออะไร?

หากเพื่อน ๆ เป็นคนตามที่ลิสต์ข้างบนกล่าว อาจเป็นสัญญาณว่าเรากำลังมีความรับผิดชอบมากเกินไป แม้ว่าการถูกนึกถึงจะทำให้รู้สึกว่าเรามีความสามารถและการช่วยเหลือผู้อื่นก็ทำให้เรารู้สึกดี แต่สิ่งเหล่านี้อาจสร้างบ่อเกิดของความเครียดและหมดไฟได้ในที่สุด

3 วิธีหาสมดุลให้งานที่กองอยู่บนบ่าตัวเองเบาลง

1. รู้จักสาเหตุที่ทำให้เราไม่ยอมปฏิเสธ

สาเหตุที่ทำให้ใคร ๆ ก็ชอบโยนงานขึ้นบ่าเรา อาจจะเกิดจากประโยคสั้น ๆ จากเราเอง เช่น ได้ค่ะ หรือ ได้เลย… เดี๋ยวจัดการให้ แม้จะไม่พอใจที่ได้งานเพิ่มแต่กลับปากหนัก ปฏิเสธไม่ออกเลยต้องก้มหน้ารับงานนั้นมา 

แต่รู้หรือไม่? พฤติกรรมนี้อาจติดตัวเรามาตั้งแต่เด็กโดยสถานการณ์บางอย่าง ที่อาจทำให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้ว่าความต้องการของเราไม่เคยได้รับการตอบสนองและไม่ได้รับความสนใจ จนทำให้ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าวัย 

ส่งผลให้หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและหลีกเลี่ยงการปะทะทางอารมณ์ โดยการสนใจความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเองและแสวงหาการยอมรับผ่านการเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจนั่นเอง 

ซึ่งวิธีแก้ที่สาเหตุคงต้องเริ่มที่การปรับ Mindset ใหม่ โดยการหัดยอมรับความรู้สึกตัวเอง จดบันทึกความคิดและความรู้สึกเป็นอีกวิธีที่ดีที่จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง นอกจากนี้ให้คิดว่าการปฏิเสธจะนำมาซึ่งการเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นใจในการทำงานให้กับผู้อื่น ปล่อยให้พวกเขาเผชิญกับงาน แก้ไขปัญหาและยอมรับความผิดพลาดด้วยตัวพวกเขาเอง

2. ยอมรับความช่วยเหลือ

หยุด Say ‘YES’ และเลิกขอความช่วยเหลือจากตัวเอง ถึงเวลาที่จะปรับสมดุลการทำงานใหม่แล้วโดยการฝึกยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่น โดยให้คิดว่าคนที่ยื่นมือมาช่วยเรา หากเรายอมรับความช่วยเหลือนั้น เขาก็จะมีความสุขที่ได้ช่วยเรา เหมือนตอนที่เราไปช่วยคนอื่น นอกจากนี้ การมีคนมาช่วยแบ่งเบาภาระงานยังช่วยทำให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ แถมยังเพิ่มระดับความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างเพื่อนร่วมงานแบบเชิงบวกได้อีกด้วย

3. ส่งมอบความรับผิดชอบ 

ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเต็มใจรับงานที่ได้รับหรือถูกบังคับให้รับงาน ถึงเวลาแล้วที่จะส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริง

เริ่มจากจุดเล็ก ๆ เช่น แบ่งงานง่าย ๆ ให้เพื่อนร่วมงานที่ควรทำและคืนความรับผิดชอบของโปรเจ็กต์นั้น ๆ ให้กับสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ช่วยกันทำต่อไป

โดยอาจจะสื่อสารถึงงานที่เพื่อน ๆ กำลังทำและการทำงานร่วมกันในขั้นตอนของการโอนย้ายงาน ตัวอย่างเช่น “เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้ตรวจสอบงานทุกอย่างที่อยู่ใน List ของฉันและได้เขียนอีเมลอัปเดตเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้แล้ว และฉันคิดว่าความรับผิดชอบในขั้นตอนต่อไปควรเป็นของคุณและอยากให้คุณดำเนินการแทนตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป หากต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้เลยนะคะ”

แม้ในการโอนถ่ายงานในช่วงแรกจะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ขอฝืนใจ ไม่เช่นนั้น เพื่อน ๆ อาจจะต้องกลับไปวนลูปรับภาระงานขึ้นบ่าจุดเดิมแน่นอน

มาเริ่มเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกับคนในทีมอย่างมีประสิทธิภาพแทนการแบกงานทั้งโลกไว้ที่บ่าตัวเองกันนะ อย่าลืม “หัดปฏิเสธ-ยอมรับความช่วยเหลือ-แบ่งงาน” พร้อมแล้วก็ไปลุย เพื่อเราคนใหม่กันเถอะ!


อ้างอิง HBR, Laurakconnell 

No comment