Apple กำลังจะถูกสั่งปรับครั้งใหม่ในกรุงบรัสเซลส์ เหตุเพราะบริการ Apple pay เป็นเสมือนการผูกขาด ซึ่งจำกัดไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงระบบการชำระเงินผ่านมือถือ บริการดังกล่าวถือว่าขัดแย้งต่อกฎหมายต้านการผูกขาด หรือ Antitrust Law ที่สหภาพยุโรป (EU) ได้กำหนดก่อนหน้านี้

โดยครั้งนี้ Apple จะถูกตั้งข้อหาว่าละเมิดกฎหมายของ EU และเตรียมถูกสั่งปรับเงินมูล่า 10% ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลก ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มหาศาล โดยค่าปรับในครั้งนี้เป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้วในร่างกฎหมาย Digital Market Act (DMA) ที่ออกมาเพื่อควบคุมอำนาจทางการตลาดของเหล่า Big Tech

ในรายละเอียดครั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (The European Commission) กำลังจะยื่นฟ้องอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า โดยแจงว่า Apple ได้กีดกันการชำระเงินจากธนาคารอื่นๆ รวมถึง PayPal อย่างไม่เป็นธรรม ในการไม่ให้สิทธิ์เข้าถึงระบบ mobile wallet และการชำระเงินในแอป
 
การสืบสวนในครั้งนี้นำโดย Margrethe Vestager กรรมาธิการการแข่งขันผู้ทรงพลัง ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปต้องเผชิญกับความท้าทายจากการล็อบบี้เชิงรุกโดยบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติเหล่านี้มาโดยตลอด ซึ่งรวมถึง Apple โดยก่อนหน้านี้ Tim Cook ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ได้วิพากษ์วิจารณ์ กฎหมาย DMA ในกลไกด้านกฎระเบียบไปเมื่อต้นเดือนนี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าสหภาพยุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางของการปราบปราม Big Tech ระดับโลกอย่างจริงจัง แต่ในตอนนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น และยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เพิ่มเติมจาก Apple

อ้างอิงจาก 
Apple to face fresh antitrust charges in Brussels
EU to say Apple Pay breaks antitrust laws