ช่วงที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่เสนอสวัสดิการใหม่ๆ ให้กับพนักงานเพื่อดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ เช่น การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ การจ่ายเงินเดือนเป็นคริปโทฯ
จากการสำรวจความคิดเห็นโดย deVere Group บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน พบว่า ครึ่งหนึ่งของคน Gen Z ยินดีที่จะรับเงินเดือนครึ่งหนึ่งเป็นบิตคอยน์หรือคริปโทฯ แม้ว่าการได้รับค่าจ้างเป็นคริปโทฯ จะเป็นสิ่งที่ดูน่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เรามาดูกันว่าการได้รับค่าจ้างเป็นคริปโทมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
1. ได้ค่าจ้างเร็ว
เมื่อนายจ้างจ่ายเงินเดือนเป็นคริปโทฯ เงินนั้นก็จะเข้าบัญชีเราทันที ไม่ต้องรอวันถัดไป อีกทั้งยังไม่มีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน และค่าธุรกรรมธนาคารแบบเดิมๆ ด้วย เพราะคริปโทฯ ไม่ใช่สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล
2. ไม่เสียภาษี (ในบางประเทศ)
เมื่อพูดถึงกฎหมายภาษีของคริปโทฯ หลายประเทศก็ไม่ได้มีกฎหมายเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ เช่น โปรตุเกสเป็นประเทศที่เก็บภาษีบิตคอยน์ 0% ยิ่งเวลาผ่านไปหากถือคริปโทฯ ไว้ในมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือว่าประหยัดค่าภาษีไปได้เยอะเหมือนกัน
แต่หลายประเทศอาจจะเริ่มเก็บภาษีคริปโทฯ ในอีกไม่นาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค เช่น ประเทศสหรัฐฯ จะให้บุคคลในประเทศรายงานธุรกรรมคริปโทฯ ต่อ Internal Revenue Service หรืออินเดียเองก็มีการเก็บภาษี 30% จากรายได้คริปโทฯ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่พนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นคริปโทฯ จะต้องตระหนักถึง
3. ความผันผวนคือดาบสองคม
แม้แต่บิตคอยน์ที่มีความนิยมสูงก็มีความผันผวนของราคาเช่นกัน จะเห็นได้ว่าเมื่อลงก็ลงมาอย่างรวดเร็ว ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ร่วงลงมากกว่า 40% แต่ถ้าขึ้นก็ขึ้นเยอะไม่แพ้กัน ดังนั้นจึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าเราแบกรับความเสี่ยงได้แค่ไหน
4. ภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์
แม้ว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีต่อคริปโทฯ จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี ตราบใดที่ความนิยมของคริปโทฯ ยังคงมีอยู่ การละเมิดก็ยังคงสามารถเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ เช่นกัน
ตอนนี้นักต้มตุ๋นหลายคนก็กำลังพุ่งเป้าไปที่ Crypto Wallet โดยการใช้ Social Engineering ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับการได้รับอีเมลฟิชชิ่ง เพื่อให้คลิกลิงก์ปลอม
ถ้าเราไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของคริปโทฯ ก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรากำลังเก็บสินทรัพย์ไว้บนแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม
ดังนั้น การเลือกแพลตฟอร์มคริปโทฯ ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องหาแพลตฟอร์มที่สามารถประกันความปลอดภัยของทรัพย์สิน เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อต้องใช้เงินดิจิทัล
อ้างอิง CNBC