IKEA Effect ทำอย่างไร? ให้เรามองเห็นคุณค่าและรักงานที่ทำ ได้เท่ากับสิ่งของที่เราประกอบสร้างเองกับมือ | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
IKEA Effect ทำอย่างไร? ให้เรามองเห็นคุณค่าและรักงานที่ทำ ได้เท่ากับสิ่งของที่เราประกอบสร้างเองกับมือ
By Connext Team กันยายน 1, 2021
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

A.) เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน B.) เฟอร์นิเจอร์ที่เรานำมาประกอบเองที่บ้าน

ในแง่ของความสะดวกสบาย เราก็ย่อมเลือกข้อ A อยู่แล้ว เพราะ คงไม่มีใครอยากเสียเวลามานั่งประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านเองหรอกใช่ไหม?

แต่ถ้าในแง่ของความรักและผูกพันที่มีต่อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นล่ะ เราจะยังเลือกตอบข้อ A เหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า? เพราะ บางที การลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง อาจจะทำให้เรามองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นมากกว่าเดิมก็ได้นะ

แล้วถ้าการลงมือประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเอง จะทำให้เรารู้สึกรักและผูกพันกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นมากขึ้นกว่าเดิม จะเป็นไปได้ไหมว่า การลงมือทำงานด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น จะทำให้เรารักและผูกพันกับงานที่เราทำอยู่มากขึ้นเช่นกัน?

‘IKEA Effect’ คือ อะไร? ทำไมการไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจึงเกี่ยวข้องกับ ‘Value what we build’

‘การลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง จะทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นมากกว่าเดิมจริงหรือไม่?’

เพื่อตอบคำถามที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงไปทั่วโลก Michael Norton Daniel Mochon และ Dan Ariely นักวิชาการและนักวิจัยชื่อดัง จึงได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฎการณ์ ‘IKEA Effect’ ที่เกิดขึ้น โดยเริ่มแรกพวกเขาแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นักสร้าง (Builder) และนักตรวจสอบ (Inspector)

โดยกลุ่มนักสร้าง (Builder) จะได้รับมอบหมายให้ประกอบชิ้นส่วนสิ่งของ 1 อย่าง โดยทำตามคู่มือประกอบชิ้นส่วนที่มาพร้อมกัน ขณะที่กลุ่มนักตรวจสอบ (Inspector) จะได้รับสิ่งของชิ้นเดียวกัน แต่พร้อมใช้งานแล้ว มาทดลองใช้งานจริง จากนั้น ผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมดจำเป็นจะต้องลองกำหนดราคาว่า สิ่งของที่ตัวเองถืออยู่ควรจะมีราคาเท่าไหร่ และชอบสิ่งของชิ้นนั้นมากแค่ไหน 

ผลปรากฎว่า กลุ่มนักสร้าง (Builder) มีแนวโน้มที่จะกำหนดราคาสิ่งของเหล่านั้นสูงกว่ามาก เมื่อเทียบกับกลุ่มนักตรวจสอบ (Inspector) อีกทั้งระดับความชอบและพึงพอใจก็มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ เป็นเพราะว่า ตามหลักการทางจิตวิทยานั้น ยิ่งเราทุ่มเทให้กับบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากแค่ไหน เราจะยิ่งให้คุณค่ากับสิ่งที่เราได้มามากเท่านั้น เหมือนกับคนที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ จาก IKEA มาประกอบ ก็จะรู้สึกรักและผูกพันกับสิ่งของชิ้นนั้นมากกว่าสิ่งของสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน

ทีมนักวิจัยจึงสามารถสรุปได้ว่า ปรากฏการณ์ ‘IKEA Effect’ จะเกิดขึ้น เมื่อเราได้ลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง ทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งของเหล่านั้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ทำมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของเรานั่นเอง

แล้ว ‘IKEA Effect’ เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่? หรือมันจะทำให้เรามองเห็นคุณค่าของงานที่เราทำมากขึ้น?

