เคยไหม? อยากหนีชีวิตผู้ใหญ่ไปบินบนเกาะ Neverland แบบปีเตอร์แพน อยากกลับไปนอนกลิ้งดูการ์ตูนเหมือนตอนเด็ก ๆ อยากใช้ชีวิตแบบชิลล์ ๆ ไร้กฎเกณฑ์ ไม่ต้องแบกรับภาระอะไรเลย แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าความฝันแบบนี้ของเพื่อน ๆ “ สนุกไปวัน ๆ แต่ไม่โตซักที” กลายเป็นนิสัยติดตัว ส่งผลกับการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ นี่อาจจะเป็นสัญญาณของ "Peter Pan Syndrome" หรือ “ภาวะผู้ใหญ่ หัวใจเด็ก” ก็ได้นะ!
Peter Pan Syndrome: คืออะไร?
Peter Pan Syndrome เป็นคำเรียกพฤติกรรมของคนที่ชอบหนีความรับผิดชอบของตัวเองในบทบาทของการเป็นผู้ใหญ่ ไม่ค่อยอยากทำงาน หาเงิน เก็บเงิน หรือแม้แต่ดูแลตัวเอง แต่กลับชอบที่จะอยู่ในโลกแห่งความสนุกสนาน ไม่อยากรับผิดชอบอะไรหนัก ๆ หรือคิดเรื่องหนักสมอ ซึ่งนี่เป็นพฤติกรรมที่สอดคล้องกับตัวละครปีเตอร์แพนในนิทาน
ส่งผลให้คนที่มีภาวะนี้มักจะพึ่งพาคนอื่นและมีปัญหาในการรับผิดชอบชีวิตผู้ใหญ่ของตัวเอง ทั้งทางด้านการทำงาน การสร้างสัมพันธ์ และการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างการล้างจาน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ อย่างการแบ่งเบาภาระในครอบครัว
สาเหตุของ Peter Pan Syndrome มาจากอะไร?
- การเลี้ยงดู: พ่อแม่ที่ตามใจเกินไป หรือเข้มงวดเกินไป ล้วนส่งผลให้ลูกไม่รู้จักแบ่งเบาภาระและหน้าที่ เลยทำให้ไม่มีความรับผิดชอบและขาดทักษะการใช้ชีวิต
- เศรษฐกิจ: ยุคสมัยนี้หางานก็ยาก เงินก็ไม่พอใช้ ความกดดันทางการเงินอาจทำให้หลายคนท้อและหนีไปหาความสนุกแทนที่จะเติบโตและรับผิดชอบ
- นิสัยส่วนตัว: บางคนอาจเป็นสายชิลล์ ชอบความง่าย ไม่อยากเจอความเครียด เลยหนีไปทำอะไรสนุกๆ แทน
มีอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าเราอาจจะเป็น Peter Pan Syndrome?
Peter Pan Syndrome สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มีวิธีสังเกตได้ ดังนี้
- หนีปัญหาเก่ง: กลัวความรับผิดชอบ หลีกเลี่ยงภาระเท่าที่จะเลี่ยงได้ มักแก้ปัญหาด้วยการเงียบ ไม่ค่อยเผชิญหน้า
- รักสนุกไม่ชอบผูกพัน: ชอบเที่ยว ชอบคบเพื่อนใหม่ ๆ แต่กลัวการมีแฟนหรือความสัมพันธ์ที่จริงจัง คาดหวังให้คนอื่นดูแล และมองความรักแบบง่าย ๆ
- หนีงานบ้านสุดฤทธิ์: จานกองเป็นภูเขา เสื้อผ้าล้นตู้ คิดว่าเดี๋ยวค่อยเก็บ เบื่อการทำความสะอาดเพราะคิดว่าชีวิตมีอะไรสนุกกว่านั้นเยอะ
- ใช้เงินมือเติบ: รายได้ดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะติดของแบรนด์ ติดเที่ยว ชอบกินหรู ไม่ค่อยคิดเรื่องออม ไม่ยอมปรับตัว แถมขอเงินพ่อแม่ประจำ
- ไม่ค่อยวางแผนอนาคต: อยู่ไปวัน ๆ ชอบความตื่นเต้น ท้าทาย อยากรวยทางลัด อยากประสบความสำเร็จแบบปุ๊บปั๊บ
- ทำงานแบบขอไปที: ไม่ใส่ใจคุณภาพ สายเบี้ยว สายโดดงาน ชอบโม้มากกว่าทำจริง
- เลื่อนตำแหน่งยาก: ขยันขี้เกียจ ไม่ค่อยพัฒนาตัวเอง เจออะไรยาก ๆ ก็ถอดใจ โทษโชคชะตา ไม่สู้กับปัญหา
แต่เดี๋ยวก่อน! การเป็นผู้ใหญ่ หัวใจเด็ก ก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพราะ Peter Pan Syndrome มักจะชอบมองโลกในแง่บวก ชอบความสนุกสนาน ใครอยู่ใกล้ก็สนุกไปด้วย จึงถือเป็นข้อดีเหมือนกัน แต่ถ้ามันส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน สัมพันธ์กับคนรอบข้าง หรือตัวเองเริ่มทุกข์กับมันแล้วล่ะก็อาจจะถึงเวลาที่เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง!
