เคยโดนเพื่อนร่วมงานขโมยไอเดียและพยายามทำให้ไอเดียนั้นกลายเป็นของตัวเองไหม? ถึงแม้ว่าการขโมยไอเดียในที่ทำงานจะไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดจรรยาบรรณ ซึ่งอาจส่งผลให้สูญเสียความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานไปตลอดกาล
การนำไอเดียของคนอื่นมาเป็นของตัวเองเป็นเรื่องที่ผิด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดได้ เพราะจากการวิจัยโดย Office Team พบว่า 29% ของพนักงานเคยถูกขโมยไอเดียในที่ทำงาน หากเราเจอสถานการณ์นี้เราควรรับมืออย่างไรดี?
1. เผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่ขโมยไอเดียตรงๆ
เมื่อพบว่าโดนเพื่อนร่วมงานขโมยไอเดีย อย่างแรกที่ต้องทำคือเรียกเพื่อนร่วมงานคนนั้นมาคุยกันตรงๆ แต่ไม่ใช่เรียกมาพูดคุยในที่สาธารณะ ให้เรียกมาคุยกันส่วนตัว เพราะบางทีเขาออาจไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ให้เครดิตเรา หรือบางทีเขาอาจจะกำลังทำงานที่คล้ายๆ กันอยู่ก็ได้ ดังนั้นจึงควรพูดคุยกันแบบส่วนตัวว่าปัญหาคืออะไรกันแน่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แต่ถ้าไม่กล้าพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว อาจจะส่งอีเมลอย่างสุภาพไปพูดคุยด้วยก่อนก็ได้
2. อย่าเสียเวลาไปกับการแก้แค้น
แม้ว่าการโดนขโมยไอเดียจะทำให้รู้สึกโกรธจนอยากแก้แค้นมากแค่ไหน แต่การแก้แค้นก็ไม่คุ้มค่า เพราะเราอาจโดนลงโทษทางวินัยได้ หลังจากที่เผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานคนนั้นแบบสุภาพแล้ว หากเขายอมรับว่าขโมยจริงๆ พร้อมขอโทษ ให้ยอมรับคำขอโทษนั้นและก้าวต่อไปข้างหน้า แต่ถ้าเขาปฏิเสธ ให้อธิบายไปว่าทำไมถึงมองว่าเขาขโมยไอเดีย พร้อมบอกอย่างสุภาพว่าต่อไปอย่าขโมยไอเดียอีก
3. บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหัวหน้า
ถ้าคำแนะนำข้างต้นไม่เป็นผล ให้เข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการ โดยอธิบายกับผู้จัดการไปตามตรงว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แล้วเรารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์นั้น เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองและป้องกันการขโมยไอเดียในอนาคต นอกจากนี้ หากอยากให้คำพูดของเราดูมีน้ำหนักก็แสดงหลักฐานที่จะสามารถชี้ได้ว่าไอเดียนั้นเป็นของเราจริงๆ เช่น อีเมลหรือข้อความที่เคยคุยกับคนในทีม
4. เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้ว่าการโดนขโมยไอเดียจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แต่การแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวออกมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร สิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าคือ การถอยหลังออกมาหนึ่งสเต็ปแล้วประมวลถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วถามตัวเองว่า ก่อนหน้านี้เราไว้ใจคนอื่นมากไปหรือเปล่า หรือเราเคยบอกให้ทีมรู้ไหมว่านั่นคือไอเดียของเราจริงๆ ให้เรียนรู้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนึกวิธีที่จะสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ได้
5. ก้าวต่อไปไปข้างหน้า
สุดท้ายเมื่อพยายามทำทุกวิถีทางอย่างดีที่สุดแล้ว ก็ให้อภัยและปล่อยมันไป เพราะแค่ทำงานอย่างเดียวก็หนักแล้ว อย่าเสียเวลาไปกับการสร้างศัตรูในที่ทำงาน เรายังมีโอกาสอื่นๆ ในการพิสูจน์ความสามารถตัวเองอยู่ ส่วนคนที่ขโมยไอเดียคนอื่นก็เป็นคนที่ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง ในอนาคตคนอื่นก็จะรู้ได้เองว่าใครที่มีความสามารถหรือไม่มีกันแน่
อ้างอิง hcamag