ท่ามกลางการหยุดชะงักจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากโรคระบาด ส่งผลให้พนักงานจำนวนมากหันมาทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ และกล้าที่จะขอสิ่งที่ตัวเองต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน สถานที่ทำงาน รวมถึงความก้าวหน้าในอาชีพ
Passion คืออะไร?
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ต้องการทำงานให้ตรงกับความชอบและความสนใจของตัวเอง สิ่งเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า Passion ซึ่งหมายถึงความรู้สึกทางอารมณ์ที่รักหรือหลงใหลในงานที่ทำ พบว่า 70% ของนักศึกษาจบใหม่จะให้ความสำคัญกับ Passion เป็นอันดับแรกในการตัดสินใจเลือกอาชีพ และเกือบ 2 ใน 3 ให้ความสำคัญกับเงินเดือนและความมั่นคงในอาชีพมากกว่า
แม้ Passion จะเปรียบเสมือนเป็นแรงผลักดันในการตัดสินใจเลือกอาชีพของใครหลายๆ คน แต่ยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด เพียงแค่อยากทำงานตาม Passion มากกว่างานที่ให้ความมั่นคง ประกอบกับแนวคิด “Life is short” ที่เข้ามาเป็นสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ใครหลายคนกล้าทำตาม Passion ของตัวเองมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม แม้การทำตาม Passion จะมีข้อดีมากมายแต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะมันอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการเงิน ต้องยอมรับว่างานที่คุณต้องการหรือให้ความสนใจอาจจะไม่ตรงกับความต้องการการของตลาด เพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือเราควรคำนึงถึงเงินเดือน โครงสร้างขององค์กร และอนาคตของบริษัทเพื่อนำมาจัดลำดับความสำคัญในการตัดสินใจเลือกอาชีพ
วิธีการสร้างสมดุลชีวิตการทำงานระหว่าง Passion และรายได้
1.พยายามหาความสุขรอบๆ ตัว
หากความสุขในการทำงานของคุณมันหายาก ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับงานได้ แม้คุณจะไม่มี Passion กับมันเลยก็ตาม เช่น การทำงานกับเพื่อนร่วมงานคู่ซี้ของคุณ การทำงานในองค์กรมีเป้าหมายเดียวกับคุณ หรือการได้รับค่าตอบแทนหรือสวัสดิการที่เหมาะสมกับงานแม้จะไม่ตอบโจทย์ Passion ของคุณเลยก็ตาม เป็นต้น
2. เลือกรูปแบบการทำงานที่ ‘ใช่’ ให้เพื่อตอบโจทย์กับ Passion
หลังจากโรคระบาดลดลง แต่ละองค์กรมีวิธีจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จึงส่งผลไปยังรูปแบบในการทำงานที่มีความเป็นอิสระและยืดหยุ่นมากขึ้น
หากงานที่คุณทำอยู่อาจไม่ได้เติมเต็ม Passion แต่มีการทำงานที่ยืดหยุ่น มีอิสระและชั่วโมงการทำงานอย่างชัดเจน เช่น การทำงานระยะไกล (Remote working) หรือการทำงานจากอยู่บ้าน (Work from home) ก็อาจตอบโจทย์! เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความยืดหยุ่น อิสระ และมีรายได้ที่มั่นคงในการทำงานแล้ว คุณยังสามารถบริหารจัดการเวลาให้สมดุลเพื่อที่จะไปทำสิ่งที่เรียกว่า Passion เพื่อเติมเต็มตัวเองได้อีกด้วย
3.เติมเต็ม Passion ให้กับตัวเอง
หาโอกาสลงทุนให้กับตัวเองในการเข้าร่วม Workshop ใช้เวลาไปกับงานอดิเรกที่ชอบหรือกิจกรรมอื่นๆ นอกเวลางาน เพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเองและให้ตัวเองรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกีฬา การเป็นอาสาสมัคร เล่นดนตรี หรือเที่ยวกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ลองท้าทายตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่ไม่ชอบดูบ้าง ไม่แน่คุณอาจจะได้สกิลใหม่ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตทำงานและได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นก็ได้นะ
4. พูดคุยและช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงาน
ถ้างานของคุณและเพื่อนร่วมงานไม่สมดุลกับค้าจ้างที่ได้รับ สามารถใช้โอกาสในช่วงเปลี่ยนผ่านหลังโรคระบาดนี้เจรจาต่อรองในฐานะลูกจ้าง ขอให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน ชั่วโมงการทำงาน หรือเงินเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับงาน
เพราะฉะนั้นการสร้างสมดุลระหว่างเงินเดือน และ Passion จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กจบใหม่หรือคนวัยทำงานควรคำนึงถึง เพราะความชอบอย่างเดียวคงไม่พอต่อการเลือกอาชีพอีกต่อไป ควรพิจารณาถึงเงินเดือน วัฒนธรรมขององค์กร และแนวโน้มการเติบโตของบริษัท และอีกหลายๆ ปัจจัยร่วมด้วย
อ้างอิง : HBR