การพรีเซนต์งานที่ดี ไม่ใช่แค่การทำสไสด์ให้สวยหรือเขียนสคริปต์ให้ดูน่าสนใจ แต่การพรีเซนต์งานที่ดี คือการพูดหรือพรีเซนต์ยังไงก็ได้ให้คนฟังอยู่กับเรา มีส่วนร่วมอยู่กับสิ่งที่เรากำลังนำเสนอ
แต่รู้ไหมว่า..มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่กล้าพูดเวลาพรีเซนต์งานหรือพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ เพราะหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าที่จะพูด รู้สึกเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก พูดวนไปวนมา ทำให้หลายคนอาจรู้สึกว่าการพรีเซนต์งานเนี่ยไม่ใช่ทางของเราเลยจริง ๆ
ซึ่งคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดที่พูดขึ้นมาเฉย ๆ นะ เพราะจากรายงานของ National Social Anxiety Center พบว่ามนุษย์เรากว่า 73% กลัวการพูดในที่สาธารณะสุด ๆ ซึ่งความกลัวนี้มีเปอร์เซนต์มากกว่าคนกลัวความสูงหรือความตายซะอีก
ทำอย่างไร ให้เรากล้าพูดพรีเซนต์งานมากขึ้น ?
ถ้าเราสังเกตดี ๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จะเห็นเลยว่าชีวิตของเราเนี่ยวนเวียนอยู่กับการพูดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการพูดหน้าห้อง การพูดแนะนำตัว การพูดพรีเซนต์งาน หรือแม้แต่การสัมภาษณ์งาน ทุกอย่างล้วนต้องใช้ทักษะการพูดทั้งหมด แต่ทั้งนี้การมีทักษะการพูดที่ดีอย่างเดียวก็อาจไม่พอนะ เพราะสุดท้ายหากเรามีทักษะในการพูดที่ดี แต่นำเสนอออกไปไม่เป็นทุกอย่างก็จบอยู่ดี
ซึ่งหากพูดถึงคน ๆ หนึ่งที่พรีเซนต์เก่ง ๆ เราจะนึกถึงใครกันบ้าง หากใครที่ยังนึกไม่ออก วันนี้ CoNEXT อยากพูดถึงชายคนหนึ่งให้ฟังนั่นก็คือ ‘Steve Jobs’
อย่างที่เรารู้กันว่า Steve Jobs คือผู้ก่อตั้งบริษัท Apple และเป็นผู้นำด้านธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์
ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึงเมื่อปี 2018 เป็นปีที่ Steve Jobs ได้เปิดตัวตัว MacBook Air รุ่นแรก ซึ่งถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องฟังก์ชันการใช้งานหรือดีไซน์ของ MacBook Air แต่อย่างใด
เพราะเราจะมาพูดถึงวิธีการนำเสนอของ Steve Jobs ให้ฟังกัน ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าเขาได้เปิดตัว MacBook Air เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา แต่วิธีการนำเสนอของเขาในแต่ละครั้งเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เพราะมันชวนให้เราคิดตามอยู่ตลอดแต่ทั้งนี้เขาจะมีวิธีการนำเสนอยังไง ไปดูกัน
เริ่มต้นจาก Steve Jobs ได้เริ่มพรีเซนต์สินค้าของเขาด้วยการนำ MacBook Air ใส่ในซองเอกสารสีน้ำตาล ซึ่งพอจะพรีเซนต์สินค้าเขาก็ได้หยิบซองกระดาษนี้ขึ้นมาและลองแกะให้คนทั้งฮอล์ดู เชื่อไหมว่า..สิ่งนั้นทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนลุ้นตามเขาไปด้วยว่าเขาจะทำอะไรต่อ เหมือนชวนให้เราคิดตาม ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่เคยเห็น MacBook Air หรอกว่ามันมีขนาดหนา ขนาดบางเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ เราเคยเห็นซองเอกสารสีน้ำตาลนี้อย่างแน่นอน
ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้เราสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเองทันทีเลยว่า MacBook Air มีขนาดเท่าไหร่ โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเลยด้วยซ้ำ พอจะนึกภาพตามกันออกไหม... มันเหมือนกับการที่เราพรีเซนต์หรือเล่าอะไรสักอย่างให้คน ๆ หนึ่งฟัง แล้วเราอยากให้เขามีส่วนร่วมกับสิ่งที่เราพูด ซึ่งต้องบอกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเวลาที่เราต้องพูดในที่สาธารณะ เพราะมันจะทำให้คนจดจ่ออยู่กับเรา เขาจะเกิดความรู้สึกร่วมและจินตนาการไปกับสิ่งที่เราพูด ฉะนั้นสรุปง่าย ๆ เลยว่าการจะพรีเซนต์ให้ดีได้ เราต้องพูดและทำให้คนฟังเกิดส่วนร่วมไปกับเรา
วิธีการพรีเซนต์งานให้เก่งแบบ Steve Jobs
ข้อมูลจาก INC เว็บไซต์นำเสนอข่าวธุรกิจและเทคโนโลยี ได้ออกมาเผยวิธีการซ้อมพรีเซนต์ของ Steve Jobs ว่ามี 6 วิธี ดังนี้
1. ซ้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ
การที่เราจะพรีเซนต์ออกมาได้ดี เราต้องฝึกซ้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ให้เรามีความมั่นใจและรู้สึกคุ้นชินกับข้อมูล
ซึ่งปกติแล้ว Steve Jobs จะใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือมาใช้ท่องจำและทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด และจะเริ่มซักซ้อมทุกอย่างประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก่อนที่จะขึ้นนำเสนอจริง
เพราะอย่าลืมว่าการนำเสนอของ Apple ในช่วงเวลานั้นไม่เหมือนใคร สไลด์ส่วนใหญ่แทบจะไม่มีเนื้อหาเลยจะมีแค่รูปภาพหรือหัวข้อสำคัญ ๆ เท่านั้น เพราะเขาเชื่อว่าการทำสไสด์แบบนี้จะช่วยให้ผู้ฟังจดจ่อและสามารถจดจำสิ่งที่เขาพูดได้ง่ายขึ้น
2. เริ่มเก็บรายละเอียด ทั้งเนื้อหาที่จะพูด ภาษากาย และน้ำเสียงที่ใช้
Steve Jobs ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ข้อมูลที่เขาจะพูดเพียงอย่างเดียว แต่เขายังให้ความสำคัญกับภาษากายและน้ำเสียงที่ใช้ในการพูดอีกด้วย
ซึ่งหากใครมองภาพไม่ออก ConNEXT จะขอยกตัวอย่างนะ
สมมติว่ามีคน ๆ หนึ่งเตรียมข้อมูลมาดีมาก ข้อมูลของเขาดีทุกอย่างเลย แต่ทำไมเวลาเราฟังเขาแล้ว เราไม่อยากฟังต่อ เป็นเพราอะไร ? นั่นก็เป็นเพราะการใช้ภาษากาย และน้ำเสียงที่พูดของเขาส่งมาไม่ถึงเราหรือบางครั้งภาษากายของเขาทำให้เราที่เป็นผู้ฟังอึดอัดนั่นเอง
ภาษากายเป็นเหมือนการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การขยับมือ การผายมือ สิ่งเหล่านี้สำคัญหมดเวลาขึ้นพูดพรีเซนต์ ยิ่งถ้าหากเพื่อน ๆ มีภาษากายที่เปิดและมั่นใจ เชื่อไหมว่าการพรีเซนต์ของเราในครั้งนั้นก็จะออกมาธรรมชาติและดึงดูดผู้ฟังได้
นอกจากนี้น้ำเสียงก็เหมือนกัน หากเราใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ รู้ว่าสถานการณ์นั้นควรใช้น้ำเสียงแบบไหนละก็..การสื่อสารของเราในครั้งนั้นก็จะทำให้ผู้ฟังจดจ่อและเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อแน่นอน เชื่อสิ!
