“โลกการทำงานถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ Extrovert เพราะความสำเร็จของเรามักจะเกี่ยวโยงกับความสามารถในการพูดคุย การแบ่งปัน การเชื่อมโยง และการนำผู้อื่น” Deb Liu ซีอีโอของ Ancestry.com กล่าว

Liu เป็นหนึ่งในคนประเภท Introvert หรือคนเก็บตัวอย่างชัดเจน เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมโดยไม่ต้องใช้ความสามารถในการพูดมากเท่าไหร่ เพียงแค่ทำงานหนักก็พอแล้ว แต่เมื่อเข้าเรียนที่ Stanford business school กลับพบว่าในบางวิชามีสัดส่วนคะแนนการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนสูงถึง 50% ของเกรด ซึ่งก็เหมือนกับโลกการทำงานที่จะต้องทำให้ตัวเองมีตัวตนและมีความสำคัญขึ้นมาถึงจะประสบความสำเร็จได้

วิธีแก้ปัญหาของ Liu คือการฝึกฝนตัวเองให้เป็นเหมือน Extrovert พูดง่ายๆ คือ ให้มองว่าการเป็น Extrovert คือทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ ไม่ใช่บุคลิกภาพที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ โดยการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้กับตัวเอง เช่น กำหนดให้ตัวเองพูดอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์ในห้องเรียน 

การฝึกเช่นนี้ทำให้ Liu เริ่มรู้สึกสบายใจและมั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องมีส่วนร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งหลังจากนั้นเธอได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารหรือผู้บริหารผลิตภัณฑ์ที่ PayPal, eBay และ Facebook ก่อนที่จะขึ้นเป็นซีอีโอของ Ancestry ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ เธอยังให้คำแนะนำสำหรับ Introvert ที่ต้องการเดินตามรอยเธอเอาไว้ดังนี้

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมทีละนิดๆ

ปกติเมื่อ Introvert นั่งอยู่ระหว่างการสนทนาหรือการประชุมต่างๆ ก็มักจะคิดว่า “ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะคิดว่าเสียงหรือคำพูดของตัวเองไม่จำเป็นอะไรเลย” ซึ่งความคิดนี้เป็นความคิดที่ขัดขวางการฝึกฝนการเข้าสังคม

คำแนะนำคือ การฝึกเป็น Extrovert ก็เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาใหม่ เราไม่สามารถเก่งขึ้นได้เลยทันที แต่เราสามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ผ่านการฝึกกับผู้อื่นโดยตรง ตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายว่าจะหาเวลาไปพูดคุยชิลๆ พร้อมจิบกาแฟกับเพื่อนร่วมงานสัปดาห์ละครั้ง หรือการจัดประชุมระดมความคิดกับเพื่อนร่วมทีมบ่อยๆ

2. ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่เป้าหมายเล็กๆ ที่ตั้งไว้

ก่อนอื่นจะต้องตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ก่อน อย่าเริ่มด้วยการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะพยายามพูด 10 ครั้งระหว่างประชุม เพราะอาจทำให้รู้สึกท้อไปซะก่อน แต่ให้ตั้งเป้าหมายเล็กๆ แทน เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะพยายามพูดสองครั้งระหว่างการประชุม 

ยิ่งฝึกพูดมากเท่าไหร่ ต่อไปก็จะค่อยๆ กล้าพูดในที่ทำงานได้มากขึ้นเท่านั้น และต้องยอมรับว่าในช่วงแรกๆ อาจจะไม่ราบรื่นหรืออาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ต้องพูด ให้มองว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน และทุกการฝึกฝนต้องใช้เวลา

Introvert ก็สามารถโดดเด่นในที่ทำงานได้

เมื่อสมัครงาน Introvert หลายคนอาจจะรู้สึกว่าโลกธุรกิจไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อตัวเอง ซึ่งมีการศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ให้เห็นว่า คนประเภท Extrovert เช่น คนที่มีความมั่นใจ เข้ากับคนง่าย หรือกล้าแสดงออก มีโอกาสได้งานที่มีรายได้สูงมากกว่า 25% เช่น ในอุตสาหกรรมการให้คำปรึกษา (Consulting) และวาณิชธนกิจ (Investment banking)

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์จริงๆ แล้ว Introvert มีข้อได้เปรียบมากกว่า Extrovert และแม้ว่า Extrovert จะมีโอกาสได้งานที่มีรายได้สูงกว่า 25% แต่ Introvert มีแนวโน้มเป็นผู้นำที่ดีกว่า มาดูกันว่าเพราะอะไร

1. Introvert เป็นผู้ฟังที่ดี

Introvert สามารถนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับทุกคนได้ เนื่องจากว่าคนประเภทนี้มักจะชอบตั้งใจฟังผู้อื่นและไม่ชอบด่วนสรุปอะไรแบบลวกๆ ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดที่ Extrovert อาจมองข้ามไปได้ ด้วยเหตุนี้ Introvert จึงมักได้รับความชื่นชมจากคนอื่นมากกว่าเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพูด 

2. Introvert สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง

โดยธรรมชาติของคน Introvert แล้วมักจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และคิดก่อนพูดเพื่อทำความเข้าใจผู้คนและสถานการณ์รอบข้างให้ดีก่อน พูดง่ายๆ คือเอาใจใส่คนอื่นมากกว่า ทำให้ Introvert สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานได้ดีกว่า 

3. Introvert ปรับตัวได้

Introvert เติบโตมาในโลกที่ส่งเสริมและชื่นชมคนที่พูดเก่งหรือกล้าแสดงออกมากกว่า ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจธรรมชาติของพวกเขาเท่าไหร่ เช่น ในโลกการทำงานก็อาจจะไม่ได้เลื่อนขั้นเร็วเท่าคนที่เข้าสังคมเก่งๆ หรืออาจจะเป็นคนที่คนอื่นนึกถึงเป็นคนสุดท้าย ทำให้เหล่า Introvert ต้องพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ผ่านการปรับตัวและก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตนเอง ซึ่งงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ความพยายามในการปรับตัวเป็นคุณสมบัติสำคัญของ Introvert ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

แม้ว่า Introvert อาจจะไม่ได้ชอบเข้าสังคมมากนักเมื่อเทียบกับ Extrovert แล้ว แต่คนเหล่านี้ก็สามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ด้วยความสามารถด้านอื่นๆ เช่น ความยืดหยุ่น การรับฟังและเข้าใจ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนรอบๆ ตัว สิ่งเหล่านี้จะนำทางให้ Introvert ก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ไม่แพ้กัน

อ้างอิง CNBC, HBR