เชื่อว่า ‘การฟังเพลง’ คงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลาย ๆ คนชอบ
หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าการฟังเพลงมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะช่วยให้เราหายเครียด ช่วยให้เราอารมณ์ดี ช่วยให้เรามีสมาธิ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่เราอารมณ์เสียหรืออารมณ์บ่จอย ถ้าสังเกตดี ๆ เพลงจะมีส่วนช่วยทำให้เราอารมณ์ดีและลดความหงุดหงิดลงได้ (แต่ต้องเลือกเพลงให้ถูกประเภทด้วยนะ)
แต่ประเด็นหลักที่เราจะพูดถึงไม่ได้อยู่ตรงนั้น สิ่งที่เราจะนำมาพูดคุยกันวันนี้ คือการฟังเพลงมีส่วนช่วยทำให้เราทำงานได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพได้จริง ๆ เหรอ ??
การฟังเพลงช่วยให้งานออกมาดี?
ขอเล่าก่อนว่าจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่กระแสการฟังเพลง Mozart มาแรง และเป็นที่นิยมมากในเหล่าบรรดาคุณแม่ตั้งครรภ์ นั่นเป็นเพราะอยากให้ลูกของตัวเองฉลาด ซึ่งแนวคิดนี้มาจากนักจิตวิทยา ชาวฝรั่งเศส ที่บอกว่า การฟังเพลงคลาสสิกมีผลดีต่อสมอง และช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้
นอกจากนี้ยังมีการทดลองจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ให้นักเรียนทำแบบทดสอบทางด้านจิตวิทยา ปรากฎว่ากลุ่มนักเรียนที่ได้ฟังเพลง Mozart ในขณะทำแบบทดสอบมีคะแนนสูงกว่านักเรียนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้ฟัง
หลังจากที่ทฤษฎีการฟัง Mozart Effect ถูกพูดถึงเรื่อย ๆ ทำให้เกิดการถกเถียงกับนักวิจัยหลายคนว่า ‘การฟังเพลงมันทำได้ขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ’
ซึ่งแน่นอนว่าบางงานวิจัยก็บอกว่าการฟังเพลงทำให้เราไม่มีสมาธิ เป็นการรบกวนสมองเปล่า ๆ แถมอาจทำให้งานเราทำงานไม่เสร็จด้วยซ้ำ กลับกันงานก็มีงานวิจัยอีกหลายชิ้นบอกว่าการฟังเพลงมีส่วนช่วยทำให้เราทำงานได้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพขึ้นได้จริง
จากงานวิจัยของ Teresa Lesiuk ศาสตราจารย์จาก University of Miami ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเพลงไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำงานของเราโดยตรง แต่การฟังเพลงจะส่งผลต่ออารมณ์ของเรา ทำให้เรารู้สึกไม่เครียดกับการทำงานมากกว่า ซึ่งอารมณ์ตรงนี้นี่แหละที่จะช่วยส่งผลให้งานของเราออกมาดี มีประสิทธิภาพ ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดี และไม่ใช่ทำงานดีขึ้นอย่างเดียวนะ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราอารมณ์ดี ไม่เครียด ร่างกายของเราจะหลั่งสาร ‘โดพามีน’ ที่มีผลต่อการควบคุมอารมณ์ ทำให้เราจดจ่อกับงานได้ดีอีกด้วย
แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าเพลงทุกแนวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ เราต้องเลือกฟังเพลงให้เหมาะสมด้วย วันนี้ ConNEXT เลยอยากแนะนำเทคนิคการเลือกฟังเพลงดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมาฝาก!
1. หมดแรง ต้องการ Energy ในการทำงาน
หากคุณกำลังหมดแรง ล้าจากการทำงาน แต่ต้องการพลังในการทำงานต่อ แนะนำว่าให้ฟังเพลงที่มีเสียงเบสหนัก ๆ หรือเพลงแนวร็อกไปเลย เพลงแนวนี้จะมีเสียงเบสที่หนักแน่นที่จะช่วยกระตุ้นให้เราตื่นตัว และกลับมาคึกคักในการทำงานได้ แอบบอกนิดนึงว่าถ้าคุณกำลังต้องพรีเซนต์งาน หรือพูดคุยกับลูกค้าการฟังเพลงแนวนี้จะช่วยได้มาก เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกหึกเหิม เและเพิ่มความมั่นใจได้
2. คิดงานไม่ออก ต้องการความคิดสร้างสรรค์เยอะ ๆ
ใครที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ ต้องการคิดไอเดียงาน แนะนำให้ไปดนตรีแนวคลาสสิก ดนตรีประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นระบบภายในสมอง ให้เกิดไอเดียเจ๋ง ๆ ขึ้นมาได้
3. รู้สึกว่าเริ่มฟุ้งซ่าน ต้องการสมาธิในการทำงานขั้นสุด
ใครที่ต้องการความผ่อนคลาย ต้องการสมาธิในการทำงานแบบจริง ๆ แนะนำว่าให้ไปฟังดนตรีประกอบที่ไม่มีเนื้อเพลง หรือที่เราจะเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือเสียงจากธรรมชาติ สิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสและมีสมาธิในการทำงานแบบขั้นสุด เช่น คลื่นทะเล เสียงน้ำตก เสียงนกเสียงไม้ หรือจะเสียงดนตรีแนวเพลิน ๆ อะไรก็ได้ใช้ได้หมด
4. อยากงานเสร็จไวขึ้น ให้เลือกเพลงที่ชอบ
ถ้าเกิดว่าฟังเพลงบรรเลงแล้วรู้สึกฟังแล้วง่วง ฟังแล้วจะหลับตลอด แนะนำให้ฟังพลงที่เราชอบหรือเพลงโปรดของเราได้ไปเลย เพราะเพลงที่เราชอบจะช่วยทำให้สมองของเราปลอดโปร่ง และอารมณ์ดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้เหมือนกัน แถมการฟังเพลงที่เรายังช่วยให้เราทำงานเสร็จได้เร็วขึ้นด้วนนะ
5. ใครที่มีงานด่วน งานเร่ง ต้องรีบคีย์เอกสาร เพลงแนวนี้ช่วยได้
หากใครที่ไม่ชอบฟังเพลงบรรเลง เพลงที่ชอบก็ฟังจนเบื่อแล้ว เพลงป็อปเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพลงแนวนี้จะเหมาะกับคนที่ทำงานด้านเอกสาร ต้องกรอกข้อมูล ซึ่งจากผลงานวิจัยบอกว่าการฟังเพลงแนวนี้จะช่วยให้เราสามารถกรอกข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 58% ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้ฟังเพลง และช่วยลดข้อผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลได้ถึง 14%
นอกจากเพลงแนวนี้จะเหมาะกับด้านเอกสารแล้ว ยังเหมาะกับคนที่มีงานด่วน งานเร่ง งานที่ไฟล่นสุด ๆ เพราะว่าจังหวะของเพลงป็อปมีส่วนช่วยกระตุ้นอารมณ์และร่างกายของเราให้ตื่นตัว นอกจากนี้จังหวะเพลงที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จะช่วยให้เราทำงานเร็วขึ้นตามแบบที่เราแทบไม่รู้ตัวอีกด้วย