หลังจากการเกิดวิกฤตโรคระบาด หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการทำงานที่ออฟฟิศ 100% มาเป็นการทำงานในรูปแบบ Hybrid หรือ Remote Working แทนแต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้บริษัทต่างๆ เริ่มให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศสลับกับการ Work from home หรือการทำงานรูปแบบ Remote แทน และมากกว่า 72% ของพนักงานทั่วโลกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการทำงานในรูปแบบ Hybrid เป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบและต้องการจากองค์กร
เพราะการทำงานในรูปแบบ Remote Working ช่วยให้พนักงานมีชีวิตที่ยืดหยุ่น มีเวลาพักผ่อน และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น แต่ข้อเสียของการทำงานในรูปแบบนี้ คือการขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนร่วมงาน และการเกิดช่องว่างในการสื่อสาร
ซึ่งจากเดิมเป็นเรื่องง่ายมากที่คุณจะติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน ในขณะที่การทำงาน Remote Work พนักงานต้องพึ่งพาการส่งข้อความหรือ Video Call เพื่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานหรือนายจ้าง
แม้การประชุมผ่านทาง Video Call อาจช่วยให้คุณรู้สึกเสมือนจริงได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการพูดคุยกับคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ในสถานที่เดียวกัน และปัญหาช่องว่างในการสื่อสารของพนักงาน ทำให้ Remote Working มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอุปสรรคสำหรับการทำงานในระยะยาว
เพราะฉะนั้นแล้วท่ามกลางโลกดิจิทัล คุณมีโอกาสที่จะสร้างเครือข่ายกับผู้คนได้มากมายจากทักษะที่คุณมีอยู่ แต่ด้วยอุปสรรคในการสื่อสารแล้ว คุณจะมีวิธีสร้าง Connection กับเพื่อนร่วมงานหรือองค์กรได้อย่างไร? วันนี้ ConNEXT มีวิธีสร้าง Connection มานำเสนอ ด้วยกัน 3 ข้อ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
1. พยายามให้นายจ้างของคุณเข้าใจโลกอนาคต
หากคุณต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายจ้างของคุณแล้วละก็การเสนอตัวช่วยนายจ้างของคุณในเรื่องต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะพนักงานที่อยู่ใน Gen Z หรือเด็กจบใหม่ ที่เกิดมาพร้อมยุคดิจิทัลที่รู้จักเทรนด์หรือนวัตกรรมใหม่ๆ คุณอาจใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปพูดคุยหรือสร้างความสัมพันธ์กับนายจ้างของคุณได้
2. หาเวลาว่างคุยกับหัวหน้าบ้าง
คุณอาจจะหาเวลาว่างสัก 15-20 นาทีในการคุยกับหัวหน้าเพื่อกระชับความสัมพันธ์มากขึ้น แต่ทั้งนี้คุณต้องมีจุดประสงค์ในการพูดคุยด้วย
ว่าคุณกำลังต้องการอะไรจากหัวหน้า หรืออยากจะบอกอะไรให้หัวหน้าได้รับรู้ เพื่อที่การสื่อสารระหว่างคุณกับหัวหน้าจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. พยายามช่วยเหลือองค์กร
ส่วนใหญ่แล้วองค์กรมักจะมองหาพนักงานที่มอบคุณค่าให้กับองค์กร ไม่ว่าจะด้านการทำงานหรืออะไรก็ตาม ซึ่งการช่วยเหลือองค์กรอาจเป็นเรื่องยากสำหรับการทำงานทางไกล แต่จากการศึกษาของ Joblist กล่าวว่า พนักงานในสหรัฐอเมริกากว่า 1,000 คน พบว่ามีพนักงานเพียง 38% เท่านั้นที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อองค์กร และอีก 85% มองว่าเขาไม่จำเป็นต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อองค์กรก็ได้ แค่เพียงทำตามหน้าที่ของตัวเองก็พอ ซึ่งเขามองว่าสิ่งนี้ก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จและจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อองค์กรได้ไม่แพ้กัน ซึ่งการช่วยเหลือองค์กรมีด้วยกัน 3 วิธีดังนี้
- ช่วยดูแลโปรเจกต์ขององค์กร
- ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน
- เป็นอาสาสมัครในการทำกิจกรรมต่างๆ
จะเห็นว่า Connection นั้นมีความสำคัญมาก เพราะการมี Connection จะช่วยให้คุณมีพลังงานที่ดีรอบตัวคุณ รวมถึงความคิด ไอเดีย หรือมุมมองใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป และยิ่งถ้าคุณมีคนเก่งๆ อยู่รอบตัวก็จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายชีวิตได้เร็วขึ้น แต่ถ้ามีอุปสรรคในการสื่อสารเข้ามา เช่น การเกิดช่องว่างในการสื่อสารจากการทำงานรูปแบบ Remote Working คุณสามารถนำ 3 วิธีที่ ConNEXT นำมาฝากไปปรับใช้ได้ เพื่อที่คุณจะได้มี Connection หรือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างมากขึ้น
อ้างอิง : hbr