คนในที่ทำงานมีอยู่ด้วยกันสองประเภท คือ คนที่นำความสุขกับคนที่นำความทุกข์ไปในทุกที่ที่เขาไป ความแตกต่างระหว่างคนสองประเภทนี้ส่วนใหญ่มาจาก Psychological Traits หรือบุคลิกภาพทางจิตวิทยา เช่น ความมั่นคงทางอารมณ์ EQ ทักษะระหว่างบุคคล ความเข้าอกเข้าใจคนอื่น หรือมารยาททั่วๆ ไป นอกจากนี้ยังมาจากปัจจัยทางบริบทอื่นๆ เช่น วัฒนธรรมองค์กร พลวัตของทีม และคนอื่นๆ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุที่ทำให้แต่ละคนมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน การปฏิบัติตัวต่อผู้อื่นในที่ทำงานในระยะยาวจะส่งผลต่อชื่อเสียงของเรา อีกทั้งยังส่งผลต่อการปฏิบัติงาน และการประเมินในอนาคตด้วย ทางที่ดีใครที่กำลังปฏิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงานไม่ดีควรเริ่มปรับปรุงพฤติกรรมด้วยคำแนะนำง่ายๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์ดังนี้
ฟังให้มากขึ้น
จากงานวิจัย The Power of Listening at Work โดย Avraham N Kluger และ Guy Itzchakov พบว่า ยิ่งฟังมากเท่าไหร่ คนอื่นก็จะยิ่งไว้วางใจและชอบคุณมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ การฟังให้มากขึ้นยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเป็นผู้นำได้มากขึ้นและทำให้คนอื่นมองว่าคุณเป็นผู้นำที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งการเพิ่มทักษะการฟังก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ หยุดพูด แล้วใส่ใจกับสิ่งที่คนอื่นพูด
ทำให้คนรอบข้างเป็นคนที่ดีขึ้น
ผู้นำที่ดีจะสามารถเป็นโค้ชที่ดีให้กับคนรอบข้างได้ ผ่านการพยายามทำความเข้าใจผู้อื่น และทำในสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับเพื่อนร่วมงานและพนักงานคนอื่นๆ ในท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านั้นก็จะขอบคุณคุณ และคุณก็จะได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำของตัวเองไปในตัว
หลีกเลี่ยงการประจบประแจง
แม้ว่าการยกย่องชื่นชมคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งเหล่านั้นต้องมาจากความเป็นจริง ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำแบบนั้นกับทุกคน เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านั้นอาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณเองได้ เช่น คนนั้นอาจจะคิดว่าคุณประจบประแจงแบบนี้กับทุกคน จนเสียความน่าเชื่อถือไปเพราะไม่มีความจริงใจให้กัน
หลีกเลี่ยงการโต้เถียงที่ไม่จำเป็น
การโต้เถียงเป็นสาเหตุหลักของความขัดแย้งในที่ทำงาน อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ทำลายประสิทธิภาพของทีมและการทำงานร่วมกันในทีม แม้ว่าความถูกต้องจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน ให้ใช้การโต้เถียงอย่างมีเหตุมีผล ส่วนอะไรที่ไม่สำคัญก็ปล่อยมันไป ไม่ต้องหยิบยกขึ้นมาให้เป็นประเด็น
ใจกว้างให้มากขึ้น
ความเห็นอกเห็นใจต่อคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญ คุณจะต้องหัดมองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในมุมมองของคนอื่นและทำความเข้าใจเขาบ้าง สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ความใจดีหรือความเมตตาในที่ทำงาน แต่ก็ต้องใช้ความใจดีอย่างมีเหตุมีผล ไม่ลำบากตัวเองจนเกินไป
ความหลากหลายเป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกๆ ที่ รวมถึงในที่ทำงาน เราอาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ หรือสัญชาติ แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมีต่อผู้อื่นคือความเห็นอกเห็นใจ เพราะสิ่งนี้จะช่วยสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ และสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น
อ้างอิง fastcompany