งานนั้นก็ชอบ แต่งานนี้ก็ใช่ แล้วจะเลือกอย่างไร? ให้ชีวิตเดินไปในทางที่เป็นตัวเอง เพราะการเลือก Career path หรือเส้นทางอาชีพของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
มาร่วมหาคำตอบเหล่านี้ผ่าน Tech ConNEXT Talk หัวข้อ “Finding what is right for you ค้นหา Career path ‘ที่ใช่’ ด้วยตัวคุณ” กับ คุณมารีญา ลินน์ เอียเรี่ยน Miss Universe Thailand 2017, Co-Founder SOS Earth และ World Animal Protection Thailand Ambassador
วิธีแยกให้ออกระหว่างสิ่งที่ ‘ใช่’ และ ‘ไม่ใช่’ สำหรับเรา
ก่อนหน้านี้เคยชอบเรื่องเศรษฐศาสตร์และธุรกิจมาก คิดว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ใช่และชอบ แต่พอลองทำไปเรื่อย ๆ กลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทั้งสองอย่าง จนมาในช่วงเรียนจบ เราก็เริ่มหาที่ฝึกงานมีทั้งบริษัทที่ชอบตอบโจทย์สิ่งที่อยากทำ และบริษัทที่คิดว่าถ้ามีอยู่บนเรซูเม่ใบสมัครงานของเราก็จะดูโดดเด่นและน่าสนใจ
สุดท้ายตอนนั้นก็ได้เลือกบริษัทที่สองเพราะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่พออยู่ไปสักพักเราเริ่มไม่มีความสุขในการทำงาน ทั้ง ๆ ที่งานนั้นก็ตรงกับสายที่เราเรียนจบมา เราเลยย้อนกลับมาถามตัวเองว่าสิ่งที่ใช่ของเราจริง ๆ คืออะไร จนสุดท้ายก็ได้คำตอบว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับ Value หรือสิ่งที่สามารถสร้างคุณค่าให้ทั้งตัวเรา องค์กรและสังคมได้เพราะฉะนั้นถ้าเราตอบคำถามตัวเองได้ว่า Value ของเราคืออะไร จะทำให้เราสามารถตัดสินใจหลาย ๆ เรื่องได้ รวมถึงเรื่องการทำงาน และการเลือกองค์กรที่เราจะจะร่วมงานด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นก่อนที่เราจะรู้ว่างานไหน ‘ใช่’ หรือ ‘ ไม่ใช่’ เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราชอบอะไร ซึ่งแน่นอนคนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน บางคนมีความชอบหลายอย่าง จนอาจทำให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มโฟกัสตรงไหน ฉะนั้นถ้าเรารู้แล้วว่าตัวเราเองชอบอะไร ให้เริ่มลองลงมือทำสิ่งนั้น อย่าลังเล เพราะความลังเลเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด และอาจทำให้เราเสียเวลาไปเฉย ๆ
ควรมีเวลาเท่าไหร่ให้ตัวเองได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหน ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่ใช่’
สำหรับน้องที่เพิ่งจบใหม่ คิดว่าระยะเวลา 6 เดือนน่าจะเป็นระยะเวลาที่พอดีแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย เพราะเรายังอายุน้อยยังสามารถลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ แต่เราต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
Value ของเราสามารถเปลี่ยนไปตามอายุได้ไหม?
Value ของเราเปลี่ยนไปตามอายุและประสบการณ์แน่นอน ส่วนตัวก็เคยมี Turning point หรือจุดเปลี่ยนที่ดำเนินไปด้วยความกลัวเหมือนกัน เช่น ตอนเด็กเราเป็นคนกลัวน้ำ แต่คุณพ่อยากให้เราได้ใบ Certificate เราก็ต้องไปทำ ทั้งที่กลัว แต่พอโตขึ้นชุดความคิดบางอย่างเราเปลี่ยน ทำให้เรามองกว้างขึ้นและไม่ได้กลัวเหมือนเมื่อก่อน เลยคิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ถ้าเรารู้สึกในเชิงลบ สิ่งนั้นอาจสร้างผลไม่ดีกับเราได้ ในทางกลับกันเราต้องพยายามเปิดมุมมองและทำความเข้าใจกับสิ่งนั้นด้วยเหมือนกัน
อยากให้ทุกคนลองทำอะไรที่เรากลัวดู ความกลัวเป็นเพียงความรู้สึกว่าเราไม่อยากอยู่ใกล้สิ่งนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเรากลัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสัมภาษณ์งานหรืออะไรก็ตาม พยายามเปลี่ยน Mindset ความกลัวให้ได้ โดยการเริ่มลองทำ คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดทุกจุดเปลี่ยนคือ Mindset ของเรา
อะไรคือสิ่งที่ช่วยตัดสินใจในการเลือกอาชีพหรือ Career path
สิ่งที่ทำให้เราสามารถเลือกได้ง่าย ๆ เลย คือความรับผิดชอบที่เราต้องดูแล รวมถึงเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องบอกว่าเรื่องของ Value ยังคงสำคัญ ถ้าเรารู้ Value ของตัวเอง เราจะรู้ว่าเราควรทำอะไร ควรอยู่ตรงไหน ถ้าเราสามารถใช้ชีวิตให้ตรงกับ Value ได้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น และเราก็จะมีการสมดุลชีวิตที่ดีตามมา
จะทำอย่างไรถ้าต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
ในช่วงแรกที่เรากำลังค้นหาตัวเอง เราอาจจะต้องฝืนให้ตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ชอบดูบ้าง แน่นอนว่าการเริ่มต้นทุกอย่างไม่มีอะไรง่าย และไม่ใช่ทุกอย่างที่จะเข้ากับ Value ของเรา แต่สุดท้ายถ้าเรารู้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของเราคืออะไร บางครั้งเราอาจต้องฝืนทำสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อให้เราไปสู่เป้าหมายนั้น
ครอบครัวอยากให้เลือกในสิ่งที่เขาชอบ แต่เราไม่ได้ชอบ ควรทำอย่างไร?
