‘ไป Work and Travel ดีไหมนะ กับสถานการณ์ตอนนี้?’

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ‘Work and Travel’ เปรียบเสมือนโอกาสของเด็กหลาย ๆ คน ที่จะได้เดินทางออกไปใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตจริงที่ไม่เคยเจอ ทำให้เด็กรุ่นใหม่นิยมเดินทางไปอเมริกาเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ล้ำค่านี้

แต่พอมาปีนี้ (และอาจจะรวมถึงปีหน้า) สถานการณ์ของโควิดที่ดูจะรุนแรงขึ้นทำให้หลายคนวิตกกังวลและสับสนว่า ‘แล้วเราจะยังไป Work and Travel ได้อยู่ไหม?’ เพราะ ถ้าไม่ไปตอนนี้ ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปอีกแล้ว

เพราะฉะนั้น วันนี้ ConNEXT จึงอยากจะชวนทุกคนมาเปิดประสบการณ์การไป Work and Travel ในยุคโควิด ไปพร้อม ๆ กับ ‘แทน’ นักศึกษาคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจเดินทางไปอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในยุคโควิดให้กับตัวเองกัน 

ไม่แน่? เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้ว เราอาจจะเปลี่ยนใจซื้อตั๋วไปอเมริกาตอนนี้เลยก็ได้นะ  

Q1: แนะนำตัว ชื่ออะไร? อายุเท่าไหร่? กำลังศึกษาอยู่ที่ไหน ปีอะไร? และไปทำงานที่ไหน?

เราชื่อแทน แต่พอมาอยู่อเมริกาแล้วคนเรียกยาก คนเลยเรียก Kenny เพราะชื่อจริงชื่อ Khanes ตอนนี้อายุ 20 ปี เรียนอยู่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ปี 3 เราไปที่ South Carolina, USA

Q2: เพราะอะไร? ถึงตัดสินใจไป Work and Travel ช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด แล้วรู้สึกวิตกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไหม?

ตัดสินใจมาเร็วมาก เราสอบเสร็จแล้วก็ตัดสินใจมาวันนั้นเลย ที่ไม่กลัวเพราะว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ Biden ประกาศชัยชนะจากการระบาดของโควิด-19 (ถ้าฉีดวัคซีนครบ 2 โดสไม่ต้องสวม mask)

Q3: มีขั้นตอนเตรียมตัวก่อนออกเดินทางอย่างไรบ้าง?

• มีเอกสารอะไรสำคัญที่ต้องเตรียมบ้าง? (โดยเฉพาะเอกสารที่พิเศษสำหรับยุคโควิด)

เอกสารที่ต้องกรอกก็เยอะมากเช่นกัน เรารีบขอเอกสารจากทางมหาลัย เช่น เอกสารรับรองสภาพการเป็นนิสิต และ transcript + เอกสารอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมเอง เช่น passport, ใบตรวจสุขภาพ, statement ของผู้ปกครอง เป็นต้น

• การสัมภาษณ์วีซ่ายากไหม? ถามอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?

สัมภาษณ์วีซ่าไม่ยากเลย ไม่อยากให้ทุกคนอ่านรีวิวแล้วกลัวไปเอง (เรารู้สึกว่าอ่านรีวิวแล้วดี เพราะทำให้ตื่นตัว แต่ว่าอย่ากังวงจากการอ่านมาก) ถ้าเรารู้ข้อมูลที่ทำงาน ข้อมูลส่วนตัว สัมภาษณ์ผ่านแน่นอน ตอนเราไปสัมภาษณ์ โดนถามคำถาม เช่น เรียนที่ไหน เรียนสาขาอะไร ทำงานอะไร ที่เมืองไหน แล้วผ่านเลย

• วิธีการขึ้นเครื่องบินในยุคโควิดทำอย่างไรบ้าง? มีอะไรต่างจากการขึ้นเครื่องบินปกติไหม?

