เป็นที่ทราบดีว่าในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เริ่มจะคลี่คลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบางพื้นที่เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และสามารถกลับไปให้บริการได้อย่างเป็นปกติแล้ว ด้วยเหตุนี้ บริษัทหลายแห่งก็เริ่มจะมีคำสั่งให้พนักงานตัวเองกลับมาทำงานแบบ on-site ใน Hybrid Work หรือกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มรูปแบบ 

แต่ถึงอย่างนั้น การทำงานที่ออฟฟิศที่เราทุกคนเคยทำกันเป็นเรื่องปกติ กลับกลายเป็นหนึ่งสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับมนุษย์ออฟฟิศที่คุ้นเคยกับการทำงานที่บ้านเป็นเวลานาน วันนี้ Connext จะมาเผยเคล็ดลับง่าย ๆ ใน 3 สเต็ป ให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาที่ออฟฟิศได้อย่างมั่นใจ 

สเต็ปที่ 1 : แพลนทุกอย่างที่ต้องทำตั้งแต่ลุกจากเตียงไปจนถึงเข้านอน

การกลับไปทำงานอาจสร้างความกังวลใจให้กับคนหลาย ๆ คน เพราะมีกิจวัตรมากมายที่เราอาจหลงลืมไปแล้วในช่วงที่ต้อง Work from home ในขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวกลับไปทำงาน การสร้างภาพจำลองชีวิตประจำวันในช่วงที่ต้องเข้าออฟฟิศนั้นจึงสำคัญมาก และช่วยให้เราไม่ตื่นตระหนกเมื่อถึงวันทำงานจริง

ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างคำถามง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้ทุกคนเห็นภาพชีวิตประจำวันเมื่อต้องไปทำงานออฟฟิศได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น

• เราต้องตื่นนอนตอนกี่โมง
• เราต้องเริ่มต้นเดินทางและไปถึงที่ทำงานกี่โมง
• เราต้องทำอะไรบ้างก่อนออกจากบ้าน
• ช่วงกลางวันเราต้องทำอะไร
• เราต้องกลับบ้านกี่โมง
• หลังกลับบ้านเราต้องทำอะไรบ้าง

• เราควรเข้านอนกี่โมง

นอกจากนี้ รายละเอียดของแต่ละกิจกรรม เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าเราสามารถระบุรายละเอียดลงไปในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราต้องทำได้มากเท่าไร การเตรียมความพร้อมก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้การนั่งคิดภาพไว้ในหัวเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เราตกหล่นกิจกรรมบางอย่างไปได้ในภายหลัง ทางที่ดีควรเขียนลงในกระดาษเลยจะดีกว่า

สเต็ปที่ 2 : แพลนกิจกรรมแล้ว อย่าลืมเช็คตารางเวลา

ขั้นตอนถัดไปที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด คือการตรวจสอบตารางเวลาของกิจกรรมที่เราวางแผนเอาไว้ เพื่อไม่ให้ชีวิตของเราต้องสะดุดเมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง 

นอกเหนือจาก การเช็คตารางเวลา ทุกคนควรตรวจสอบเส้นทางการเดินทางไปยังออฟฟิศ หรืออาจเตรียมตั้งค่า GPS ไว้ล่วงหน้า และหาทางคำนวณระยะเวลาในแต่ละกิจกรรมให้ได้ ว่าเราใช้เวลาในแต่ละกิจกรรมนานมากน้อยขนาดไหน เช่น ลองจับเวลาดูว่าปกติเราใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวกี่นาที หรือการเดินจากสถานีรถไฟฟ้าจากสถานีหนึ่งไปยังอีกสถานีหนึ่งจะใช้เวลาประมาณไหน บางกิจกรรมที่เราสามารถเช็กเวลาได้อย่างชัดเจน เช่น ตารางการมาถึงของรถไฟฟ้า ก็ควรคิดไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องขึ้นรถเที่ยวไหน

อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องตระหนักไว้ควบคู่ไปกับการเช็คตารางเวลานั้นก็คือ สถานการณ์ต่อจากนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ร้านอาหารบางแห่งที่เราเคยไปอุดหนุนมื้อเช้าอยู่ทุกวันช่วงก่อนโควิดระบาด ตอนนี้อาจจะปิดตัวลงไปแล้ว หรือมีอาจเปลี่ยนเวลาเปิดปิด ดังนั้นแล้ว เราไม่ควรจะทึกทักไปเองว่าทุกสิ่งที่เรารู้หรือคุ้นเคยดีอยู่แล้วจะเป็นอย่างเดิมเสมอไป และต้องเช็คข้อมูลทุกอย่างให้ละเอียดเสมอ 

ในขั้นตอนนี้ ผู้เขียนอยากแนะนำว่า เพื่อให้สถานการณ์จริงผ่านไปได้อย่างราบรื่น ลองสร้างภาพสมมติถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันลงไปด้วยก็ได้ เช่น ถ้าเราเดินทางไปไม่ทันขึ้นรถเที่ยว 8 โมง เราจะทำอย่างไรต่อดี เป็นต้น การคิดถึงสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ ไม่เพียงจะช่วยฝึกให้มีไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์คับขันได้ แต่จะช่วยทำให้เรารู้สึกตัวว่าเรามีความพร้อมยิ่งขึ้นและผ่อนคลายกับวันแรกของการกลับไปทำงานได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เราควรเขียนทุกอย่างเอาไว้ในที่เดียวกันเพื่อไม่ให้ข้อมูลที่เราวางแผนเอาไว้กระจัดกระจาย โดยจะเป็นในสมาร์ตโฟน กระดาษ หรือโพสต์อิทก็ได้ตามสะดวก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปเราจะสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราเคยชินกับการไปทำงานออฟฟิศมากขึ้นแล้ว ลิสต์รายการพวกนี้อาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป

สเต็ปที่ 3 : จัดการบางกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนการทำงานจะเริ่มต้น

อย่างที่ได้กล่าวไปในช่วงต้นว่า Work from home ส่งผลให้กิจกรรมบางอย่างถูกตัดออกไปจากชีวิตเป็นการชั่วคราว โดยเมื่อเราวางแผนทุกขั้นตอนจนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายนี้ เราจะเริ่มรู้แล้วว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้การทำงานที่ออฟฟิศวันแรกของเราต้องติดปัญหา

ตัวอย่างกิจกรรมที่เราอาจต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนถึงวันทำงาน เช่น

• ต่อสมาชิกร้านกาแฟ ยิม หรือที่อื่นๆ ที่เราไปใช้เป็นประจำเมื่อไปทำงาน
• ต่ออายุบัตรจอดรถ
• รีดและทำความสะอาดเสื้อผ้าที่จะใช้
• ซื้ออาหารที่ประกอบได้ง่ายหรือทานได้ทันทีมาเผื่อเวลาที่เร่งรีบ
• ทำความสะอาดบ้านไว้ในช่วงวันหยุด (เพราะเวลาที่ใช้ที่บ้านจะน้อยลง)

• เตรียมเข้านอนให้ไวขึ้น

การกลับไปทำงาน เป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องอาศัยการปรับตัวสำหรับคนหลายคน และมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีอาการเครียดเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ อย่างไรก็ตาม เราทุกคนต่างรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น อาจพูดได้ว่า สิ่งที่เราทำได้มากที่สุดในเรื่องนี้คือการเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่จะเกิด หวังว่าสามขั้นตอนในบทความนี้ จะช่วยให้ทุกคนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทาง และผ่านวันแรกของการกลับไปทำงานได้อย่างราบรื่น

อ้างอิง  Harvard Business Review