Pride Month เส้นทางการต่อสู้ของเหล่า LGBTQ เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเอง | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
Pride Month เส้นทางการต่อสู้ของเหล่า LGBTQ เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเอง
By Connext Team มิถุนายน 4, 2021
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

‘พวกเราชาว LGBTQ ต่างกับเพศชายและหญิงตรงไหน ในเมื่อเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ทำไมพวกเราถึงไม่มีสิทธิเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากให้เป็น’        

Credit ภาพประกอบ: freepik

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เดือนมิถุนายน ถือว่าเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) โดยทุกๆปี เราจะได้เห็นเทศกาลเฉลิมฉลอง และขบวนพาเหรดตามท้องถนนมากมายทั่วโลก เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมีความสุขกับการได้แสดงออกและเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมกับธงสีรุ้งที่โบกสะบัดไปมาอย่างสง่างาม

แต่กว่าที่ธงสีรุ้งจะได้โบกสะบัดอย่างสง่างามแบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้ มันกลับแลกมาด้วยบาดแผลทั้งกายและใจของชาว LGBTQ มามากขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อเราย้อนกลับไปยังยุคที่ความหลากหลายทางเพศถูกกดทับด้วยความเป็นชาย-หญิงของสังคมกระแสหลัก และการแสดงออกทางเพศที่ผิดแปลกไปยังเป็นสิ่งต้องห้ามและน่ารังเกียจของผู้คนในสังคม

เพราะฉะนั้น เพื่อเชิดชูคุณค่าของอิสรภาพที่ได้มาและภาคภูมิใจในตัวเอง Connext จึงอยากจะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่เส้นทางการต่อสู้ที่แสนยาวนานของชาว LGBTQ กว่าจะเป็นอย่างทุกวันนี้ และร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ ‘The Stonewall Uprising’ ที่จุดประกายให้เกิด Pride Month ไปพร้อมๆกัน

1969: The Stonewall Uprising การลุกฮือของชาวสีรุ้งเพื่ออิสรภาพในการเป็นตัวเอง 

จริงๆแล้ว กลุ่มความหลากหลายทางเพศมีมาทุกยุคทุกสมัยในสังคมมนุษย์นั่นแหละ เพียงแต่เราถูก filter ไม่ให้มองเห็นพวกเขาเท่านั้นเอง เพราะ มันขัดกับความเป็นชาย-หญิง ที่คนในสังคมกระแสหลักยึดถือกัน แต่ไม่ว่าสังคมจะกีดกันให้พวกเขากลายเป็นชายขอบมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะลบคำว่า LGBTQ ออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์ได้ แม้ว่าพวกเขาอาจจะต้องอยู่อย่างหลบซ่อนๆก็ตามที

ในสังคมอเมริกันก็เช่นกัน กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศที่อาศัยอยู่ในดินแดนเสรีภาพ ต่างต้องหลบซ่อนตัวตนที่แท้จริงและใช้ชีวิตให้เป็นไปตามที่สังคมเห็นว่าดีมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็น Safe Zone ในการแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขา นั่นก็คือ บาร์เกย์ (Gay Bar)

แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่า บาร์เกย์จะเปิดรับแต่เฉพาะกลุ่มคนชายรักชายเท่านั้น เพราะ จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะมีการแสดงออกและรสนิยมทางเพศแบบไหน ก็สามารถเข้าร่วมชุมชนทางสังคมเหล่านี้ได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่ยอมรับในความแตกต่างของกันและกันได้อย่างเป็นสุขก็พอ

เมื่อสถานที่พบปะของชาวสีรุ้งเหล่านี้ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในสังคมกระแสหลัก ความพยายามที่จะลบคำว่า LGBTQ ออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์ก็รุนแรงขึ้นตามไปด้วย ตำรวจและเจ้าหน้าที่ภาครัฐเริ่มเข้าควบคุมและทำลายบาร์เกย์ตามสถานที่และเมืองต่างๆ ผู้คนถูกจับกุมและทำให้อับอาย เพียงเพราะต้องการจะแสดงออกถึงตัวตนในพื้นที่เล็กๆของสังคมที่สร้างกันขึ้นมาเอง การปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกระทั่ง ‘28 มิถุนายน 1969’ ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบาร์เกย์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า the Stonewall Inn ในมหานครนิวยอร์ค และเริ่มจับกุมผู้คนออกไปข้างนอกร้านด้วยความรุนแรง ทำให้ผู้คนที่เป็นลูกค้าในบาร์แห่งนั้นไม่พอใจอย่างมาก เพราะ พวกเขาไม่ได้ทำความผิดเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์จลาจลต่อต้านการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ต่อมาสถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้คนท้องถิ่นในละแวกนั้นตามเข้ามาสมทบกับผู้คนในบาร์ และเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเคียดแค้น หลังจากถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นเวลาหลายปี จากนั้นเหตุการณ์ค่อยๆสงบลงหลังจากผ่านไป 3 วัน

จากการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่ม LGBTQ ในครั้งนั้น ได้ปลุกกระแสให้เกิดการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างกว้างขวาง มีการจัดตั้งหน่วยงานอย่าง the Gay Liberation Front และ the Gay Activists Alliance เพื่อดำเนินการเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับกลุ่ม LGBTQ อย่างเป็นรูปธรรม

และในอีกหนึ่งปีถัดมา การเดินขบวน ‘Pride Parade’ หรือการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยมีเหตุการณ์ The Stonewall Uprising เป็นตัวขับเคลื่อนอุดมการณ์และจุดประกายให้ผู้คนออกมาต่อสู้เพื่อตัวเอง 

จากนั้นเป็นต้นมา กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ จึงได้จัดให้มีการเดินขบวน Pride Parade เป็นประจำทุกปี พร้อมกับสัญลักษณ์ธงสีรุ้ง ที่สื่อความหมายถึง ความหลากหลายทางเพศของกลุ่มคนที่อยู่ใน Gay Community อีกทั้งยังได้กำหนดให้เดือนมิิถุนายน เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือที่เรียกว่า ‘Pride Month’ นั่นเอง

จะเห็นได้ว่า กว่าที่กลุ่มคน LGBTQ จะได้รับการยอมรับจากคนในสังคมกระแสหลักเหมือนทุกวันนี้ พวกเขาต้องหลบซ่อน ต่อสู้ดิ้นรนกันมามากขนาดไหน ดังนั้น ปีนี้ 2021 แล้ว Connext ก็อยากจะให้ทุกคนลองปรับเปลี่ยนอคติที่มีต่อกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และเปิดรับพวกเราในฐานะที่เป็นมนุษยคนหนึ่งอย่างเท่าเทียมกัน เพราะ ‘ตราบใดที่ไม่ได้ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของใคร ทุกคนย่อมมีสิทธิได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเสรีเสมอ’        

อ้างอิง: CNN

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/life-hacks/pride-month-and-the-fight-of-lgbtq-for-their-human-right