การเดินทางช่วงโควิดจะยุ่งยากกว่าปกตินิดหน่อย เราต้องมีผลการตรวจโควิดไม่เกิน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง เราแนะนำว่าการเดินทางช่วงนี้ควรเลือกสายการบินที่ flexible (เลื่อนตั๋วได้ หรือ มี refund ถ้าเดินทางไม่ได้)

Q4: จำเป็นไหม? ที่ต้องฉีดวัคซีนก่อนเดินทางไปอเมริกา

• ถ้าหากฉีดวัคซีนก่อนหน้าแล้ว วัคซีนตัวไหนบ้างที่อนุมัติ

ไม่จำเป็นเลยที่ต้องฉีดวัคซีนก่อน แค่มีผลตรวจโควิดก็เพียงพอแล้ว

• ถ้าหากไปฉีดที่อเมริกา มีขั้นตอนการฉีดวัคซีนอย่างไรบ้าง? ความยากง่ายเป็นอย่างไร?

โดยทั่วไปเราสามารถ make appointment ได้เลย ส่วนตัวเรา make appointment ไปก่อน (เราไม่รู้ process เพราะ agency จัดการให้) แต่มีวันหนึ่งเราไปเดิน walmart แล้วเค้าประกาศว่าสามารถเดินไปฉีดที่ pharmacy ได้เลย ไม่ต้องมี appointment

Q5: สถานการณ์โควิดที่อเมริกาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ที่นี่ปกติมาก ไม่มีใครใส่ mask เลย กลายเป็นว่าตอนนี้เรากลัวคนใส่ mask มากกว่าไม่ใส่

Q6: รีวิวการทำงานในแต่ละวัน ได้ทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร มีความสุขดีไหม ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง

เราทำงานที่ Rioz Brazilian Steakhouse ทำตำแหน่ง busser คิดไม่ผิดเลย มีความสุขมากกกก เพื่อนที่ทำงานน่ารักมากกกกกกก ได้ไปเที่ยวที่ North Myrtle Beach, South Carolina

Q7: ค่าใช้จ่ายโดยรวม

• ค่าสมัคร : 4900 บาท
• ค่าส่งเอกสาร: 430 บาท
• ค่าถ่ายรูป : 330 บาท
• ค่าตั๋วเครื่องบินไปอเมริกา : 29,510 บาท + 136 USD
• ค่าวีซ่า : 5,000 บาท
• รายได้รวม + ทิป หัก taxes หักค่าบ้าน : ยังตอบไม่ได้ครับ 55555

Q8: มีอะไรอยากแนะนำคนที่ไป Work and Travel ไหม?

WAT เป็นประสบการชีวิตที่ดีมากๆๆๆๆ เรารู้สึกคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจมา เราอยากให้ทุกคนลองออกจาก comfort zone ของตัวเอง แล้วลองมาดูสักครั้ง คำแนะนำคือ เลือกงานดี ๆ แล้วชีวิตจะดีมาก ๆ

*ข้อแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉีดวัคซีนที่อเมริกา*

ขั้นตอนการฉีดวัคซีนนั้นง่ายมาก แต่ต้องดูให้ดีว่ารัฐที่เราจะไปมีเงื่อนไขอย่างไร เพราะไม่ใช่ทุกรัฐที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยว บางรัฐกำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองอเมริกันเท่านั้นที่ฉีดได้ ดูรายชื่อรัฐที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวได้ที่ Kaiser Family Foundation

ขั้นตอนมีดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ Vaccine Spotter
2. เลือกรัฐและชนิดของวัคซีนที่ต้องการฉีด
3. จองวันฉีดและบันทึกข้อมูลไว้เพื่อนำไปแสดงที่จุดฉีดวัคซีน
4. เมื่อถึงวันฉีดให้เตรียมเอกสาร คือ พาสปอร์ต และ ใบเลขจอง
5. หลังฉีดให้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน CDC vaccine card แล้วนั่งพักรอดูอาการในบริเวณที่จัดไว้

• วัคซีนของ Johnson and Johnson ฉีดเพียง 1 เข็ม
• วัคซีนของ Moderna ฉีด 2 เข็ม (ห่างกัน 1 เดือน)
• วัคซีนของ Pfizer ฉีด 2 เข็ม (ห่างกัน 3 สัปดาห์)
• บางสถานที่ไม่ต้องจองวัคซีนล่วงหน้า สามารถ walk-in ได้เลย

การเลือกฉีดวัคซีนที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงเป็นสิ่งที่หลายคนคำนึงถึง อเมริกาได้นำวัคซีนที่มีมาเป็นจุดขายเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างชาญฉลาด จึงไม่น่าแปลกใจที่เยาวชนไทยหลายคนต้องการไปเรียน ทำงาน หรือท่องเที่ยวที่อเมริกาเป็นอย่างมาก conNEXT หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะ