‘Follow your passion’ วลีติดหู ที่เรามักจะได้ยินแทบทุกครั้ง เมื่อใครสักคนกำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานอย่างเต็มตัว จนกระทั่งกลายเป็นคำขวัญแห่งยุคของคนวัยทำงาน ทุกคนกลายร่างเป็นนักล่าฝัน กระโจนเข้าหา ‘Passion’ เพื่อทำในสิ่งที่รัก และพบกับความสุข บนเส้นทางชีวิตที่ตนเองเลือกเดิน หากมองจากมุมมองนี้ วลีที่ว่า ก็ดูจะเป็นคำแนะนำที่ดีไม่ใช่หรือ

Credit ภาพประกอบจาก freepikอย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามหัวใจของตนเองแล้วประสบความสำเร็จ ทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว คำพูดสวยหรู ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน แท้จริงแล้ว เป็นเพียงคำพูดของคนที่มีทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ความรู้ความสามารถ โอกาสและจังหวะชีวิต ซึ่งน้อยคนมากที่จะมีสิ่งเหล่านั้นครบทุกประการ เพราะฉะนั้น  ‘Follow your passion’ อาจไม่ใช่คำแนะนำ ที่เหมาะสมสำหรับคนวัยทำงานในยุคปัจจุบันอีกต่อไป  

ปัญหาของวลี ‘Follow your passion’#1: Passion เลี้ยงปากท้องคุณได้หรือไม่?

‘Passion’ กับ ‘Money’ มักจะเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอดเวลา สิ่งที่เราชอบชื่นชอบและอยากทำ เช่น งานอดิเรก กีฬาและกิจกรรมสันทนาการต่างๆ แทบจะไม่สร้างรายได้ให้กับเราเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม แทนที่จะสร้างรายได้ มันกลับสร้างรายจ่ายให้เราเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ‘Passion’ เป็นสิ่งที่เราทำเพื่อความสุขส่วนตัว ไม่ได้ทำเพื่อหาเงิน และนั่นหมายความว่า มันเลี้ยงปากท้องคุณไม่ได้

ลองสมมติว่า หากการชมภาพยนตร์ เป็นสิ่งที่คุณมี ‘Passion’ ในชีวิตของคุณ คุณชอบดูภาพยนตร์มาก ภาพยนตร์เรื่องไหนมาใหม่ คุณไม่เคยพลาดแม้แต่เรื่องเดียว แน่นอนว่า การได้ทำในสิ่งที่รัก ทำให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิต แต่ทว่า การชมภาพยนตร์ของคุณ ไม่ได้สร้างรายได้ให้คุณเลยแม้แต่น้อย และคุณยังต้องจ่ายค่าตั๋วเพื่อชมภาพยนตร์อีกด้วย

เพราะฉะนั้น หากคุณรักที่จะชมภาพยนตร์ด้วยใจจริง คุณก็ควรทำงานอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์สิ ถึงกระนั้น คุณอาจค้นพบว่า คุณไม่ได้มีศักยภาพที่จะเป็นนักแสดงชื่อดัง หรือไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เลยแม้แต่น้อย แท้จริงแล้วคุณเพียงแค่ชอบดูภาพยนตร์เท่านั้น และนั่น คือ ปัญหาสำคัญของวลีที่ว่า ‘Follow your passion’ 

ปัญหาของวลี ‘Follow your passion’#2: คุณสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำสิ่งที่คุณรัก ไปสู่ระดับ Professional ได้หรือไม่?

แม้ว่า คุณจะสามารถเปลี่ยนสิ่งที่คุณรัก ให้กลายเป็นอาชีพหรือธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องตระหนัก คือ คุณจะสามารถพัฒนาสิ่งนั้นไปสู่ระดับ Professional ที่จะทำให้ชีวิตของคุณยั่งยืนได้หรือไม่? เพราะ เพียงแค่คุณรักที่จะทำ ไม่ได้หมายความว่า คุณจะสามารถทำสิ่งที่คุณรักออกมาได้ดีเสมอไป  

ย้อนกลับไปยังตัวอย่างก่อนหน้า การชมภาพยนตร์ เป็นสิ่งที่คุณมี ‘Passion’ ในชีวิตของคุณ คุณชอบดูภาพยนตร์มาก ภาพยนตร์เรื่องไหนมาใหม่ คุณไม่เคยพลาดแม้แต่เรื่องเดียว แต่สิ่งที่ต่างออกไป คือ คุณกำลังก้าวเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แม้ว่าคุณแทบจะไม่มีความรู้ หรือทักษะเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เลยก็ตาม แรกๆ คุณคงจะรู้สึกว่า คุณก็สามารถสร้างรายได้จากการทำงานในวงการนี้ได้เหมือนกันนะ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณพบว่า ทักษะที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ไม่เหมาะกับทักษะส่วนตัว ที่คุณสามารถพัฒนาต่อยอดได้ การทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของคุณจะมาถึงทางตันในท้ายที่สุด  

