ถ้าคุณไม่ชอบงานประจำที่ทำอยู่ละก็ คุณไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่คนเดียว! หลายคนมีงานในฝันที่อยากทำ แต่ด้วยปัจจัยอะไรบางอย่างทำให้ต้องละทิ้งงานในฝันและเลือกงานที่เงินเดือนดีกว่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีโอกาสในการทำงานที่คุณใฝ่ฝันได้
วันนี้ ConNEXT จะพาไปดูบทเรียนจาก Lindsay MacMillan อดีตพนักงานสถาบันการเงินที่ไล่ตามความฝันในการเป็นนักเขียนในขณะที่ต้องทำงานประจำที่เธอไม่ชอบไปด้วย เธอทำอย่างไรถึงสามารถทำงานที่เธอไม่ชอบและงานที่เธอชอบไปพร้อมๆ กันได้
Lindsay MacMillan สาวผู้มีความใฝ่ฝันในการเป็นนักเขียนตั้งแต่เด็ก เธอได้เข้าเรียนในเอกเศรษฐศาสตร์และการเขียนเชิงสร้างสรรค์หลังจบมัธยมปลาย ในขณะที่ศึกษาอยู่นั้น เธอก็พยายามหาความรู้นอกห้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจการประพันธ์ จนในที่สุดเธอค้นพบเส้นทางสู่การเป็นนักเขียนของเธอ ในช่วงแรกเธอตัดสินใจเข้าทำงานที่ Goldman Sachs สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เพื่อเก็บเงินและเตรียมพร้อมสำหรับวันที่เธอจะก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักเขียนอย่างเต็มที่
ในขณะที่เธอทำงานที่ Goldman Sachs อยู่นั้น เธอก็ได้เขียนหนังสือไปด้วย โดยหนังสือเรื่องแรกของเธอ “The Heart of the Deal” ได้รับการตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา MacMillan เล่าว่า เธอรู้สึกโชคดีที่สามารถสร้างรายได้หลักล้านบาทจากการทำงานที่ Goldman Sachs ถึงมันจะไม่ใช่งานในฝันของเธอแต่มันก็สามารถปูทางไปสู่งานในฝันของเธอได้
Lindsay MacMillan แชร์วิธีการใช้ช่วงเวลาในการทำงานที่ Goldman Sachs ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในขณะที่เธอกำลังวิ่งไล่ตามความฝันในการเป็นนักเขียนไปด้วย โดยสิ่งที่เธอทำมีดังต่อไปนี้
1.เปลี่ยนเป็นตารางเวลา
MacMillan กล่าวว่า การทำงานฝ่ายการเงินไม่ใช่งานสำหรับเธอ เธอทำงานที่นี่มาเป็นเวลาสองปี แต่เธอไม่สามารถควบคุมหรือจัดการตารางเวลาได้ จึงทำให้เธอไม่มีเวลาสำหรับการเขียนหนังสือเลย เธอจึงเปลี่ยนไปทำงานในฝ่ายการตลาดแทน เธอทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม โดยเธอใช้เวลาตอนเช้าก่อนไปทำงาน 2-3 ชั่วโมงและเวลาว่างในวันหยุดเพื่อเขียนหนังสือ
MacMillan ยังบอกอีกว่า ถึงเธอจะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานประจำของเธอ แต่เธอก็รู้สึกดีที่ได้ใช้เวลาบางส่วนในการเขียนหนังสือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เธอชอบทำนั้นมีความก้าวหน้าขึ้นในทุกๆ วัน
2.สร้างพลังบวกและความสนุกในที่ทำงาน
MacMillan ยังพบวิธีที่จะทำให้วันทำงานสนุกขึ้น วิธีหนึ่งที่เธอทำ คือ "อีเมลแห่งความสุข" โดยเธอจะส่งอีเมลถึงเพื่อนร่วมงานของเธอในทุกๆ วันศุกร์เพื่อแบ่งปันเรื่องราวดีๆ หรือส่งต่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้น
เธอกล่าวว่า ถึงเธออาจจะไม่สนุกกับการทำงาน แต่การได้ทำกิจกรรมแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและกระปรี้กระเปร่าในที่ทำงานมากขึ้น
3.จงพอใจกับการเป็นพนักงานที่ “ดีพอ”
MacMillan ค้นพบว่าการทุ่มตัวเอง 100% ให้กับงานประจำและงานในฝันพร้อมกันสามารถนำไปสู่ภาวะหมดไฟได้ ฉะนั้น จงหยุดเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบในทุกสิ่ง
งานเขียนคือสิ่งสำคัญอันดับแรกของเธอ ดังนั้น เธอจึงไม่ยึดติดกับการที่ต้องเป็นพนักงานที่ “ดีที่สุด” เพราะเธอพอใจกับการเป็นพนักงานที่ “ดีพอ” เธอเลิกงานตรงเวลาและไม่ทำงานล่วงเวลา เพราะเธอรู้ว่าเธอสามารถใช้เวลาตรงนี้ไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้มากกว่า ซึ่งก็คือการเขียนหนังสือ
Lindsay MacMillan ลาออกจากงานในเดือนมีนาคม 2022 เพื่อโฟกัสกับงานเขียนและการโปรโมตนิยายเรื่องแรกของเธออย่างเต็มที่ เธอบอกว่า ตอนนี้เธอทำงานหนักพอๆ กับตอนทำงานที่ Goldman Sachs แต่เธอรู้สึกว่างานเขียนมันสอดคล้องกับจิตวิญญาณของเธอ และยิ่งเธอทำมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เธอมีไฟมากขึ้นเท่านั้น
จากบทเรียนเส้นทางอาชีพของ Lindsay MacMillan จะเห็นได้ว่าเธอทำงานประจำที่เธอไม่ได้ชอบเพื่อเป็นการก่อร่างสร้างตัวและปูทางไปสู่อาชีพในฝันของเธอในที่สุด นอกจากนี้ ในระหว่างที่เธอทำงานประจำนั้น เธอก็ได้แบ่งเวลาบางส่วนมาทำสิ่งที่เธอรักไปด้วย สำหรับใครที่ไม่ได้ทำงานที่ตรงตาม Passion หรือความชอบของตัวเอง แต่มีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนสายงาน ก็ลองนำวิธีของเธอไปใช้กันนะ
เขียนโดย Chonlasit Tadapairot
อ้างอิง CNBC