แล้วคนที่เป็น Peter Pan Syndrome ต้องปรับตัวยังไง?
ถ้ารู้สึกว่าตัวเองมีอาการ Peter Pan Syndrome อย่าเพิ่งเครียดไป! เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นะ
- สำรวจตัวเอง: ลองสังเกตพฤติกรรมตัวเองว่าตรงกับข้อไหนบ้าง
- หาสาเหตุ: ลองนึกย้อนกลับไปว่า อะไรที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ เกี่ยวกับการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม หรืออะไร?
- ตั้งเป้าหมาย: วางแผนชีวิตตัวเองว่าอยากเป็นอย่างไร? และอะไรที่อยากเปลี่ยนบ้าง?
- หาแรงบันดาลใจ: อ่านเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ ดูหนัง ฟังเพลง หาแรงผลักดันให้ตัวเอง
- ค่อย ๆ เปลี่ยน: เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน เช่น จัดการเวลาให้ดีขึ้น ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระคนรอบข้าง
- หาที่ปรึกษา: คุยกับคนที่ไว้ใจ เพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่หา Therapist มาช่วยก็ได้ บางทีคนอื่นอาจมองเห็นจุดอ่อนของเรา และเสนอคำแนะนำดีๆ ให้ได้
สำหรับคนที่มีคนใกล้ตัวที่เป็น Peter Pan Syndrome
ใจเย็น ๆ นะ การเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเราสามารถทำความเข้าใจพวกเขาได้เพียง
- สื่อสารอย่างชัดเจน: บอกให้เขาเห็นว่าคุณต้องการอะไร คาดหวังอะไรจากเขา
- ตั้งกฎเกณฑ์: แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน
- ให้โอกาสปรับปรุง: อย่าเพิ่งตัดสินเขา เพียงแค่เพราะนิสัยไม่กี่ข้อ
สรุป
Peter Pan Syndrome อาจเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและคนรอบข้างได้ ถ้ารู้ตัวเร็ว ปรับตัวได้ ก็ไม่สายเกินแก้ แต่ถ้าปล่อยไว้ อาจจะทำให้ชีวิตติดอยู่ในวงวนของวัยเด็ก ไร้ความมั่นคงทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และเรื่องความสัมพันธ์ จำไว้ว่า การเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว! แค่เปิดใจ ปรับมุมมอง และลงมือทำ ทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อน แต่สุดท้ายแล้ว เราต้องก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายนะ เพราะทุกคนก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เจ๋งได้!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจ Peter Pan Syndrome มากขึ้น และนำไปปรับใช้กับชีวิตตัวเองได้
มาลองแชร์ประสบการณ์ของคุณกับ "Peter Pan Syndrome" หรือบอกเราว่าเพื่อน ๆ คิดยังไงกับบทความนี้ได้ที่ใต้โพสต์นี้เลย!
อ้างอิง healthline