Angela Eagle อดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานได้รับการยกย่องจากการกล่าวสุนทรพจน์ ณ สภาสามัญชนในวันที่ 25 มิถุนายน 2019 เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กในการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิของชาวรักร่วมเพศ โดยเธอนั้นเป็น ส.ส. หญิงคนแรกที่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นเลสเบียนในปี 1997
ส.ส. Roger Godsiff กล่าวสนับสนุนการประท้วงที่เกิดขึ้นหลายสัปดาห์ภายนอกโรงเรียนประถม Anderton Park ในเขตเลือกตั้ง Birmingham โดยเขาสนับสนุนว่าไม่ควรสอนเด็กว่าการเป็นเกย์เป็นสิ่งถูกต้องหรือเปิดเผยว่าในครอบครัวมีพ่อแม่เป็นชาวรักร่วมเพศ
โดยการกล่าวโต้แย้งของ Angela Eagle ได้สร้างความตระหนักและเรียกร้องสิทธิสำคัญให้แก่นักเรียน ดังนี้
We Aren’t Going to Get Back in the Closet
“พวกเราจะไม่กลับไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าเพื่อหลบซ่อน หรือต้องรู้สึกละอายใจกันอีกแล้ว และพวกเราจะไม่ปล่อยให้นักเรียนในรุ่นหลังต้องเผชิญกับสิ่งที่นักเรียนในยุค 80 เคยเผชิญมา…”
“และพวกเราจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในนามของศาสนา”
ชาวรักร่วมเพศจะไม่ยอมถูกกดขี่และต้องปิดตัวตนอีกต่อไป และจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแก่เด็ก ๆ ในรุ่นหลัง อีกทั้งจะไม่ยอมให้ความเชื่อทางศาสนาที่ล้าหลังมาตัดสินหรือกำหนดชีวิตของพวกเขา เพราะทุกคนล้วนมีสิทธิที่จะเลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง
Diversity Needs to Be Represented
“นักเรียนควรได้รับบทเรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์และเพศศึกษา ซึ่งนั่นหมายความว่าความหลากหลายทางเพศนั้นก็ควรที่จะได้รับการจัดสอนให้แก่เด็ก ๆ นี่ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อ และนี่ไม่ใช่การพยายามทำให้ใครเป็นเกย์…”
นักเรียนควรได้รับการสอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์และเพศศึกษา รวมถึงความหลากหลายทางเพศ โดย Angela เชื่อว่าบทเรียนเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรสนิยมทางเพศ (Sexual Orintation) ของนักเรียน แต่เป็นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศและความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีและเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
To Be Treated with Equality and Respect
“เด็กที่ถูกส่งไปโรงเรียนหรือเด็กที่มีโอกาสที่จะเป็นชาวรักร่วมเพศในโรงเรียนไม่สมควรที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากความเสมอภาคและความเคารพ”
“พวกเขาสมควรที่จะได้รับความเคารพและสิทธิที่จะได้รับการต้อนรับอย่างเท่าเทียม ไม่ควรที่จะถูกรังแก ไม่ควรที่จะถูกปฏิบัติประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นคนต่ำต้อย พวกเขาไม่ควรที่จะรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับพวกเขาหรือมีความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย และไม่ควรให้พวกเขาถูกเรียกว่า “พวกรักร่วมเพศ” ในโรงเรียนหรือถูกเหยียดหยาม”
เด็กทุกคนในโรงเรียนไม่ควรถูกกลั่นแกล้งเพียงเพราะว่าพวกเขามีเพศวิถีที่แตกต่างจากเพื่อนคนอื่น ซึ่งการถูกกลั่นแกล้งสามารถส่งผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเด็กในระยะยาว ดังนั้น พวกเขาควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ซึ่งการอบรมสั่งสอนจากทั้งครอบครัวและโรงเรียนถือเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหานี้
สุนทรพจน์ของเธอนอกจากจะเป็นการท้าทายผู้ประท้วงและผู้ที่สนับสนุนการต่อต้านการสอนเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศในโรงเรียนแล้วนั้น ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นกระบอกเสียงและตัวแทนในพื้นที่ทางการเมืองในการเรียกร้องสิทธิของชุมชนชาวรักร่วมเพศหรือ LGBTQ+ อีกด้วย
เขียนโดย Chonlasit Tadapairot