แน่นอนว่าเราทุกคนมีสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว บางคนถนัดอันนี้ ชอบอันนี้ ไม่ชอบอันนี้ เพราะฉะนั้นการที่เรารู้จักสไตล์การทำงานของตัวเองก็มีประโยชน์ไม่ใช่น้อย

ซึ่งตรงกับที่ Carson Tate โค้ชผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน กล่าวว่า ถ้าเรารู้นิสัยการทำงานของตัวเองว่าเป็นแบบไหน เราก็จะเลือกวิธีการทำงานที่เหมาะกับตัวเองได้มากขึ้น เขาจึงแบ่งสไตล์การทำงานของมนุษย์ออกเป็น 4 แบบ ดังนี้ มาดูดีกว่าว่าสไตล์ไหนที่ใช่สำหรับเรา! 

นักวางแผน

เป็นคนเจ้าระเบียบ มีความรับผิดชอบสูง ชอบวางแผนการทำงาน ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน จะรู้สึกดีเวลาที่ทำงานเสร็จก่อนเวลาที่กำหนด และคนประเภทนี้หากทำงานไม่เสร็จ ก็จะไม่หลับไม่นอน ทำงานจนห่ามรุ่งห่ามค่ำ นอกจากนี้สิ่งที่ไม่ชอบสุด ๆ คือ การไม่วางแผนทำงานล่วงหน้าและการบรีฟที่ไม่ชัดเจน และมักจะชอบทำตาม To do list ของตัวเอง เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนที่เป็นนักวางแผนจะไม่ชอบงานด่วนหรืองานที่แทรก

การทำงานกับคนกลุ่มนี้ อย่างแรกคือต้องทำการบ้าน ต้องมีข้อมูลมาคุย และต้องเจาะให้ตรงประเด็น เพราะคนกลุมนี้จะไม่ชอบการที่คุยออกนอกประเด็นเท่าไหร่ แต่ถ้าหากทำตามนี้ได้เชื่อเถอะว่าคุณจะได้รับคำแนะนำที่ดีและได้งานที่ดีตามมาแน่นอน ซึ่งจุดอ่อนของคนกลุ่มนี้คือแก้ไขเฉพาะหน้าไม่เก่งนัก เรียกว่าหากทำอะไรที่นอกเหนือจากแผนที่วางไว้ก็มักจะไปต่อไม่เป็น 

นักจัดลำดับความสำคัญ

ก่อนทำงานทุกครั้งจะชอบวางแผนการทำงานก่อนเสมอ ซึ่งหากคิด ๆ ดูแล้วอาจเหมือนกับ “นักวางแผน” แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะสิ่งที่แตกต่างคือคนกลุ่มนี้จะใส่ใจรายละเอียดของงานมากกว่านักวางแผน ซึ่งมักจะเลือกทำงานที่คิดว่าสำคัญก่อนเสมอ แต่ทั้งนี้ก็จะมีการคำนวณว่างานไหนควรทำก่อน-ทำหลังด้วย และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะลงมือทำทันทีและจะตั้งใจทำงานนั้นมาก ๆ เพราะคุณค่าและประสิทธิภาพของงานคือสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ 

นอกจากนี้ถ้าพูดถึงลักษณะนิสัยในการทำงานพวกเขาจะเป็นคนที่พูดตรง แต่จะอยู่บนหลักเหตุผลและความเป็นจริง เรียกว่าเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสและเข้มงวดในระดับหนึ่ง ไม่ค่อยยืดหยุ่นในการทำงานเท่าไหร่นัก เวลาทำงานก็จะกลายร่างเป็นอีกคนจะไม่ค่อยพูดนอกประเด็นหรือพูดเล่น อีกทั้งยังเป็นคนที่ชอบพูดคุยแต่เรื่องจริงจัง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนร่วมงาน แต่การที่เป็นคนเข้มขวดไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะและไม่ใช่ว่าไม่ดีด้วย เพียงแต่ว่าเราต้องใช้ให้ถูกที่ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะกลายเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการเอาได้ 

การทำงานกับคนกลุ่มนี้คือ คุณสามารถพูดตรง ๆ กับเขาได้เลย ไม่ต้องพูดอ้อมค้อม ซึ่งถ้าต้องการความช่วยเหลือคนกลุ่มนี้สามารถช่วยได้เต็มที่ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องอะไรที่ต้องแก้ปัญหา มาปรึกษาพวกเขาได้เลยเพราะเป็นสิ่งที่ถนัดเลยล่ะ 

นักจัดการ

เป็นนักสื่อสารที่ดี มีศิลปะในการพูดสุด ๆ ชอบทำงานเป็นทีมมากกว่าทำงานคนเดียว เพราะชอบที่จะได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดหรือแชร์ข้อมูลกับผู้อื่น คนกลุ่มนี้มักจะชอบสร้างสร้างบรรยากาศดี ๆ ในที่ทำงานให้กับเพื่อนร่วมทีม    แต่ในบางครั้งก็อาจจะมากไปจนทำให้เจ้าตัวหลุดโฟกัสในการทำงานง่ายเหมือนกัน นอกจากนี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องแก้ปัญหาหรือตัดสินใจคนกลุ่มนี้มักจะใช้สัญชาตญาณและอารมณ์ในการแก้ปัญหามากกว่าเหตุผล 

แต่จุดแข็งของคนกลุ่มนี้ คือ มีศิลปะในการสื่อสาร เพราะฉะนั้นงานประสานงานหรืองานที่ต้องพรีเซนต์ คนกลุ่มนี้สามารถทำได้หมด ไม่ต้องเป็นห่วงเลย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ให้ความร่วมมือดี และให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนในทีมมาเป็นอันดับแรก ๆ อีกด้วย 

นักมองภาพรวม

นักมองภาพรวมจะให้ความสำคัญกับภาพรวมเป็นหลัก และจะมองว่างานชิ้นย่อยแต่ละชิ้นจะสามารถเชื่อมโยงกันเป็นภาพใหญ่ได้อย่างไร เป็นกลุ่มที่ชอบระดมความคิด เพื่อหาไอเดียที่ดีที่สุดให้กับงาน 

มักมองงานเป็นภาพใหญ่ จนบางครั้งก็ละเลยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปบ้างเหมือนกัน พวกเขาจะมีไอเดียที่แตกต่าง ไม่เหมือนคนอื่น และจะรู้สึกไม่ชอบหากมีคนมาบอกว่างานนั้น “เป็นไปไม่ได้” นอกจากนี้ยังเป็นคนที่สามารถเชื่อมโยงไอเดียของคนในทีมได้ดี ไม่ชอบการทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพราะเป็นคนเบื่อง่ายเลยชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน 

ที่สำคัญการทำงานกับคนกลุ่มนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเครียด เพราะพวกเขาทำงานค่อนข้างยืดหยุ่น แต่ต้องให้เขามีอิสระในความคิดนะ อย่าไปจำกัดกรอบกรอบความคิดเขามากเกินไป ข้อเสียของคนกลุ่มนี้คือไม่ค่อยชอบวางแผนการทำงาน เท่าไหร่ เรียกได้ว่าทำอะไรได้ก็จะทำไปก่อน แต่ข้อดีของพวกเขาคือเปิดกว้างทางความคิด ทำงานด้วยง่าย ไม่เคร่งเครียด และมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์