“เราผิดเองหรือคนอื่นทำให้เราผิด” รู้จัก Gaslighting ทฤษฎีครอบงำความคิด ทำให้รู้สึกผิดแบบไม่รู้ตัว | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
“เราผิดเองหรือคนอื่นทำให้เราผิด” รู้จัก Gaslighting ทฤษฎีครอบงำความคิด ทำให้รู้สึกผิดแบบไม่รู้ตัว
By Suchanan Songkhor มกราคม 8, 2024
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

ในชีวิตเราจะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือขยับไปตรงไหนก็จะดูผิดไปหมดในสายตาเขา เหมือนบนหน้าเรามีกากบาทแปะไว้ 

“เราผิดเองหรือคนอื่นทำให้เราผิด”  รู้จัก Gaslighting ทฤษฎีครอบงำความคิด ทำให้รู้สึกผิดแบบไม่รู้ตัว

เช่นเดียวกับในซีรีส์ที่กำลังเป็นกระแสล่าสุดอยู่ในตอนนี้ “Marry My Husband” ที่มีพาร์ทพูดถึงชีวิตมนุษย์เงินเดือนของนางเอก คังจีวอน และเพื่อนร่วมทีมที่ต้องเผชิญกับหัวหน้าที่เรื่องงานไม่ค่อยถนัด แต่กลับเก่งเรื่องดูถูกความสามารถคนอื่นในทีมอย่าง คิมคยองอุค จนทำให้ ยังจูรัน เพื่อนร่วมทีมของเธอรู้สึกสับสน เก็บคำพูดเหล่านั้นมาคิด เริ่มเชื่อสิ่งที่เขาพูด รู้สึกแย่กับตัวเอง จนทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองและชอบคิดว่าเป็นความผิดของเธออยู่เสมอ ๆ ซึ่งความจริงแล้ว..เธอมีความสามารถและไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด

ถ้าใครเคยเจอแบบนี้ นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่อันตรายมาก ๆ ว่าเรากำลังถูกปั่นหัวทำให้รู้สึกผิดหรือ Gaslighting อยู่นั่นเอง 

Gaslighting คืออะไร 

Gaslighting คือการมีพฤติกรรมหรือคำพูดบางอย่างที่ทำร้ายจิตใจคนอื่น คล้ายกับการปั่นหัวทำให้รู้สึกผิด โดยจุดประสงค์หลักของ Gaslighting คือต้องการควบคุมคนอื่น โดยจะใช้คำพูดหรือจิตวิทยาบางอย่างที่ทำให้ตัวเองมีอำนาจ หรืออยู่เหนือกว่าคนอื่น

ซึ่งจริง ๆ แล้ว Gaslighting สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก เพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่หัวหน้างาน ยิ่งกับคนที่มี Self-esteem ต่ำ มองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อย ยิ่งง่ายต่อการที่จะโดน Gaslighting เข้าครอบงำ เพราะพวกเขาจะค่อย ๆ เริ่มสูญเสียความมั่นใจ จากคำพูดที่โดนกรอกหูอยู่ทุกวัน ทำให้รู้สึกสึกสับสน จนสุดท้ายก็หมดความมั่นใจในตัวเองไป 

โดยคำว่า Gaslighting มีต้นกำเนิดมาจากภาพยนต์ที่ชื่อว่า Gaslight ในปี ค.ศ. 1994 ซึ่งในหนังจะพูดถึงคู่รักคู่หนึ่งที่สามีหวังจะฮุบสมบัติของภรรยา ด้วยวิธีการปั่นประสาท ตั้งใจทำให้เธอรู้สึกเป็นคนบ้าหรือคนเสียสติ ซึ่งสิ่งที่เขาทำ คือการหรี่ตะเกียงไฟในบ้านลงและทำให้มันกระพริบ ๆ จนภรรยาเกิดความสงสัย และได้ถามสามีว่าตะเกียงมันมืดลงรึเปล่า แต่สามีก็ได้ปฎิเสธหน้าตาเฉยและบอกกับภรรยาว่า “เธอคิดไปเอง” และสามีก็ทำแบบนั้นเรื่อย ๆ เพื่อตั้งใจทำให้อีกฝ่ายเชื่อว่าตัวเองนั้นคิดไปเอง จนสุดท้ายภรรยาเกิดความสับสนและในที่สุดก็คิดว่าตัวเองกลายเป็นคนที่เสียสติไปจริง ๆ นั่นเอง 

สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังโดน Gaslighting 

  • เขาเริ่มพูดโกหก ทำให้เรารู้สึกสับสน และกลับมาโทษตัวเองว่าเราอาจจะจำผิด หรือเข้าใจผิด 
  • แกล้งลืมสัญญาที่ให้ไว้ (บอกว่าไม่เคยให้สัญญานั้น)
  • ไม่ยอมรับความผิดที่ตัวเองทำ แม้จะมีหลักฐานมายืนยันก็ตาม
  • เบี่ยงเบนความผิดของตัวเองมาให้เราหน้าตาเฉย

ประโยคที่คนอื่นชอบพูดทำให้เรารู้สึกผิด 

  • นี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ 
  • ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย คิดไปเองรึเปล่า 
  • คิดมากจัง, เซนซิทีฟเกินไปรึเปล่า, อย่าอ่อนไหวเกินไปสิ
  • จำผิดแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นหรอก 
  • เป็นบ้าเหรอ, ทุกคนคิดว่าเธอบ้าไปแล้ว
  • ขอโทษแล้วกัน..ที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
  • แค่พูดเล่นเอง, พูดเล่นแค่นี้เอง  

ซึ่งทุกประโยคที่ว่ามานี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าลองสังเกตดี ๆ ประโยคเกือบทุกประโยคจะมุ่งเน้นทำให้เรารู้สึกสับสนกับความทรงจำของตัวเอง และเกิดการตั้งคำถามว่าเราจำผิดหรือคิดผิดหรือเปล่า จนสุดท้ายคนกลุ่มนี้ก็จะใช้คำพูดบางที่ทำให้เราต้องมานั่งตำหนิตัวเอง จนคิดว่าตัวเองนั่นแหละเป็นคนผิด 

เพื่อน ๆ เคยเจอคนแบบนี้บ้างไหม? แล้วมีวิธีจัดการกับตัวเองและคนเหล่านี้อย่างไร มาแชร์กันหน่อย!

อ้างอิง : careercontessa

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/life-hacks/learn-about-gaslighting-an-obsessive-thinking-theory-unconsciously-causes-you-to-feel-guilty