ปัญหาของวลี ‘Follow your passion’#3: การทำสิ่งที่รัก ในโลกส่วนตัวและโลกของการทำงาน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หากคุณสามารถเปลี่ยนสิ่งที่คุณรัก ให้กลายเป็นอาชีพหรือธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณ และดูเหมือนว่า คุณจะสามารถพัฒนาตนเองขึ้นไปสู่ระดับ Professional ได้ สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องพิจารณาก่อนจะ ‘Follow your passion’ อย่างเต็มตัว คือ คุณรับได้ไหม? ถ้าหากการทำสิ่งที่รัก จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะ การทำสิ่งที่รัก ในโลกส่วนตัวและโลกของการทำงาน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ลองสมมติว่า คุณชื่นชอบในการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ มีพรสวรรค์ไม่ต่างอะไรกับเชฟชื่อดังอย่าง Gordon Ramsey และคุณกำลังจะเปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง ทุกอย่างดูเหมาะสมลงตัวไปหมด เพราะ คุณสามารถทำในสิ่งที่คุณรัก และเหมาะสมกับความสามารถที่คุณมี (ซึ่งก็คือ การทำอาหาร) ไปพร้อมกับการสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านั้นอย่างมั่นคง แต่สิ่งที่คุณอาจลืมคิดไป คือ การทำอาหารที่บ้าน และการเปิดร้านอาหาร แตกต่างกันเหมือนหนังคนละม้วนเลยทีเดียว

การเปิดร้านอาหาร คุณจำเป็นต้องหาสถานที่เช่าร้าน หาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งร้าน หาลูกน้องที่คุณสามารถไว้ใจได้ และยังต้องบริหารร้านให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างราบรื่น คุณต้องมาเปิดร้านตั้งแต่เช้าตรู่ของทุกวัน และต้องรอจนกว่า ลูกค้าคนสุดท้ายจะทานอาหารเสร็จ ยิ่งกว่านั้น คุณยังจำเป็นต้องศึกษาคู่แข่งทางการตลาด หาช่องทางการโฆษณาร้านของคุณให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป เพื่อให้กิจการของคุณสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง 

ดังนั้น ก่อนที่จะ ‘Follow your passion’ ลองถามใจตนเองก่อนว่า คุณรับได้ไหม ถ้าหากการทำสิ่งที่รัก จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะ ถ้าหากคำตอบ คือ ไม่ คุณก็ควรไปทำสิ่งอื่น ที่เหมาะสมกับชีวิตการทำงานของคุณมากกว่า เพื่อไม่ให้สิ่งที่คุณรักหายไป

ถ้าหาก ‘Follow your passion’ ไม่ใช่คำแนะนำ ที่เหมาะสมสำหรับคนวัยทำงานในยุคปัจจุบันอีกต่อไป แล้วคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานอย่างเต็มตัว หรือแม้กระทั่ง กำลังค้นหาคำตอบของชีวิต ควรจะทำอย่างไร? เพื่อให้ชีวิตการทำงานเจริญก้าวหน้า และมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่

คำแนะนำ สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง#1: ‘Follow your skills’

ก่อนที่คุณจะลงมือทำอะไรก็ตาม ลองสำรวจและค้นหาตนเองก่อนว่า อะไรเป็นสิ่งที่คุณถนัด? และอะไรเป็นที่คุณสามารถพัฒนาต่อยอดไปใช้ในอนาคตได้จริงๆ? ไม่ใช่เพียงแค่ความหลงใหลชั่วขณะ จากนั้น มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาและพัฒนาทักษะเหล่านั้น เพื่อนำมาปรับใช้ในโลกแห่งการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากตัวอย่างข้างต้น การชมภาพยนตร์ อาจเป็นสิ่งที่คุณมี ‘Passion’ ในชีวิตของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณพบว่า ทักษะความสามารถที่คุณมี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะไรกับวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่คุณถนัดและสามารถทำได้ดี กลับเป็นทักษะด้านคณิตศาสตร์และการคำนวณมากกว่า 

เมื่อชีวิตมาถึงจุดที่ต้องเลือก แทนที่คุณจะเชื่อคำแนะนำในอดีตและเลือกทำในสิ่งที่รัก จงเลือกทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ดี แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้หลงใหลในการคำนวณมากเหมือนกับการชมภาพยนตร์ก็ตาม เพราะ เมื่อคุณได้ทำในสิ่งที่เหมาะสมกับทักษะความสามารถของคุณ ชีวิตของคุณจะก้าวหน้าไปได้ไกล จนกระทั่งประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด 

คำแนะนำ สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง#2:  Balance ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว เพื่อให้คุณยังได้ทำในสิ่งที่รัก

แม้ว่า ‘Follow your passion’ อาจไม่ใช่คำแนะนำ ที่เหมาะสมสำหรับการทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องละทิ้ง สิ่งที่คุณรักไปตลอดกาล

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้ทำในสิ่งที่รัก ทำให้เรารู้สึกสนุกและมีความสุขที่จะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ แต่ในเมื่อ ‘Passion’ ไม่สอดคล้องกับชีวิตการทำงานของคุณเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่คุณต้องทำ คือ อย่าให้ ‘Passion’ มาเป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงานของคุณ แต่ให้เป็นที่พักใจ สำหรับพื้นที่ส่วนตัวของคุณแทน 

หาก ‘Passion’ ของคุณ ยังคงเป็นการชมภาพยนตร์ หรือการทำอาหารเมนูโปรด คุณก็สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ ในเวลาที่คุณต้องการพักผ่อน หรือวันที่ต้องการแรงบันดาลใจ โดยที่คุณยังสามารถทำงาน ที่เหมาะสมกับทักษะความสามารถของคุณ ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้น เมื่อคุณรู้จักปรับชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้สมดุล เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข   

อ้างอิง: Factor this

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก Techsauce Thailand ได้ ที่นี่