Steve Jobs เอง เขาก็ได้ฝึกฝนสิ่งเหล่านี้เช่นกัน เพื่อให้การนำเสนอของเขาออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นทางการจนเกินไป
3. ฝึกออกเสียงให้เหมือนอยู่ในสถานการณ์จริง
การฝึกพูดออกเสียง หรือการพูดออกมาดัง ๆ เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีมาก ๆ ในการนำเสนอ เพราะจะช่วยให้เราได้ทบทวนข้อมูลที่มีอยู่ในหัวว่าเราเข้าใจอะไรบ้าง เราจำอะไรได้และไม่ได้บ้าง สุดท้ายก็เหมือนเป็นการทบทวนข้อมูลไปเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งนี้มีผลต่อความจำนะ อาจจะช่วยให้เราจำข้อมูลได้มากขึ้นอีกด้วย
เวลาที่ Steve Jobs ซ้อม เขาจะพูดน้ำเสียงออกมาดัง ๆ เหมือนว่ามีผู้ฟังกำลังดูเขาอยู่ราวพันกว่าคน ซึ่งเขาจะซ้อมทุกอย่างให้เหมือนจริง ทั้งวิธีการพูด น้ำเสียงที่ใช้ หรือแม้กระทั้งท่าทาง
4. ขอ Feedback หรือคำแนะนำจากผู้อื่นเพิ่มเติม
การนำเสนอของ Steve Jobs ทุกครั้ง เขามักจะถามผู้อื่นเสมอว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นดีไหม ประโยคนี้พูดดีแล้วหรือเปล่า เข้าใจในสารที่จะสื่อออกไปไหม หรือต้องการให้เพิ่มหรือปรับตรงไหนให้เนื้อหาดูน่าสนใจขึ้นหรือเปล่า
ซึ่งการถามคำถามเหล่านี้ของ Steve Jobs จะเป็นไปด้วยความจริงใจ เพราะเขาถอดความเป็น CEO ลง และพร้อมฟังอย่างตั้งใจ เพื่อที่เขาจะได้นำสิ่งเหล่านั้นไปปรับปรุงต่อ
5. ซ้อมในสถานที่จริง
ก่อนนำเสนอทุกครั้ง Steve Jobs จะจัดการซ้อมที่ชื่อว่า Dress Rehearsals หรือการซักซ้อมที่เสมือนจริงขึ้น เขาจะใส่เสื้อผ้าทุกอย่างให้เหมือนจริงแบบที่จะขึ้นพูดบนเวที ซึ่งเขาจะทำการซ้อมแบบนี้ก่อนนำเสนอจริงประมาณ 1 อาทิตย์
6. Enjoy เข้าไว้
ในการนำเสนอเราต้องไม่ทำตัวเครียดจนเกินไป ไม่อย่างนั้นผู้ฟังอาจรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่เรากำลังพูดได้
สำหรับ Steve Jobs แล้ว เราจะเห็นว่าหลาย ๆ ครั้งเวลาที่เขาพรีเซนต์ เขาจะพยายามปล่อยมุกออกมาทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ผู้ฟังรู้สึกเครียดเกินไป
ซึ่งเขาไม่ได้ทำเช่นนี้เพียงแค่ตอนพูดนำเสนอจริง ๆ นะ แต่เวลาซ้อมเขาก็ปล่อยมุกเพื่อให้เขาไม่เครียดรวมถึงบรรยากาศตรงนั้นไม่เครียดอีกด้วย และในเวลาซ้อมนี่แหละ หลายครั้งเขาก็ได้แอบทำสไลด์พิเศษขึ้นมาเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่ฟังเขาเวลาพรีเซนต์รู้สึกว่าตรงนั้นเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายนั่นเอง
อ้างอิง : inc