รู้หรือไม่? ว่าการทำงานอย่างมีความสุขส่งผลต่อการมีสุขภาพจิตใจ ร่างกาย การตัดสินใจและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้เราแสวงหาการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างกระตือรือร้นมากขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานของเรา
บทความนี้จะพาทุกคนมาร่วมค้นหาวิธีที่จะนำไปสู่เส้นทางแห่งการพัฒนาบทบาทตัวเองในการทำงานอย่างมีความสุข จาก Marcus Buckingham ผู้เขียนหนังสือ Love+Work ใครที่กำลังรู้สึกหมดไฟ ไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และไม่มีความสุขในชีวิตการทำงานห้ามพลาด
1. เปลี่ยนมุมมองความคิด
อย่างแรกต้องเริ่มจากการเปลี่ยนความคิด เพราะหลายคนเชื่อว่า “เราควรทำสิ่งที่เกลียดก่อนเพื่อที่จะได้ทำสิ่งที่รักเป็นการตอบแทน” ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เนื่องจากในแต่ละวันเรามีงานหลักที่ต้องทำเยอะแยะไปหมด แต่เราไม่ได้รักทุกอย่างที่ทำ นั่นหมายความว่าเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำงานที่รักเลย ดังนั้นให้เริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของตัวเองก่อน และเริ่มต้นวันใหม่ด้วยทำสิ่งที่รักให้จงได้
2. ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ
จดบันทึกพร้อมใส่รายละเอียดว่าชอบทำอะไร ไม่ชอบทำอะไรในการทำงานทุกๆ สัปดาห์ เพื่อที่จะรู้ได้ว่าเราทำอะไรแล้วมีความสุข หลังจากนั้นให้หาวิธีที่จะได้ทำสิ่งที่ชอบแม้จะไม่ใช่งานหลักของตัวเอง เช่น การเสนอตัวช่วยงานคนอื่น
สำหรับใครที่เป็นหัวหน้าทีม ควรหาวิธีสนับสนุนให้พนักงานทำในสิ่งที่ชอบบ้าง เพราะจะสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มขึ้น 77% และลดอัตราการลาออกของพนักงานลงได้ถึง 67%
ส่วนพนักงานที่ไม่ได้เจอหัวหน้าที่สนับสนุนให้ทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่สามารถทำได้คือ ให้เริ่มจากการขอเวลาพูดคุยกับหัวหน้าทีม เพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่ตัวเองชอบและไม่ชอบ พร้อมบอกว่าอยากมีโอกาสได้ทำสิ่งที่ชอบมากกว่านี้ เพราะการนั่งรอเฉยๆ จะทำให้เราไม่มีโอกาสได้ทำงานที่รักจริงๆ สักที
3. เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ตามความชอบ
ความท้าทายของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในระหว่างที่ต้องทำงานของตัวเองคือ การมีพลังงานไม่เพียงพอ แต่การทำสิ่งที่รักจะเป็นพลังหล่อเลี้ยงให้เราทำสิ่งนั้นได้ เพราะฉะนั้นอย่ารอให้ใครมาบอกว่าต้องทำอะไร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะอ่านใจได้ว่าเราอยากทำอะไร เราสามารถเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ชอบได้ด้วยตัวเอง
สุดท้ายถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ แม้จะแค่ 20% ต่อวัน แต่สิ่งนั้นก็จะช่วยให้เรารู้สึกอยากตื่นขึ้นมาทำงานมากขึ้น ควบคุมความรู้สึกของตัวเองในแต่ละวันได้มากขึ้น อีกทั้งยังนำไปสู่การมีส่วนร่วมในงานมากขึ้น เพราะจากสถิติแล้วหากเรามีโอกาสได้ทำสิ่งที่รักทุกวัน มีแนวโน้มว่าการมีส่วนร่วมในที่ทำงานจะสูงขึ้น 10 เท่า และมีแนวโน้มที่จะมีความยืดหยุ่นในการทำงานกว่าเดิม 17 เท่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อความพึงพอใจของลูกค้า ไปจนถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
อ้างอิง HBR