Value ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องมาลองดูว่าเรามารถประนีประนอมหรือลดตรงไหนได้บ้าง บางทีเราอาจจะต้องลองทำในสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เราทำ โดยเราสามารถแสดงให้เขาเห็นว่าเราทำสิ่งนี้ให้แล้ว แต่ถ้าทำแล้วไม่มีความสุข ให้บอกเขาไปตรง ๆ ว่า เราจะไปทำอย่างอื่นแทน แต่ต้องมีแผนสำรองของเราให้พ่อแม่เห็นด้วย เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับตัวเราทั้งหมด เราต้องรู้ว่าตัวเองทำสิ่งนั้นได้จริงไหม และทำได้นานไหม แต่ทั้งนี้เราก็ต้องชัดเจนในสิ่งที่เราเลือกด้วยเช่นกัน
รู้สึกว่าตัวเองทำได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่างเหมือน ‘มนุษย์เป็ด’
พอได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เราจำเป็นที่ต้องเรียนรู้เฉพาะทางบ้างเหมือนกัน แต่ว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิดถ้าเราทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เพราะอย่างน้อยเราจะรู้วิธีที่สามารถนำความรู้ทั้งหมดที่เรามีมารวมกันหรือปรับใช้ได้ ฉะนั้นเราต้องหาเป้าหมาย และต้องกำหนดเวลาด้วยว่าเราจะเรียนรู้หรือทำสิ่งนี้นานแค่ไหน หรือจุดไหนที่ต้องลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น
วิธีจัดการกับความรู้สึกล้มเหลวหรือผิดพลาด
ความล้มเหลว หรือความรู้สึกผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เราต้องกล้าให้ตัวเองผิดพลาดบ้าง กลัวได้แต่ต้องให้ตัวเองล้มบ้าง เพราะการที่เราจะโตขึ้นได้ เราต้องลองให้ตัวเองผิดพลาดเพื่อที่จะได้เรียนรู้ ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องตลอดเวลา เราจะไม่เกิดการเรียนรู้อะไร และสุดท้ายเราจะไม่พัฒนา
สิ่งที่อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังหา Career path
คุณมารีญา กล่าวว่า ในทุก ๆ Generation จะมีสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องยากของเราอยู่แล้ว ยิ่งทุกวันนี้หลายคนมาพร้อมกับวิกฤติที่ใหญ่มาก ทำให้เราเข้าใจเลยว่าการจะแพลนอะไรในชีวิตเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น แต่อยากให้ทุกคนลองเขียนสิ่งนั้นออกมาเลยว่าเรามี Passion อะไร มีทักษะอะไรบ้าง และพยายามมองหาองค์กรที่มี Value ตรงกันกับเรา ฉะนั้นเราต้องไม่กลัวที่จะลอง เพราะบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่รอเรา เราต้องกำหนดเวลาของตัวเองชัดเจน และมองตัวเองเป็นหลักแล้วหา Value ของตัวเองให้ได้
สุดท้ายแล้วการที่เราจะเจอ Career path ที่ใช่สำหรับตัวเอง อันดับแรกเราต้องลองถามตัวเองว่าเราชอบอะไรและเมื่อรู้แล้ว อย่างที่สองคือต้องลองลงมือทำเพื่อให้รู้ว่าเราเก่งอะไร ไม่เก่งอะไร แต่ถ้าสิ่งนั้นยังเป็นสิ่งที่เรากลัว เราต้องลองเปลี่ยน Mindset ต้องกล้าออกจาก Comfort Zone ให้ตัวเองลองเผชิญสิ่งนั้น ถ้าเกิดว่าเราลองแล้วไม่เวิร์ก เราจะได้รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สำหรับเรา ในหลายครั้งการลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างอาจจะทำให้เรารู้สึกผิดพลาดล้มเหลว แต่สิ่งนี้จะทำให้เราพัฒนาและเติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน