คนเราทำงานหาเงินเพื่อนำเงินมาใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ใช่ใช้เงินไปกับการรักษาสุขภาพกายหรือสุขภาพจิตของตัวเองที่เกิดขึ้นจากการทำงานมากเกินไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรทำงานกี่ชั่วโมงถึงจะเรียกว่าพอดี? แล้วอะไรคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังทำงานมากเกินไปอยู่? มาดู 3 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราอาจทำงานมากเกินไป
1. ทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องทำมากเกินไป
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำงานหลายชั่วโมงมากไป เราจะพบเจอกับสิ่งที่เรียกว่า ‘Fake work’ หรือการทำงานปลอมๆ คือการที่เรานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน แล้วทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นงาน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เช่น เราอาจหยิบเอกสารข้างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงานที่ต้องทำมาอ่าน หรือเราอาจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถูกดูดเข้าไปในโลกโซเชียลมีเดีย
หลายคนคงเคยทำงานปลอมๆ แล้วระดับไหนถึงจะบ่งบอกว่าเรากำลังทำงานมากเกินไปอยู่? การทำงานปลอมๆ แค่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนจากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่ง อาจเรียกได้ว่าเป็นการพักสักนิดก่อนเริ่มงานถัดไป แต่เมื่อเราทำงานหลายชั่วโมง สัดส่วนเวลาของการทำงานปลอมๆ (ทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องทำ) ตรงนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเราควรทำงานให้น้อยลง
2. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้เหมือนอย่างที่เคย
หากปกติแล้วเราต้องใช้ทักษะการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และเคยทำได้ดี แต่เมื่อเริ่มทำงานหลายชั่วโมงเกินไป จะพบว่าการสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์เป็นเรื่องยาก เพราะในขณะที่จิตใจเราอ่อนล้า ทำให้การนึกถึงองค์ประกอบทั้งหมดของปัญหาทำได้ยากขึ้น ความคิดเราจะกระโดดไปกระโดดมา ส่งผลให้คิดอะไรไม่ออกหรืออาจกลับไปใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ที่เคยได้ผล นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีว่าเราควรออกห่างจากงานและหันไปทำอย่างอื่นบ้าง
3. อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องหรืออ่านแล้วหลับ
การที่เราต้องมีสติหรือมีสมาธิทำให้เหนื่อย แม้ว่าจะนอนเต็มอิ่มแค่ไหนก็ตาม เพราะงานของเราทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า วิธีในการเช็กว่าเราต้องพักหรือไม่สามารถทำได้ง่ายๆ ภายใน 10 นาที คือ หยิบหนังสือหรือบทความที่มีความซับซ้อน เข้าใจยาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วใช้เวลาอ่านเป็นเวลา 10 นาที
หากผ่านไป 10 นาที แล้วยังรู้สึกตื่นตัวและจำสิ่งที่อ่านได้ แสดงว่าเราอาจยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าอ่านแล้วหลับหรืออ่านไม่รู้เรื่องในการอ่านเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพักบ้าง และลดเวลาการทำงานลง
อ้างอิง Fast Company