“สิงคโปร์ยืนหนึ่ง” ประเทศที่พนักงานปรับตัวใช้ AI ได้เร็วที่สุดในโลก | Techsauce
talentsauce logo
ฝากประวัติ ค้นหา Tech Talent Talent Insights Job Hack Life Hacks News Video Podcast
“สิงคโปร์ยืนหนึ่ง” ประเทศที่พนักงานปรับตัวใช้ AI ได้เร็วที่สุดในโลก
By Suchanan Songkhor กันยายน 14, 2023
share facebook icon share facebook icon hover share x icon share x icon hover share line icon share line icon hover share icon share icon hover

“สิงคโปร์” หนึ่งในประเทศที่เป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชีย 

รายงานล่าสุดจาก LinkedIn เผยว่า “พนักงานประเทศสิงคโปร์สามารถนำ AI มาปรับใช้ในการทำงานได้เร็วที่สุดในโลก” และพบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราการเพิ่มทักษะ AI สูงสุดจากทั้งหมด 25 ประเทศ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เติบโตขึ้น 20 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2016 ที่ผ่านมา 

“สิงคโปร์ยืนหนึ่ง” ประเทศที่พนักงานปรับตัวใช้ AI ได้เร็วที่สุดในโลก

รายงานล่าสุดจาก LinkedIn เผยว่า “พนักงานประเทศสิงคโปร์สามารถนำ AI มาปรับใช้ในการทำงานได้เร็วที่สุดในโลก” และพบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราการเพิ่มทักษะ AI สูงสุดจากทั้งหมด 25 ประเทศ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เติบโตขึ้น 20 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2016 ที่ผ่านมา 

นอกจากประเทศสิงคโปร์แล้ว ยังมีอีก 4 ประเทศที่ตามมาติด ๆ คือ ฟินแลนด์มีอัตราเพิ่มขึ้น 16 เท่า, ไอร์แลนด์มีอัตราเพิ่มขึ้น 15 เท่า, อินเดียมีอัตราเพิ่มขึ้น 14 เท่า และแคนาดามีอัตราเพิ่มขึ้น 13 เท่า 

Pooja Chhabria หรือ ปูจา ชาเบรีย ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพและหัวหน้ากองบรรณาธิการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ LinkedIn กล่าวว่า สิงคโปร์เป็นศูนย์รวมคนทำงานที่มีทักษะด้าน AI เป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีในหลาย ๆ ด้าน เพราะมีโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแรง มีการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและมีนักลงทุนที่พร้อมเข้ามาหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ 

ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราจะเห็นแล้วว่าการเข้ามาของ AI หรือ Chat GPT ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ทันเทคโนโลยี ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Google และ Microsoft จนทำให้ใครหลายคนกังวลว่าในอนาคตเราจะถูก AI แย่งงานหรือไม่? 

งานที่จะถูก AI แทนที่

จากข้อมูลของ Goldman Sachs ระบุว่า จะมีตำแหน่งงานมากกว่า 300 ตำแหน่งทั่วโลกได้รับผลกระทบจาก AI หนึ่งในนั้นเป็นตำแหน่งงานที่อยู่ในกลุ่มธุรการและงานในสำนักงาน

ในขณะที่ทางฝั่ง LinkedIn วิเคราะห์ว่า “ครู” คือหนึ่งในอาชีพที่ AI จะเข้ามามีบทบาทถึง 45% ทั้งนี้ AI จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงาน ช่วยวางแผนการสอน รวมถึงออกแบบและพัฒนาหลักสูตรมากกว่า เพราะอย่างไรก็ตามอีก 53% อาชีพครูยังจำเป็นต้องพึ่งทักษะจากมนุษย์อยู่

อาชีพที่ AI เข้าไปช่วยได้ 

อาชีพที่ AI เข้าไปช่วยได้ ไม่ได้หมายความว่าอาชีพนั้นจะถูกแทนที่ด้วย AI แต่เป็นอาชีพที่ AI จะเข้าไปช่วยลดภาระงานของคุณในบางส่วนได้ ซึ่งมีทั้งหมด 6 อาชีพดังนี้

  • Software engineer 96%
  • พนักงานดูแลลูกค้า 76%
  • แคชเชียร์ 59%
  • Sale หรือ พนักงานขาย 59%
  • คุณครู 45%
  • ผู้จัดการงานอีเวนต์ 39%                                                                                                                                                                               

อาชีพที่ AI แทนที่ไม่ได้ 

LinkedIn ระบุว่า อาชีพที่ AI ยังแทนที่ไม่ได้ มีทั้งหมด 4 อาชีพดังนี้ 

  • พนักงานในแท่นขุดเจาะน้ำมัน
  • ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสิ่งแวดล้อม
  • แพทย์ 
  • พยาบาล

LinkedIn เสริมว่าปัจจุบันงานต่าง ๆ เริ่มถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพราะฉะนั้น Soft skills จึงเป็นทักษะที่สำคัญมาก ในขณะเดียวกัน Work Trend Index ของ Microsoft 2023 ระบุว่า 3 ทักษะสำคัญที่ควรมีในอนาคต คือ การตัดสินเชิงวิเคราะห์ ความยืดหยุ่น และความฉลาดทางอารมณ์ 

สุดท้ายนี้ Pooja Chhabria กล่าวว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนโลกทำงานของเรา แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำงานของเราด้วยเช่นกัน 


อ้างอิง : cnbc

No comment

คัดลอก URL

×

https://techsauce.co/talentsauce/life-hacks/singapore-is-one-of-the-countries-with-the-worlds-fastest-workforce-adapting-to-ai