เคยรู้สึกไหมว่า วันไหนที่เราเริ่มต้นวันมาด้วยความหงุดหงิด เราจะรู้สึกว่าทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมดตลอดทั้งวัน แต่วันไหนที่เราเริ่มต้นวันดี ชีวิตตลอดทั้งวันเราก็จะดีและมี Productive ตาม
เพราะเมื่อเราเริ่มต้นวันด้วยกิจวัตรยามเช้าที่ดี ก็จะทำให้นาฬิกาชีวิต (Circadian rhythm) ที่ช่วยควบคุมการนอนหลับและการตื่น ระดับพลังงาน การเผาผลาญ และการทำงานอื่นๆ ของร่างกาย สามารถทำงานได้ดีขึ้น
ตอนเช้าจะเป็นช่วงที่จะสามารถกำหนดโทนของชีวิตเราได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวด้วย ดังนั้นจึงควรเริ่มต้นวันใหม่ให้ถูกต้องด้วยกิจวัตรยามเช้าต่อไปนี้
1. วางแผนสิ่งเล็กๆ ล่วงหน้า
วิธีสำคัญที่จะช่วยทำให้เริ่มต้นวันต่อไปได้ดีคือ การวางแผนสิ่งที่ต้องการทำคร่าวๆ ของวันถัดไป เช่น เตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่และเตรียมส่วนผสมของอาหารเช้าที่จะทำในวันพรุ่งนี้ พูดง่ายๆ ก็คือเตรียมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เราทำอะไรได้เร็วขึ้นในวันต่อไป วิธีนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการตัดสินใจในตอนเช้า และทำให้การตัดสินอื่นๆ ระหว่างวันดีขึ้น
2. อย่าเลื่อนนาฬิกาปลุก
โดยปกติแล้ว รอบการนอนของคนเรามักใช้เวลาประมาณ 90 นาที เมื่อเราเลื่อนนาฬิกาปลุกออกไปเพียงไม่กี่นาที จะทำให้การนอนหลังจากนั้นไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาวกับร่างกาย
การนอนหลับและการตื่นนอนเป็นเวลา ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นาฬิกาชีวิตของเราเดินไปอย่างราบรื่น เพราะนาฬิกาชีวิตมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมพลังงานและการเผาผลาญ ดังนั้นการรักษาเวลาในการนอนหลับจะช่วยให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น
3. ดื่มน้ำหลังตื่นนอน
เราขาดน้ำจากการนอนหลับทั้งคืน หรือจากการเข้าห้องน้ำในตอนเช้า ดังนั้นการดื่มน้ำ 1-2 แก้ว อาจเติมมะนาว น้ำแข็ง หรือแตงกวาก็ได้ ก็จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยเริ่มการเผาผลาญ เพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น
4. นั่งสมาธิเพิ่มพลังสมอง
การทำให้สมองสงบจะช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ ได้ครุ่นคิด และได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น เมื่อเราสามารถคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เรามีความ Productive มากขึ้น
การจดบันทึกหรือระบายสีก็เป็นเหมือนการทำสมาธิอย่างหนึ่ง โดยจะช่วยให้เรามีสมาธิในการคิดและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เราคิดอย่างสร้างสรรค์มากขึ้นได้
5. ออกกำลังกายคลายเครียด
การออกกำลังกายจะทำให้หลั่งสารเอ็นโดฟิน ซึ่งเป็นสารที่ผลิตในสมอง โดยจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบาย และยังช่วยให้เรามีสุขภาวะที่ดีด้วย เรียกง่ายๆ ว่าเป็นยาแก้ปวดของร่างกาย
นอกจากนี้ สารเอ็นโดฟินยังช่วยลดฮอร์โมนความเครียด ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเริ่มต้นวันได้เป็นอย่างดี
คำแนะนำ: การออกกำลังกายที่จะช่วยให้สมองมีสมาธิและมีพลังมากขึ้นคือ การจ็อกกิ้งหรือการปั่นจักรยาน
6. ออกไปเจอแสงแดดยามเช้า
การออกกำลังกายให้ได้ผลดีที่สุดคือ การออกกำลังกายในที่แจ้งเพื่อรับแสงแดด เพราะการรับแสงแดดเป็นเหมือนการบอกกับนาฬิกาชีวิตว่า เราต้องเริ่มต้นวันใหม่แล้ว
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า แสงจะช่วยให้ร่างกายหยุดผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วงและนอนหลับ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราไม่ได้รับแสงแดดที่เพียงพอสามารถทำให้เรามีปัญหาทางอารมณ์ได้ เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือเอเนอร์จี้ต่ำ
7. ชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน
มีข้อมูลจากหลายแหล่งแสดงให้เห็นว่า การดื่มคาเฟอีนช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ถึงแม้การดื่มกาแฟจะมีผลเสีย แต่ก็มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟแต่พอดีก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การชงกาแฟดื่มเองที่บ้านยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ด้วย
8. ทานอาหารเช้า
อาหารคือพลังงานของร่างกาย ดังนั้นการเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะระบบเผาผลาญของร่างกายจะทำงานได้ดีในตอนเช้า โดยการเปลี่ยนแคลลอรี่ที่กินเข้าไปให้เป็นพลังงาน ซึ่งจะทำให้เรามีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ ตอนเช้าได้มากขึ้น
ช่วงเวลาที่ควรกินอาหารเช้าที่ดีที่สุดคือ ควรกินภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากตื่นนอน และในมื้ออาหารเช้าควรมีโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้
9. ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว
ชวนเพื่อนไปวิ่งด้วยกัน ใช้เวลาทานอาหารเช้ากับครอบครัว หรือโทรหาใครสักคนที่ทำให้เรายิ้มได้ในระหว่างเดินทางไปออฟฟิศ เพราะการอยู่กับคนที่เรารักจะช่วยบูสต์อารมณ์และพลังงาน
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรามีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวไม่ดี ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานและอารมณ์แย่ลงได้อย่างรวดเร็ว
บางวันก็เหมือนเป็นวันของเรา ตื่นมาตอนเช้าไปทำงานได้อย่างราบรื่นและมีชีวิตชีวา แต่บางวันก็ไม่เหมือนไม่ใช่วันของเรา ตื่นมาแล้วรู้สึกง่วงนอน ไม่มีพลังงาน จนทำให้ไม่อยากไปทำงาน สำหรับใครที่อยากมีวันที่เป็นของตัวเอง ลองเริ่มต้นวันให้ถูกต้อง แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้น
ที่มา - NBC News