แน่นอนว่า เมื่อทุกคนได้อ่านบทความย่อหน้าแรกไปแล้ว ก็คงจะรู้สึกว่า ‘เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบทความแนว Social & Lifestyle ที่เป็นแนวหลักของเพจกันล่ะ’ หากมองแบบผิวเผินก็คงจะเป็นเช่นนั้น การไปซื้อของที่ IKEA มาประกอบเองที่บ้าน ดูจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ถ้าหากมองลึกลงไปยังแก่นของปรากฎการณ์ ‘IKEA Effect’ ที่เกิดขึ้น สิ่งของที่เรานำมาประกอบเองที่บ้าน ก็คงจะไม่ต่างอะไรจากงานที่เราทำด้วยตนเองในปัจจุบันนักหรอก เพราะ ทั้งสองสิ่งก็ล้วนเกิดจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของเราทั้งนั้น 

ดังนั้น มันจะดีกว่าไหม? ถ้าหากเราสามารถมองเห็นคุณค่าของงานที่ทำ ให้เหมือนกับสิ่งของจาก IKEA ที่เราประกอบขึ้นมาเองด้วยความผูกพันและภาคภูมิใจ  

3 แนวทางการทำงานของ ‘IKEA Effect’ ที่จะทำให้เรามองเห็นคุณค่าของงานที่ทำและมีความสุขกับชีวิต 

  • เปิดอิสระทางความคิดในการกำหนดทิศทางการทำงาน เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของในสิ่งที่ทำ

ในแง่ของกำหนดทิศทางการทำงาน องค์กรควรเปิดโอกาสให้ทีมและสมาชิกแต่ละคนได้มีส่วนในการออกแบบและกำหนดทิศทางการทำงานของตัวเองบ้าง ตราบเท่าที่ยังเป็นไปตามแนวคิดและเป้าหมายหลักขององค์กร เพื่อให้ทุกคนภายในองค์กรรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในสิ่งที่ตัวเองทำ เหมือนกับสิ่งของที่เรานำมาประกอบเองจาก IKEA ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนในองค์กรรู้สึกผูกพันและเห็นคุณค่าของงานที่ทำอยู่มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ผลลัพธ์จากการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย   

  • กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และภารกิจร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าด้วยใจที่เป็นหนึ่ง

นอกจากเรื่องทิศทางการทำงานส่วนบุคคลและระดับทีมแล้ว ปรากฎการณ์ IKEA Effect ยังทำให้ผู้คนมากมายให้ความสำคัญต่อเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และภารกิจขององค์กร ที่พวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากกว่าหลักการที่ถูกกำหนดมาไว้แล้วเป็นอย่างมาก

เพราะฉะนั้น แทนที่การกำหนดนโยบายสำคัญภายในองค์กรจะถูกตัดสินโดยคนกลุ่มเล็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อน ลองเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาบ้าง เพื่อให้ทุกคนมองเห็นภาพอนาคตขององค์กรไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถพาองคืกรก้าวไปข้างหน้าด้วยใจที่เป็นหนึ่ง

  • เลือกตัดงานส่วนที่ยากออกไป แต่เก็บงานส่วนที่เป็นแรงจูงใจไว้

เมื่อเปรียบการซื้อสิ่งของสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน กับการนำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบด้วยตัวเอง แน่นอนว่า การซื้อของที่พร้อมใช้งานย่อมสร้างความสะดวกสบายให้กับเรามากกว่า การทำงานก็เช่นกัน งานอะไรก็ตามที่เป็นชุดคำสั่งและมีระเบียบขั้นตอนชัดเจน ทำให้เราประหยัดเวลาในการวางแผน และสามารถจัดการงานที่มีอยู่ได้ดีกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับงานที่ชุดคำสั่งเป็นขั้นเป็นตอน การทำงานที่เราเริ่มลงมือทำตั้งแต่ต้น จะทำให้เราผูกพันและพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมามากกว่า ไม่ว่างานนั้นจะออกมาดีหรือไม่ก็ตาม เหมือนกับการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ที่อาจจะไม่ดีมาก แต่เราก็ภูมิใจที่ประกอบจนสำเร็จนั่นเอง

ดังนั้น ลดขั้นตอนการทำงานในส่วนที่ควรจะเลือก และเก็บในส่วนที่จะเป็นแรงจูงใจในการทำงานของเราเอาไว้ให้ดี เพราะ ถ้าหากการทำงานของเรามันเป็นระบบมากเกินไป จนไม่มีส่วนไหนที่ออกมาจากแรงกายแรงใจของเราเลย เราก็คงจะไม่รู้สึกผูกพันและเป็นส่วนหนึ่งของงานนั้นอีกต่อไป 

อ้างอิง: Tailored Thinking

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/life-hacks/ikea-effect-and-how-to-love-your-job-as-much-as-what-you-build