เคยไหม? พยายามทำให้คนอื่นพอใจ คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ เพราะเกรงใจ และอยากให้เขาพึงพอใจและมีความสุข แม้ว่าโดยปกติแล้วความใจดีและการช่วยเหลือคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจกลายเป็นว่า เราตามใจคนอื่นแต่ฝืนใจตัวเอง จนบางทีอาจทำให้รู้สึกท้อแท้ เครียดและวิตกกังวลได้ ซึ่งเราสามารถเรียกคนที่มีอาการแบบนี้ว่า People Pleaser
People Pleaser คืออะไร?
People Pleaser คือคนที่พยายามทำให้คนอื่นมีความสุข โดยการพยายามทำให้คนอื่นพึงพอใจ แม้ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะเป็นการเสียสละเวลาหรือทรัพยากรอันมีค่าของตัวเองไป
ซึ่งคนที่เป็น People Pleaser มักจะเป็นคนที่ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) บ่อยครั้งก็มักจะเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ เช่น ซ้อมสิ่งที่จะพูดก่อนรับสาย จัดแต่งทรงผมอย่างพิถีพิถันในกระจก
การเป็น People Pleaser เรียกได้ว่า ‘เกือบ’ เป็นการเสพติด เพราะการทำให้คนอื่นพอใจเป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าตนเองมีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเป็น People Pleaser
1. ตอบตกลงไปเวลาคนอื่นชวน ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากไป
2. ชอบพูดขอโทษในเรื่องเล็กๆ
3. รู้สึกกังวลเมื่อคนอื่นโกรธ
4. หัวเราะตามคนอื่น แม้เรื่องนั้นจะไม่ตลกสำหรับตัวเอง
5. เสนอตัวช่วยคนอื่น แม้ตัวเองจะกำลังยุ่งอยู่
6. ทำเป็นว่าสนใจ แต่จริงๆ ในใจรู้สึกเบื่อ
7. ทำลายคุณค่าของตัวเองเพื่อคนอื่น แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง
8. รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบอารมณ์ผู้อื่น
9. ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง
10. พูดปฏิเสธคนอื่นไม่เก่ง
11 วิธีหยุดเป็น People Pleaser
1. ซื้อเวลาไว้ก่อน
หากรู้สึกว่าการปฏิเสธเวลามีเพื่อนหรือคนอื่นๆ โทรมาชวนออกไปข้างนอกเป็นเรื่องยาก แทนที่จะตอบคำว่าใช่ เราตอบกลับไปว่า “เดี๋ยวติดต่อกลับไป” จะดีกว่า หรือเราอาจพูดได้ว่าขอเช็คตารางเวลา/สิ่งที่ต้องทำก่อน เพื่อเป็นการซื้อเวลาให้ตัวเองคิดดีๆ อีกทีว่าอยากไปจริงหรือไม่ หลังจากนั้นก็สามารถตอบกลับด้วยอีเมลหรือข้อความด้วยคำว่า “ไม่” อย่างสุภาพ
2. หยุดคิดสักนิดก่อนตอบ
จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในปี 2014 พบว่า การชะลอเวลาการตัดสินใจเพียง 50-100 มิลลิวินาที จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ เพราะเราจะสามารถมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้
ดังนั้น สำหรับคนที่เป็น People Pleaser ให้หยุดคิดเล็กน้อยก่อนตอบตกลง และไม่ต้องกังวลถึงความเงียบระหว่างคุย เพราะความเงียบถือเป็นเรื่องปกติของการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
3. เริ่มพูดปฏิเสธจากสิ่งเล็กๆ
การพูดจาเย็นชาใส่คนอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ People Pleaser ดังนั้นให้เริ่มจากการพูดคำว่า ‘ไม่’ ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ โดยอาจจะเริ่มจากการแชท เพราะจะทำให้เรามีเวลาคิดในการตอบกลับ
หรือแทนที่จะปฏิเสธตรงๆ เรายังสามารถเสนอทางเลือกอื่นที่เราอยากทำจริงๆ ด้วยก็ได้ เช่น ถ้าเพื่อนชวนไปปาร์ตี้ เราก็ตอบกลับไปว่า “ไปเดินเล่นตอนบ่ายๆ ด้วยกันแทนได้ไหม?”
4. เปลี่ยนคำปฏิเสธจาก ‘ทำไม่ได้’ เป็น ‘ไม่ทำ’
สิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดมากที่สุดสำหรับ People Pleaser ไม่ใช่การพูดปฏิเสธไม่ได้ แต่เป็นวิธีการที่ใช้ในการปฏิเสธ
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Consumer Research พบว่า การพูดว่า “ไม่ทำ” เป็นวิธีการปฏิเสธที่มีพลังมากกว่าคำว่า “ทำไม่ได้”
เพราะคำว่า “ไม่ทำ” เป็นคำพูดที่กำหนดขอบเขตชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจมากขึ้น แต่คำว่า “ทำไม่ได้” ทำให้ดูเหมือนกำลังแก้ตัวและดูพอจะมีเวลาว่างให้ได้บ้าง
ตัวอย่างเช่น:
ทำไม่ได้: “ฉันไปปาร์ตี้ไม่ได้”
ไม่ทำ: “ฉันไม่อยากไปปาร์ตี้”
5. เปลี่ยนเรื่องเล่าต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เมื่อเรามีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม ให้พยายามนึกถึงความเป็นจริงในอารมณ์แง่บวก เช่น เหตุการณ์นั้นทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง หรือประสบการณ์นั้นเปลี่ยนเราให้ดีขึ้นได้อย่างไร หากเราเริ่มควบคุมมุมมองที่มีต่อเรื่องราวของตัวเองได้ เราก็จะรู้สึกดีต่อการทำให้ตัวเองพอใจมากกว่าการทำให้คนอื่นพอใจ
6. รู้เป้าหมายของตัวเอง
การมีเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวจะทำให้เราเป็นคนที่กล้าปฏิเสธคนอื่นมากขึ้น เพื่อทำให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเก็บเงินซื้อตั๋วคอนเสิร์ตไปดูศิลปินที่รัก เมื่อมีคนมาชวนออกไปปาร์ตี้ เราก็จะกล้าปฏิเสธมากขึ้น เพื่อประหยัดเงินและทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ ดังนั้นให้ลองตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวดูว่าอยากทำอะไร อยากเป็นคนแบบไหน หรืออยากอยู่จุดไหน เพื่อให้หันมาโฟกัสที่ตัวเองมากขึ้น
7. เลิกคบเพื่อนแย่ๆ
เมื่ออ่านบทความนี้เรานึกถึงใครเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น คนที่ชอบทำให้เราเสียเวลาและพลังงานอยู่ตลอด เราทุกคนต่างก็ต้องเคยเจอคนที่ Toxic ในชีวิตที่ชอบมาทิ้งเรื่องแย่ๆ ไว้ในชีวิตเราแล้วก็จากไป ให้เลิกคบคนเหล่านั้นแล้วชีวิตเราจะดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น คนที่ชอบเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อยากได้อะไรก็ต้องได้ หาก People Pleaser เจอคนแบบนี้ก็จะต้องตามใจกันไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด
8. เลิกขอโทษในเรื่องที่ไม่ควรขอโทษ
คนที่เป็น People Pleaser ชอบขอโทษคนอื่นในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้น ให้ลองสังเกตดูว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาเราขอโทษคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า และให้เลิกขอโทษเวลาพูดปฏิเสธคนอื่นด้วย เพราะเราแค่ปฏิเสธเพื่อไปทำงานทำการ ทำสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรให้ต้องรู้สึกผิด
9. เลือกใช้คำขอโทษที่ ‘มีประสิทธิภาพ’
เราสามารถขอโทษคนอื่นได้โดยไม่ต้องพูดคำว่าขอโทษ แต่คำขอโทษมีทั้งวิธีที่ดีและไม่ดี จากการวิจัยพบว่าคำขอโทษที่มีการปฏิเสธ (ไม่ใช่ความผิดของฉัน) และการหลีกเลี่ยง (เรื่องราวมันซับซ้อน) ไม่ใช่คำขอโทษที่ดี
คำขอโทษที่ดีคือ คำขอโทษที่มีการแก้ไข (ฉันจะไม่ทำอีก) และมีความละอาย (ฉันรู้สึกละอายใจตัวเอง) ดังนั้น เมื่อทำผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ ควรใช้คำขอโทษที่มีประสิทธิภาพจะดีกว่า
10. เลิกเอาความสุขของคนอื่นเป็นที่ตั้ง
ปัญหาอย่างหนึ่งของ People Pleaser คือ ชอบให้คนอื่นมายืนยันว่าตัวเองมีความสำคัญ นั่นหมายความว่าความมั่นใจของ People Pleaser มาจากแรงผลักภายนอกล้วนๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วคนเราควรเห็นคุณค่าในตัวเองโดยที่ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาชื่นชม
วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้คือ การสร้างหรือการทำสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีและมีความสุขกับตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาทำให้เรารู้สึกดี
11. บอกตัวเองว่า “เราไม่สามารถตามใจทุกคนได้”
สิ่งสุดท้ายที่เราสามารถทำได้คือการบอกตัวเองว่า “เราไม่สามารถตามใจทุกคนได้” เพราะแต่ละคนมีความต้องการเป็นสิบเป็นร้อย ถ้าเราต้องมานั่งตามใจทุกคน แล้วเมื่อไหร่จะได้มีชีวิตเป็นตัวเองสักที?
อ้างอิง verywellmind, scienceofpeople